
#ค่าไฟ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เช้าวันนี้ (18 เม.ย.66) เนื่องจากชาวเน็ตหลายคน ไม่ทนกับค่าไฟที่พุ่งขึ้นพรวด ไม่ว่าจะเทียบกับบิลค่าไฟเก่า ในเดือนเดียวกันกับปีก่อน หรือเดือนก่อนหน้า ในปีเดียวกัน ก็ดูจะต่างกันอยู่หลายบาท
พากันตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า ทําไมค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติ?
เริ่มตั้งแต่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ รายหนึ่ง ซึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า เห็นค่าไฟแล้วหนาวเลอ จากเฉลี่ยเดือนละ 2,500 มากสุด 3 พัน เดือนนี้ทะลุไป 4 พันจ่ะแม๊! เดือนที่แล้วก็ใช้พอๆ กันนะ แต่ก็แค่ 468 หน่วย เดือนนี้มัน 754 หน่วยแบบงง ๆ เทียบค่า ft. เม.ย.
> ปีที่แล้ว 0.0139 = 7.71 บาท
> ปีนี้ 0.9343 = 704.46 บาท
ขณะเดียวกัน บางทวิตเตอร์ ยังมีการลงภาพยอดค่าไฟเดือนล่าสุดที่ต้องชำระ ที่แม้จะไม่ระบุว่า เป็นไฟบ้านหรือไฟโรงงาน แต่ก็ทำเอาหลายคนอดตั้งคำถาม รวมถึงวิจารณ์ในหลายๆ ประเด็นไม่ได้ว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟแพงพุ่งขึ้นสูงได้ขนาดนี้
หรืออย่างกรณีที่เห็นภาพชัดเจน โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ภาพบิลค่าไฟ พร้อมอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องนำรูปบิลค่าไฟเดือนดังกล่าวมาลงให้ดู เนื่องจาก
"ค่าไฟ ปกติไม่เคยจ่ายเกิน 1,500 บาท แต่รอบนี้ต้องจ่ายเดือนนี้ถีบขึ้นไป 1 เท่าตัว"
ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่ให้เหตุผลของค่าไฟแพงครั้งนี้แพงกว่าปกติว่า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากปัญหาอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างมากช่วงตลอด 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้งานโซเชียลบางรายให้ข้อมูลว่า ใช้ชีวิตส่วนตัวปกติเหมือนทุกๆ เดือนที่ผ่านมา ไฟในบ้านก็จะเปิดตามช่วงเวลาประจำ เนื่องจากส่วนใหญ่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่สุดท้าย ค่าไฟก็ยังขึ้นจากปกติอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าไฟแพงในรอบเดือนเม.ย.66 ที่ผ่านมานี้ว่าหนักแล้ว แต่บอกเลยว่า เดือนหน้าหนักกว่านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกมาแจ้งปรับค่าเอฟที ค่าไฟรอบเดือนพ.ค.-ส.ค.66 ซึ่งจะปรับค่าเอฟทีเป็น 98.27 สตางค์ต่อหน่วย และจะส่งผลให้ผู้ใช้ไฟบ้านต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นจาก 4.72 บาทต่อหน่วย เป็น 4.77 บาทต่อหน่วย
ขณะที่ ภาคธุรกิจเอกชนจากที่เคยจ่าย 5.33 บาทต่อหน่วย จะเหลือ 4.77 บาทต่อหน่วย โดยภาพรวมสำหรับคนใช้ไฟบ้าน ค่าไฟขึ้นหน่วยละ 1.05% นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไร แม้เดือนหน้าอากาศจะเย็นลง แต่ใช่ว่าจะช่วยลดเรื่องการใช้ไฟลงได้