
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แจ้งเรื่อง นายกรัฐมนตรีสั่งแก้ปัญหาตั๋วเครื่องบินแพงแบบครบวงจรเร่งแผนระยะสั้น-ระยะยาวขยายขีดความสามารถทั้งระบบให้ทันการเติบโตของดีมานด์ โดยระบุว่า
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รายงานสรุปกรณีราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น พร้อมทั้งแนวทางในการแก้ไขต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และได้สั่งให้เร่งดำเนินการทั้งในส่วนที่กระทรวงคมนาคมได้เริ่มดำเนินการไปแล้วและแผนดำเนินการต่างๆ ตามที่เสนอ เพื่อลดปัญหาจากช่องว่าง ระหว่างปริมาณความต้องการเดินทางกับความสามารถในการรองรับของระบบการบินที่แตกต่างกันอย่างมากในปัจจุบัน จนเป็นสาเหตุของราคาตั๋วโดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น เกิดผลกระทบกับประชาชนและการท่องเที่ยวของประเทศ
ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ค่าโดยสารเส้นทางภายในประเทศของ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ประจำเดือน มี.ค.66 ระบุว่า อัตราค่าโดยสาร (ต่อเที่ยว) ในเส้นทางบินกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับการร้องเรียนว่าค่าโดยสารราคาแพงมากที่สุด
พบว่า อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยซึ่งต่ำกว่าราคา 2,500 บาท คิดเป็น 82.5% ของตั๋วโดยสารทั้งหมด ในขณะที่ราคาสูงกว่า 2,500 บาท คิดเป็น 17.5% โดยราคาบัตรโดยสารจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาล ผู้โดยสารจะได้ราคาต่ำที่สุดเมื่อจองตั๋วล่วงหน้านานๆ และจะค่อยๆ แพงขึ้นจนถึงราคาสูงสุดไม่เกินเพดานที่กำหนดเมื่อซื้อตั๋วกระชั้นชิดกับวันที่ต้องการเดินทาง
ราคาค่าโดยสารเครื่องบินในช่วงเทศกาล ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะในกรณีที่จองหรือซื้อตั๋วในระยะเวลากระชั้นชิด แสดงให้เห็นถึงลักษณะตลาดที่เป็นของผู้ขาย เป็นผลจากการที่ปริมาณความต้องการเดินทางภายในประเทศปัจจุบันมีสูงขึ้นมาก
เนื่องจากภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงและรัฐบาลประสบความสำเร็จจากนโยบายการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย.64 เป็นต้นมา
ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าออกประเทศไทยมากกว่า 140,000 คนต่อวัน และเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมกับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยเอง
ขณะที่ความสามารถของระบบการบินซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินเพื่อรองรับปริมาณความต้องการได้เพียงพอ ทำให้ตั๋วโดยสารในบางช่วงเวลาเป็นที่ต้องการมากแม้จะมีราคาสูงมากก็ตาม
ลุ้น ‘กระทรวงคมนาคม’ ว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้หรือไม่