รมว.คลัง ปิดฉากมาตรการ “คนละครึ่ง” ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้ว

รมว.คลัง ชี้สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ถือว่ากลับมาฟื้นตัวแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการ “คนละครึ่ง” อีกต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปิดฉาก “คนละครึ่ง” ดับลุ้นเฟสใหม่ เผยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันฟื้นตัวแล้ว ถึงเวลาต้องลดเงินช่วยเหลือ พร้อมเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน5.5 ล้านล้านบาท ฟื้นเศรษฐกิจไทย ด้านหอการค้าเข้าใจคลังภาระเยอะ แต่จะยังมีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆเป็น “ของขวัญปีใหม่” ให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ถือว่ากลับมาฟื้นตัวแล้ว ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การบริโภค การใช้จ่ายที่กลับมาต่อเนื่อง ดังนั้นวันนี้จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการ “คนละครึ่ง” อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีความจำเป็นแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่กระทรวงการคลังเน้นย้ำคือการแก้ไขปัญหาหนี้สินต่างๆ ของประชาชนที่ยังต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง 


“วันนี้การใช้จ่ายของประชาชน อัตราการใช้จ่ายแม้กระทั่งในไตรมาส 3 ตัวเลขออกมาค่อนข้างดี เพราะฉะนั้นความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปสนับสนุนในเรื่องของโครงการที่ออกทางช่วยอย่างนี้ ก็อาจจะลดน้อยลงไปนะครับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

นายอาคมกล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ในส่วนภาครัฐจะเร่งเดินหน้าลงทุน​โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์​ ลดต้นทุนการขนส่งให้ภาคเอกชน โดยประเมินว่าประเทศไทยจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วง 8 – 10 ปี เป็นมูลค่า 5 ล้านล้านบาท​ อาทิ ด้านสาธารณูปโภค​ พลังงาน​ เป็นต้น ​ซึ่งจะระดมทุนจากการออกพันธบัตรเงินกู้ และงบประมาณภาครัฐ

ทั้งนี้สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 6 หรือ “คนละครึ่งเฟส 6” ไม่มีความจำเป็นต้องมีอีก เพราะการบริโภคฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ยังคงมีมาตรการส่วนอื่นๆ ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้แก่ประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเสนอจากหน่วยงานที่เกี่ยว และหนึ่งในมาตรการพิเศษนี้จะมีมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการ “ลดหย่อนภาษี” ในปีหน้าด้วย

อีกทั้งด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการคนละครึ่งถือว่าเข้าใจได้ เพราะการออกมาตรการใดก็ตาม ย่อมมีภาระต่อภาคการคลัง ต้องนำเงินภาษีของประชาชนมาอุดหนุน แต่ที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนหลังจากนี้ คือการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ด้วยการลดข้อจำกัดต่าง ๆ ลงไป อาทิ การเปิดให้ต่างชาติสามารถซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยได้ และใช้โอกาสในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ต่อยอดการจัดประชุมเอเปค ที่ผ่านมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด

คลิปแนะนำอีจัน
งมหอยฆ่าเวลา รอกู้ภัยมาช่วย