
ข่าวใหญ่วันนี้ (12 ม.ค. 2566) บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น หรือ BCP ประกาศเข้าซื้อกิจการ ‘เอสโซ่ ประเทศไทย’ มูลค่า 55,500 ล้านบาท ได้โรงกลั่น 1.7 แสนล้านบาร์เรล คลังน้ำมัน และเครือข่ายปั๊มน้ำมันอีก 700 แห่ง โดยส่วนที่ลงนามซื้อขายแล้ว คือ หุ้นสัดส่วน 65.99% ซึ่ง BCP ได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อ 11 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นที่ซื้อขายทางตรงที่ราคาซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตามกลไกการปรับราคาที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น โดยคาดว่าเงื่อนไขบังคับจะเสร็จสมบูรณ์และบริษัททำการซื้อขายหุ้นที่ซื้อขายได้ภายใน 12 เดือน หลังจากวันทำสัญญาซื้อขายหุ้นหากเงื่อนไขบังคับเสร็จสิ้นและบริษัทและผู้ขายได้โอนหุ้นและชำระราคาตามธุรกรรมการซื้อขายหุ้น โดยมีสมมติฐานผู้ถือหุ้นทุกรายใน ESSO ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด หุ้นสามัญที่บริษัทได้มาจะเท่ากับ 3,460.858 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% และคิดเป็นเงินประมาณ 33,312 ล้านบาท(อิงงบการเงิน ณ 30 มิ.ย.65) หรือมูลค่า 30,608 ล้านบาท(อิงงบการเงิน ณ 30 ก.ย.65)
บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ESSO จำนวนไม่เกิน 1,177.108 ล้านหุ้น คิดเป็น 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว มีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้
ทั้งนี้ “บางจาก” ประเมินมูลค่ากิจการ ESSO ไว้ที่ 55,500 ล้านบาท แต่ได้ตั้งกลไกปรับราคาหุ้นที่ซื้อขายไว้ตามความผันผวนของธุรกิจ ซึ่งจะอิงจากงบการเงินล่าสุดก่อนวันทำธุรกรรรมเสร็จสิ้น ตัวอย่างเช่น
- หากคำนวณราคาซื้อขายหุ้น อิงงบฯ วันที่ 30 มิ.ย. 65 จะคิดเป็นเงิน 33,312 ล้านบาท
- หากคำนวณราคาซื้อขายหุ้น อิงงบฯ วันที่ 30 ก.ย. 65 จะคิดเป็นเงิน 30,608 ล้านบาท
ทำให้เมื่อ ‘บางจาก’ เตรียมซื้อในสัดส่วน 65.99% ก็จะต้องจ่ายในราคาราว 20,000 ล้านบาท โดยราคาซื้อกิจการจะขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในช่วงที่ ‘บางจาก’ เซ็นสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการแต่จากข้อมูลที่บางจากทำให้เป็นตัวอย่าง คือ
– ราคาซื้อกิจการ ESSO ของเดือนมิถุนายน 2565 จะคำนวณได้เป็น 963 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อขาย 21,982 ล้านบาท
– ราคาซื้อกิจการ ESSO ของเดือนกันยายน 2565 จะคำนวณได้เป็น 884 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมของหุ้นที่ซื้อขาย 20,198 ล้านบาท
ทำให้ราคาหุ้นที่ ‘บางจาก’ จะทำการซื้อจาก ExxonMobil ต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน หรือหมายความว่า บางจากสามารถซื้อเอสโซ่ได้ในราคาถูกกว่าราคาตลาดสำหรับแหล่งเงินทุน บางจากฯ จะใช้เงินทุนทั้งแหล่งภายนอกจากสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และ
จากกระแสเงินสดภายในบริษัทและเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นจาก Exxon Mobil เสร็จสิ้น อนึ่ง Exxon Mobil จะยังคงดำเนินธุรกิจนำเข้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและเคมีภัณฑ์ในประเทศไทยต่อไป
โดยการเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นจะอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 โดยคาดว่าจะดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566
สามารถติดตามประกาศแจ้ง จากบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น : เอกสารประกาศ บางจาก เข้าซื้อหุ้น เอสโซ่