
ตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ มีนโยบายให้ธนาคารทุกแห่งที่ให้บริการโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน ยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบนแอปพลิเคชันธนาคาร เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับมิจฉาชีพ โดยกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนเมื่อทำธุรกรรมตามกำหนด เริ่มภายในเดือน มิ.ย.66
โดยขณะนี้ มีแล้วหลายธนาคาร เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ที่ประกาศให้ผู้ใช้งาน นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคาร พร้อมสแกนใบหน้า ในกรณีที่ต้องทำธุรกรรมบางอย่าง
เมื่อใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร โมบายแบงก์กิ้ง มีดังนี้ 1.โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง 2.มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน และ 3.ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
ทั้งนี้ มี 2 ธนาคาร ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็มได้ คือ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย
โดยที่ผ่านมา 'ธนาคารกสิกรไทย' ได้เก็บใบหน้าของลูกค้าจากการเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมกับธนาคารอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ สามารถทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ได้ทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ยกเว้นลูกค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้เท่านั้น ที่ต้องลงทะเบียนใบหน้าใหม่ โดยนำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคาร หรือติดต่อสาขา โดยเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.66 เป็นต้นไป
ส่วน 'ธนาคารกรุงไทย' ให้ยืนยันตัวตนเฉพาะตู้เอทีเอ็มสีเทาเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ยืนยันตัวตนผู้ที่ใช้งานแอปพลิเคชั่น 'เป๋าตัง' ดังนั้น หากผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นกรุงไทย Next ที่เคยยืนยันตัวตนบนแอปเป๋าตังแล้ว ก็ไม่ต้องไปยืนยันตัวตนรอบนี้ แต่หากไม่มั่นใจ ให้นำบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนพร้อมสแกนหน้าได้
ใครใคร่สะดวกแบบไหน ก็เลือกยืนยันตัวตนแบบนั้นได้เลยนะคะ แต่รีบดำเนินการภายในเดือน พ.ค.66 นี้น้า