การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุม นัดแรก วันนี้ (13 ก.ย.66) มีมติลดราคาน้ำมันดีเซล โดยการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต ส่วน น้ำมันเบนซิน ปรับลดด้วยวิธีการลดค่าการตลาด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.45-5.57 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ถึง 31 ธ.ค.66
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า จะเสนอมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ในอัตรา 2 บาทต่อลิตร ต่อ ครม. เพื่อทำให้ราคาลดเหลือไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันระดับ 32 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยพยุงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ช่วยเหลือประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ หากไม่ใช้เครื่องมือภาษี คาดว่าจะหันไปใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอุดหนุน แต่ต้องกำหนดวงเงินอุดหนุนชัดเจน เพราะปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ติดลบค่อนข้างสูง และยังมีภาระต้องดูแลราคาดีเซลและแอลพีจี จนเมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 ติดลบถึง 59,085 ล้านบาท เข้าอุดหนุนดีเซลระดับ 6 บาทต่อลิตร ประกอบกับราคาน้ำมันโลกผันผวน
ส่วนการลดค่าไฟ จะให้ลดลงเหลือหน่วยละ 4.10 บาท จากเดิมหน่วยละ 4.45 บาท เริ่มรอบบิล ก.ย.66 ทันที
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังมีมติอนุมัติฟรีวีซ่าของจีน และ คาซัคสถาน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66 ถึง 29 ก.พ.67 เพื่อกระตุ้นมาตรการการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น รวมทั้งพิจารณางบประมาณสำหรับอุดหนุนเด็กแรกเกิด 0-6 ปี เดือนละ 600 บาท ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
