รู้จัก จ.สตูล กับความเหลื่อมล้ำ ที่หลายคน (อาจ) ยังไม่รู้

เที่ยว จ.สตูล ที่ไม่ได้มีแค่ เกาะหลีเป๊ะ กับความเหลื่อมล้ำที่หลายคน (อาจ) ยังไม่รู้ และต้องไม่ตายอย่างสมัครใจ

ลูกเพจ ‘อีจัน’ เคยไปเที่ยว จ.สตูล กันไหม? 


ที่ถามเพราะเรายังไม่เคยไป ฝากใครที่เคยไปมาแล้ว หรือมีภูมิลำเนา บ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่นั่น แวะมาขายของ รีวิวสถานที่เที่ยว สุดอันซีน ที่ชีวิตนี้ต้องห้ามพลาดที่จะไปเยือนซักครั้ง ให้ฟังหน่อย ถ้ามีโอกาสสัญญาว่า จะบินไปเยือนให้ได้แน่นอน 


อย่างไรเสีย แม้เราจะยังไม่เคยไป แต่จะขอหยิบยกข้อมูลที่น่าสนใจ ที่พอมีอยู่ในมือตอนนี้มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน 


จ.สตูล เป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย ทางชายฝั่งทะเลอันดามัน เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียง 2,478.977 ตร.กม. หรือประมาณ 1,549,361 ไร่ เล็กเป็นอันดับที่ 14 ของประเทศ


แต่รู้หรือไม่ว่า จังหวัดเล็กๆ นี้ สร้างเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาคการท่องเที่ยวได้ปีๆ หนึ่ง ไม่น้อย อย่างในปี 2565 ที่แม้การท่องเที่ยวจะยังไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่ตามข้อมูลของการท่องเที่ยว จ.สตูล ก็ว่า มีเม็ดเงินไหลเข้าแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท และกระจุกตัวอยู่ตามเกาะดังๆ อย่าง เกาะหลีเป๊ะ เกาะหินงาม เกาะตะรุเตา เป็นส่วนใหญ่

ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Korn Didsakorn Chanasri ได้สะท้อนภาคการท่องเที่ยว จ.สตูล ในอีกมุมมองหนึ่ง ว่า


สตูลเมืองที่ตายโดยสมัครใจ !!

สงกรานต์ที่ผ่านมาผมกลับมาสตูล เพื่อมาดูแนวโน้มการลงทุนทำคาเฟ่ และคิดว่าลงทุนอีก 2-3 อย่าง


คิดว่าไปช่วงสงกรานต์คงจะเห็น “กิจกรรมและความครึดครื้นในพื้นที่” ไปเดินตลาดนัดวันเสาร์ก็คงจะเห็นวัยรุ่น กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเทศกาลหยุดยาว


แต่สุดท้ายเห็นแค่ความเหงา เงียบ สงบ วันหยุดยาวแท้ๆ คนกลับบ้านกัน แต่สตูลกลับเป็นเหมือนวันธรรมดาวันหนึ่ง!!


แต่ผิดกับหาดใหญ่มีงานทุกพื้นที่ มีอีเว้นท์ยาวๆ ดึงคนเข้าไปใช้จ่ายได้มหาศาล ทั้งที่สตูลมีคนไปเที่ยว (เกาะ) ปีละ 3-4 แสนคน แต่คนเหล่านั้นกลับไม่ได้ไปใช้จ่ายในสตูลเลย มาถึงมุ่งหน้าลงเกาะและกลับบ้าน คนมาเยอะแต่เงินหมุนเวียนไม่ทั่วจังหวัด มีแต่ที่ละงูโซนปากบาราอย่างเดียว ที่พอจะได้ประโยชน์จากการมีแหล่งท่องเที่ยว “ระดับโลก” อย่างเกาะหลีเป๊ะอยู่บ้าง


แต่ไปโทษนักเที่ยวที่ไม่เข้าไปเที่ยว ในเมืองสตูลก็ไม่ถูกเพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ สงกรานต์ที่ควรจะมีอีเว้นท์ดึงคนสตูลเล่นในจังหวัด ก็ไม่มีหน่วยงานไหนจัดกิจกรรมสงกรานต์ ปล่อยให้คนสตูลที่อยากเล่นสงกรานต์ต้องดิ้นรน ไปเล่นที่หาดใหญ่ หรือไปน้ำตกวังสายทองแทน


เข้าใจว่าเป็นจังหวัดที่มีพี่น้องชาวมุสลิมเยอะ แต่ชาวไทยพุทธก็มีพอสมควร การเลือกที่จะไม่จัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ ก็เท่ากับทิ้งโอกาสในการบอกต่อกันว่า “สตูลมีอะไรน่าสนใจบ้าง”


ไม่ใช่ปล่อยให้คนที่กลับมาสตูล หรือคนที่มาเที่ยวสตูลไปบอกว่า “สตูลไม่มีอะไรเลยขนาดงานสงกรานต์ยังไม่จัดเลย” เพราะที่ผ่านมาเวลาที่มีคนถามว่า ในเมืองสตูลมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง บอกตรงๆ ในฐานะคนเที่ยวบ่อยแบบผม “มันตอบยากนะ” เพราะมันไม่มีอะไรจริงๆ

แถมหน่วยงานภาครัฐเหมือนจะยอมแพ้อ่ะ ไม่พยายามจะจัดอีเว้นท์เพื่อดึงคนมาเลย เทียบกับอำเภอละงูมีอีเว้นท์เยอะกว่าใน อ.เมืองซะอีก


พอเมืองมันเป็นแบบนี้อย่าหวังเลยว่า “คนรุ่นใหม่จะกลับมาพัฒนาสตูล” เพราะมันไม่มีอะไรต่อยอดได้เลย ยิ่งคนที่จะมาลงทุนไม่ต้องพูดถึงเลย ลงเงินไปยังไงก็ดูแล้วแพ้แน่นอน เพราะคนนอกไม่มาใช้จ่ายเงิน แถมคนในก็กำลังซื้อไม่พอ


สิ่งที่ผมอยากเห็นคนภาครัฐดิ้นรน อัดอีเว้นท์ดึงคนมาเที่ยวให้มากกว่านี้ ภาคเอกชนจะได้กล้าลงทุน คนรุ่นใหม่จะได้กล้ากลับมาพัฒนาบ้านเกิด ไม่ใช่ยอมแพ้และปล่อยให้ “สตูลตายอย่างสมัครใจ” 


เราอ่านจบ ก็ลองจินตนาการว่า ในวันหนึ่งที่ จ.สตูล สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นได้ทั่วทั้งจังหวัด จะสามารถสร้างเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากขนาดไหนกันนะ 


รวมถึง ประชากร 324,835 คน ซึ่งตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เมื่อปี 2558 ระบุว่า มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี สูงถึง 112,051 บาท เป็นอันดับที่ 7 และอันดับที่ 28 ของประเทศ จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้ อย่างไรกัน 


อยากเห็น และหวังว่าจะเกิดขึ้นได้ที่ จ.สตูล และในทุกจังหวัดทั่วประเทศ

คลิปแนะนำอีจัน
บูม จักรเพชร เส้นทางเซียนพระ ที่ขับเคลื่อนด้วยศรัทธาและความเชื่อ