ส่วยแซงคิว ว่อน ท่าเรือแหลมฉบัง เหตุ รถติดมหาศาล รอคิวที 8-10 ชม.

สหพันธ์ขนส่งฯ แถลงข่าว วอนรัฐบาลแก้ปัญหารถติด ในท่าเรือแหลมฉบัง ระบุ คนขับรถต้องนั่งรอครั้งละเป็น 10 ชั่วโมง แฉ ส่วยแซงคิว เต็มท่าเรือ

ปัญหาการจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบัง กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมาก หลังจากมีรายงานว่า ผู้ขับขี่รถบรรทุกหลายคน ที่เข้าไปส่งของลงเรือ ในท่าเรือแหลมฉบัง ต้องเจอกับปัญหาการจราจรที่ติดขัด บางรายต้องรอนานมากกว่า 10 ชั่วโมง เพื่อส่งตู้สินค้าให้ได้ตามคำสั่งบริษัท

ในเรื่องนี้ ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้จัดการแถลงข่าว ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการขนส่ง 13 สมาคมและภาคีเครือข่ายพันธมิตร ภายใต้หัวข้อ “วิกฤติท่าเรือแหลมฉบัง และการกลับมาของพฤติกรรมการทุจริตเรียกรับเงิน (ส่วย)” รณรงค์ให้ภาครัฐ แก้ปัญหาส่วยแซงคิว ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เป็นผู้แถลงข่าว

โดยดร.ทองอยู่กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประเด็นปัญหาของผู้นำเข้า ส่งออก สะท้อนเข้ามาว่า อยากให้ช่วยแก้ปัญหารถติดในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเกิดมานานเป็น 10 ปี ปัญหานี้สร้างผลกระทบอย่าฝมากต่อผู้ประกอบการ ทั้งเรื่องของคนขับรถ ที่ต้องไปติดอยู่ข้างในท่าเรือ ไม่น้อยกว่า 8-10 ชม. บางคน เกิน 10 กว่าชม. รถขนส่งเกือบทุกคันเจอปัญหานี้กันหมด แล้วการรอก็จะต้องรออยู่บนรถตลอด เพราะรถขยับเรื่อยๆ ทีละนิดทีละหน่อย จะพักก็ไม่ได้พัก ต้องจำใจอยู่บนรถ และต้องเอาตู้ลงเรือไปให้ได้ ส่งผลต่อร่างกาย สภาพจิตใจ และการขับรถของผู้ขับรถรายนั้นๆด้วย

นอกจากนี้ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพราะการติดเครื่องรถเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้ต้องสูญเสียน้ำมันไปในการรอ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีการเผาผลาญน้ำมันในระหว่างการรอ มากถึง ปีละ 6 หมื่นล้านบาท กระทบการขนส่ง การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมหลังท่า ซึ่งผลกระทบจากรถติด ยังลามมาถึงถนนในเขตท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ทำให้เกิดเป็นปัญหาในวงกว้างต่อมาอีก

อีกเรื่องที่เป็นผลกระทบจากการรอคิวภายในท่าเรือ นั่นคือปัญหาส่วยแซงคิว ที่มีข้อมูลอ้างว่า หากรถคันไหนต้องการส่งของให้เร็วกว่าคันอื่น ก็สามารถจ่ายเงินนอกระบบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อแซงคิวเข้าไปส่งของลงเรือขนส่งก่อน ซึ่งก็จะมีราคาที่ต้องจ่ายแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 200-1,000 บาทเลยทีเดียว

โดยจากข้อมูลทั้งหมด ทางสหพันธ์ฯ ได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียน และขอให้แก้ปัญหาต่างๆนี้ ไปยังรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว นับตั้งแต่ยุคของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาจนถึงยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ในครั้งนี้ ทางสหพันธ์ฯจึงร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่าย เพื่อรวบรวมข้อมูลเตรียมส่งข้อมูลให้ รัฐบาล และจะรายงานไปยังนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงคมนาคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

ขณะที่นายสิรภพ พิชัยรัตนพงศ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเรื่องของการแก้ปัญหาเหล่านี้นั้น แม้ว่าทางรัฐบาล จะมีการเรียกผู้ประกอบการเข้าไปพูดคุยและยื่นความประสงค์ในการแก้ปัญหาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางสหพันธ์และภาคีเครือข่าย ได้พูดคุยกันแล้วว่า หากทางรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ภายในเวลา 3 เดือนนับจากนี้ ทางสหพันธ์จะเดินหน้ามาตรการกดดัน โดยจะเริ่มจากการรวมตัวกัน อาจจะในรูปแบบการจัดการเสวนา ที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อกดดันให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เร็วขึ้น