กกร.เตรียมขอ ‘นายกฯ’ ทบทวนขึ้นค่าไฟ เดือน พ.ค.-ส.ค.

กกร.เตรียมส่งหนังสือถึง ‘นายกฯ’ ทบทวนค่าไฟรอบบิล พ.ค.-ส.ค. เหลือ 4.40 บาทต่อหน่วย

หน้าร้อนกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เป็นของคู่กัน โดยเฉพาะปีนี้ที่ประชุม กกพ. ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที หรือค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ สำหรับเรียกเก็บงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66

และเห็นชอบค่าเอฟที สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เป็นอัตราเดียวกัน เท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย

ค่าไฟ เดือน พ.ค.-ส.ค.ขึ้นที่ 4.77 บาทต่อหน่วย

ซึ่งอัตราค่าไฟดังกล่าว เมื่อเทียบกับงวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย.66) ที่เราใช้อยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครัวเรือนที่คงราคาไว้ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ครัวเรือน จ่าย 5.33 บาทต่อหน่วย พบว่า ครัวเรือนแพงขึ้น 5 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนธุรกิจถูกลง 56 สตางค์ต่อหน่วย

ซึ่งในที่ประชุม กกร. หรือ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 เม.ย.66

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินวันที่ 7 เม.ย.66 กกร.จะส่งหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ขอให้พิจารณาทบทวนอัตราค่าเอฟทีงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ให้เป็นไปตามแนวโน้มราคาน้ำมันโลกที่ลดลง

โดยขอให้ประเมินค่าไฟอัตรา 4.40 บาทต่อหน่วย ลดลงจากปัจจุบันที่ 4.70 บาทต่อหน่วย เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ โดยเสนอให้คงระยะเวลาการคืนหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เป็นระยะ 3 ปี เพิ่มจากเดิม 2 ปี

“กกร.เห็นว่า กพช.ควรทบทวนค่าเอฟที เนื่องจากสถานการณ์ราคาพลังงานทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง รวมถึงขอให้ภาครัฐเร่งจัดตั้งกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ด้านพลังงาน

เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมให้ความเห็น ในการกำหนดนโยบายด้านพลังงาน สามารถบรรเทาผลกระทบต่อทุกภาคส่วน เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” นายเกรียงไกร กล่าว

ค่าไฟจะพุ่งขึ้น พอๆ กับอุณหภูมิหรือไม่ ต้องติดตามว่า ที่ประชุม กพช. จะพิจารณาทบทวนเรื่องนี้อย่างไร

คลิปแนะนำอีจัน
ส่วยรถบรรทุก สิทธิเหนือกฎหมาย