เมื่อวานนี้ (26 ม.ค. 65) เว็บไซต์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่ผลการหารือร่วม ระหว่าง ธปท., สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), และกระทรวงการคลัง ในเรื่องของประโยชน์และความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีใจความว่า ทุกฝ่ายได้เห็นความจำเป็นในการกำกับดูแลและควบคุม รวมทั้งประโยชน์และความเสี่ยง ในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลาง ในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน และระบบเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในลักษณะให้บริการ ชักชวนหรือแสดงตน ว่าพร้อมจะให้บริการแก่ร้านค้าและผู้ประกอบการ ในธุรกิจต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เข้ามามีบทบาทในลักษณะดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัล มาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการเป็นวงกว้าง นอกเหนือจากวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงิน และระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงเป็นความเสี่ยงต่อประชาชนและธุรกิจ อาทิ ความเสี่ยงจากการสูญมูลค่าที่เกิดจากความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน
โดยหน่วยงานที่กำกับดูแล ต่างตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบดังกล่าว จึงพิจารณาใช้อำนาจตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าหรือบริการในวงกว้าง และจะมีแนวทางกำกับดูแลที่เหมาะสม สำหรับบริการที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท ที่เป็นประโยชน์ต่อนวัตกรรมทางการเงินและไม่สร้างความเสี่ยงเชิงระบบที่กล่าวถึงข้างต้น โดยคำนึงถึงทั้งการเพิ่มศักยภาพของระบบการเงินของประเทศ และประโยชน์ของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและประชาชนต่อไป
ซึ่งนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ธปท. คำนึงถึงทั้งความเสี่ยงและประโยชน์ของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเทคโนโลยีเบื้องหลัง และมองว่า ณ ขณะนี้การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลาง ในการชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลาย จะทำให้เกิดความเสี่ยง ต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ จึงควรมีการกำกับดูแลที่ชัดเจน ขณะที่เทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวก็ควรได้รับการสนับสนุนโดยมีกลไกดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดนวัตกรรมและประโยชน์ต่อประชาชน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า จากการหารือร่วมกันกับ ธปท. และกระทรวงการคลัง ทาง ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล ควบคู่ไปกับการคุ้มครองผู้ซื้อขายอย่างเหมาะสม และให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ จากสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ จึงได้เปิดรับฟังความคิดเห็น เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและบริการ เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ต่อไป