
นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ถูกวิจารณ์หนักมากเรื่องการใช้งบประมาณ เพราะต้องใช้วงเงินมากถึง 560,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2566 ซึ่งรัฐบาลตั้งงบลงทุนรวมทั้งหมด 492,341 ล้านบาท ต่างกันมากโข ทั้งๆ ที่ผลกระทบกับเศรษฐกิจก็อาจจะไม่ได้มากเหมือนที่คาดการณ์เอาไว้
เงื่อนไขการใช้มีอะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 50 ล้านคน สนับสนุนครั้งเดียว เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในร้านค้า เอสเอ็มอี อุตสาหกรรม ที่อยู่ในระยะทางไม่เกิน 4 กิโลเมตร จากที่อยู่อาศัยในบัตรประชาชน ให้หมดภายใน 6 เดือน เหตุผลที่ต้องกำหนดกรอบเวลาก็เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยโดยเร็ว
แต่จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมา และหลังจากการพูดคุยกับประชาชน ในพื้นที่ห่างไกลที่ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้าอยู่เลย ก็อาจจะเป็น 6 หรือ 7 กิโลเมตร เพื่อให้สอดคล้องตรงตามความต้องการ
"หากที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่ จ.เชียงราย แน่นอนว่าจะไม่สามารถใช้ใน กทม. ได้ ทั้งหมดก็เพื่ออยากประชาชนไปใช้เงินที่บ้าน กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะกรุงเทพ หรือตามหัวเมืองใหญ่ เพียงอย่างเดียว และอย่างน้อยใน 6 เดือนนั้น ก็อยากให้ประชาชนได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เยี่ยมญาติ เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว" นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าว
โดยจะใช้เงินจาก 4 แหล่งที่มา ได้แก่ รายรับจากภาษีของรัฐบาลในปี 2567 ซึ่งประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 แสนล้านบาท, การจัดเก็บภาษีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1 แสนล้านบาท, การบริหารจัดการงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท และการบริหารงบประมาณสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะเริ่มให้ประชาชนใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป
ขณะที่ ข้อมูลจากสปริงนิวส์ (SPRING) ระบุว่า ธนาวุฒิ นาบรรดิฐ นักพัฒนาเว็บอิสระ ที่ระบุเลขบัญชีของตนเองไว้ในเว็บไซต์ 4km.jaytnw.com ในฐานะผู้พัฒนาเว็บ ซึ่งมีฟีเจอร์หลักคือการสำรวจรัศมี 4 กิโลเมตรจากจุดที่ถูกปักหมุด ขานรับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย
ภายในเว็บ 4 กิโลเมตร จะมีหมุด 1 อัน และช่องค้นหาที่อยู่ของเราเอง ที่ใช้ระบบของ MapBox ซึ่งโดยรอบหมุดมีรัศมีที่ตั้งเป็นค่าพื้นฐานที่ 4 กิโลเมตรรอบหมุด และสามารถปรับแต่งรัศมีได้ด้วย ดังนั้น สำหรับบ้านที่อยู่ไกลปืนเที่ยงจะได้วางแผนการใช้จ่ายได้ถูก ก่อนนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทถูกนำออกมาใช้จริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: