สุดอลเวง! รองเลขาฯ 'ภูมิศิษฐ์' ยื่นฟ้อง ประธาน กสทช. เอาผิดมาตรา 157

ซัดกันนัว! รองเลขาฯ 'ภูมิศิษฐ์' ยื่นฟ้อง 'หมอไห่' ประธาน กสทช. ต่อศาลอาญาทุจริตฯ ร้องเอาผิด ม.157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
สุดอลเวง! รองเลขาฯ 'ภูมิศิษฐ์' ยื่นฟ้อง ประธาน กสทช. เอาผิดมาตรา 157

กสทช. ภายใต้บังเหียนของ 'หมอไห่' หรือ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ว้าวุ่นไม่เลิก เกิดความขัดแย้งภายในองค์กรอิสระ หลังบอร์ดและสำนักงานฟ้องกันนัว ไล่มาตั้งแต่คดีลิขสิทธิ์บอลโลกสุดฉาว จนดราม่าเปลี่ยนตัวเลขาฯ เกิดปมร้าวลึก

ล่าสุด รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตฯ ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เหตุประธาน กสทช. ไม่ลงนามสั่งแต่งตั้ง สวนมติบอร์ดที่เคาะแล้ว ซ้ำยังตั้งกรรมการสอบตนเพียงผู้เดียว ทั้งที่เป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุม เป็นการจงใจกลั่นแกล้งทำให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

โดย ผศ.ดร. ภูมิศิษฐ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 'หมอไห่' เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 เหตุจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่ที่ไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ผศ.ดร. ภูมิศิษฐ์ ตามมติ กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ ข้อ 6 ที่ประธานกรรมการ กสทช. มีหน้าที่ต้องแต่งตั้งรองเลขาธิการโดยความเห็นชอบของ กสทช.เป็นผู้รักษาการแทน

ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดจากมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ที่ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯ กับ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. จากกรณีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการกรณีสำนักงาน กสทช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

และเห็นชอบให้เปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. โดยเห็นชอบให้แต่งตั้ง ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ในระหว่างการสอบสวน เนื่องจากเป็นรองเลขาธิการ กสทช. ที่มีอาวุโสสูงสุด ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ 

ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์

แต่ต่อมากลับมีข่าวประชาสัมพันธ์ จากงานเลขานุการประธาน กสทช. ในทำนองการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่พนักงาน กสทช. เกิดการกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา

พร้อมทั้งประกาศว่า ประธาน กสทช. ยังไม่ได้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายไตรรัตน์ และยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ ให้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. แทน โดยนายไตรรัตน์ ยังเป็นรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ กสทช. ทุกประการ ซึ่งในระหว่างนั้น นายไตรรัตน์ ได้ลงนามคำสั่งต่างๆ ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กสทช. อยู่เช่นเดิม รวมถึงลงนามยกเลิกคำสั่งให้มีการสอบสวนตนเองอีกด้วย

ซึ่งนอกจาก ประธาน กสทช. จะไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ ตามมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 แล้ว ยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์ เพียงผู้เดียวทั้งที่เป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุม กสทช. ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจงใจกลั่นแกล้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

ดังนั้น การกระทำของจำเลย (ประธาน กสทช.) จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นการประพฤติมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ (ผศ.ดร.ภูมิศิษฐ์) ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

No stories found.

ข่าวยอดนิยม

No stories found.
logo
ข่าว อีจัน
www.ejan.co