
หลังจากก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในงบประมาณราว 5.6 แสนล้านบาท จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย
ทำให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากเทคโนโลยีแบบเดิม เพื่อประโยชน์ของการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้ให้สัมภาษณ์วันนี้ (7 ก.ย.66) ว่า ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นการใช้บล็อกเชนอย่างแน่นอน โดยจะใช้ได้ภายในไตรมาสแรกปี 2567
"ตอนนี้ไม่อยากให้มีการพูดคุยกันไปหลายอย่าง จนทำให้เกิดความสับสน อีกทั้ง ยังไม่ได้เข้าบริหารงานอย่างเป็นทางการ อยากให้มีการแถลงนโบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อน ขอให้ใจเย็นๆ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บข้อมูล
ซึ่งเมื่อวาน (6 ก.ย.66) ก็ได้หารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ที่ได้ให้ข้อมูลหลายเรื่องรวมถึงให้คำแนะนำถึงการออกดิจิทัลวอลเล็ต แล้วในระยะกลางและระยะยาวระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร ตัวเลขหนี้สาธารณะจะเป็นอย่างไร ซึ่งท่านก็เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้น จึงต้องพูดคุยกันให้ชัดเจนก่อน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปแล้วเกิดความเข้าใจผิด" นายเศรษฐา กล่าว
ซึ่งสอดคล้องกับที่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เคยบอกก่อนหน้านี้ ว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ทำขึ้นโดยระบบบล็อกเชนที่สร้างโดยรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับภาคเอกชน เป็นระบบการเงินที่ทันสมัย และจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่มีการชำระเงินรูปแบบนี้ อีกทั้ง หลังจากโครงการนี้เสร็จสิ้น ระบบนี้จะกลายเป็นสมบัติของประเทศ
เทคโนโลยี 'บล็อกเชน' คืออะไร
บล็อกเชน คือ เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง และได้ถูกนำมาใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ของพรรคเพื่อไทย หรือ นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ซึ่งการใช้บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยให้สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้เงิน ต่างจากการแจกเงินรูปแบบเดิมที่ไม่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้
นอกจากนี้ ข้อดีของบล็อกเชน คือ "โปร่งใส ไม่เสี่ยงล่ม" ข้อมูลที่ถูกส่งไปให้ผู้ใช้ทุกคนในบล็อกเชน จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่ง อีกทั้ง ตัวระบบมีความทนทานสูง และยังมีความ "รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายต่ำ" เป็นช่องทางส่งเหรียญดิจิทัลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่ใช้เวลาประมวลผลน้อยมาก และมีค่าใช้จ่ายต่ำเมื่อเทียบกับการโอนเงินจริงผ่านธนาคาร
ขอบคุณข้อมูลจาก: Bitkub (บิทคับ)
เงื่อนไขการใช้ 'กระเป๋าเงินดิจิทัล'
1.สามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลนี้ ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค หรือ เครื่องมือทำกิน ในร้านค้า ในรัศมี 4 กิโลเมตร จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (ใช้จ่ายในรัศมีที่กำหนดแต่ปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกคน)
2.ไม่สามารถซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้
3.รับเงินผ่าน 'กระเป๋าเงินดิจิทัล' (ดิจิทัลวอลเล็ต)
4.ที่ต้องกำหนดการใช้จ่ายในรัศมีที่กำหนดนั้นเพื่อ ต้องการกระจายการจับจ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และท้องถิ่นทั่วประเทศ
5.การใช้จ่ายได้ภายใน 6 เดือน จะใช้ทีเดียว หรือ ทยอยใช้ก็ทำได้ ด้วยบัตรประชาชน ผ่านแอปพลิเคชัน
6.ไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสดได้
7.กรณีไม่มีโทรศัพท์มือถือไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้ ขอแค่มีบัตรประจำตัวประชาชนและโค้ดสำหรับการใช้จ่ายก็สามารถใช้เงินดิจิทัลได้
ซึ่งทั้งหมดนี้ พรรคเพื่อไทย ยังคาดการณ์ว่า จากนโนบายดังกล่าว จะสามารถสร้างประโยชน์ได้แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น: เพิ่มเงินในระบบ (ราว 3 ล้านล้านบาท) ระยะกลาง: วางมาตรการและเงื่อนไขให้รัฐเก็บภาษีคืนได้ และ ระยะยาว: วางโครงสร้างพื้นฐานประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล