
วันนี้ (11 ก.ค. 2568) ที่บ้านพิษณุโลก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียกประชุมร่วมกับคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐ (ทีมไทยแลนด์) ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทีมที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก รวมทั้งรมว.กระทวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อหารือแนวทางการรับมือภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งจดหมายถึงรัฐบาลไทย ยืนยันสหรัฐอเมริกา จะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยในอัตรา 36% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2025 เป็นต้นไป
นายพิชัยให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมกับทีมไทยแลนด์นานกว่า 3 ชม. ว่า ขณะนี้การเจรายังไม่ถึงที่สุด โดยจดหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งมาถือเป็นการเลื่อนเวลาให้กับไทย ซึ่งยังมีเวลาทบทวนถึงวันที่ 1 ส.ค. 2568 นี้ โดยในวันนี้ได้มาหารือเพื่อรับทราบรายละเอียดด้านต่าง ๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ได้หารือกับทางภาคเอกชนแล้ว ถึงผลกระทบและมาตรการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คาดว่าวันที่ 14 ก.ค. นี้ จะมีข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวทางการรองรับผลกระทบในแต่ละเซกเตอร์
“เพื่อให้การทำงานภาคเอกชนและภาครัฐเดินได้อย่างเรียบร้อย วันนี้จึงได้มาคุยกันเพื่อให้รับทราบข้อมูลที่ทำงานทั้งหมดว่าทำอะไรไปบ้าง และท่าทีความคิดเห็นต่าง ๆ ว่ามีความคิดเห็นเป็นอย่างไร มีผลกระทบอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไร” นายพิชัย กล่าว
ส่วนในการหารือได้ข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการเจรจากับสหรัฐเรื่องแรกคือ การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐต้องไม่ให้ผู้ผลิตในประเทศได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคเกษตร และอุตสาหกรรมรายย่อย เรื่องที่สอง อาจจะต้องรับซื้อสินค้าบางรายการเข้ามา จะมีการกำกับดูแลให้ทั่วถึง ยืนยันจะไม่มีสิ่งที่ไม่ควรเข้ามาในประเทศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเข้าและส่งออกมากขึ้น
ขณะนี้ได้หารือกันว่าจะมีมาตรการออกมารองรับช่วยเหลือหลายเรื่อง โดยจะทำการบ้านในรายละเอียดต่อไป เพราะหลักการตอนนี้มีแล้วว่ากลุ่มเกษตรจะทำอย่างไร อุตสาหกรรมรายย่อยจะทำอย่างไร กำหนดมาตรการกว้าง ๆ เอาแล้วว่ามีอะไรบ้าง และจะไปลงในรายละเอียดต่อไป
นายพิชัย กล่าวต่อไปว่า ในการยื่นข้อเสนอไปยังรัฐบาลสหรัฐนั้นที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งข้อเสนอเพิ่มเติมไปแล้ว แต่ในตอนนี้ได้กลับมาดูรายละเอียดอีกครั้งเป็นรายการสินค้า ซึ่งยืนยันว่าทำมาถูกทางแล้ว ส่วนจะมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ล่าสุดได้หาโอกาสคุยผ่านออนไลน์ ว่ามีอะไรเพิ่มเติม หากจะมียื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปอีก เชื่อว่าจะมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และหากมีความจำเป็นก็พร้อมเดินทางไปเจรจา
“หลายเรื่องที่รัฐบาลกำลังดำเนินการในตอนนี้จะพยายามไม่ทำให้เกิดการเสียเปรียบ แต่ตอนนี้เห็นว่า สหรัฐได้แบ่งสินค้าเป็น 2-3 ประเภทใหญ่ เช่น สินค้าทั่วไป สินค้าผ่านทาง สินค้านำเข้ามาประกอบและส่งออก ซึ่งไทยสามารถดูแลได้ดีเมื่อเทียบกับบางประเทศ คาดว่าเราจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก” นายพิชัย กล่าวว่า
อย่างไรก็ตามรัฐบาลวางเป้าหมายว่า ไม่อยากให้เสียเปรียบคู่แข่งขัน และเห็นว่าสหรัฐคงต้องการพิจารณาเกือบทุกกลุ่มสินค้าที่จะให้ความสำคัญเป็นหลัก ส่วนกรณีที่มีนายทักษิณมาร่วมประชุมวันนี้ด้วย นายพิชัยกล่าวว่า ตนเป็นผู้เชิญ ในฐานะที่นายทักษิณรู้เรื่องเหล่านี้ดี น่าจะให้ข้อคิดเห็นได้ดี