หอการค้าไทย เปิดผลสำรวจ หนี้ครัวเรือน สูงกว่า 5 แสนบาท สูงสุดใน 16 ปี

หอการค้าไทย เผย หนี้ครัวเรือนไทย ปี 65 สูงกว่า 5 แสนบาท ต่อครัวเรือน สูงสุดใน 16 ปี เหตุค่าครองชีพแพง คาดสิ้นปี ยอดหนี้สะสมถึง 15 ล้านล้านบาท

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ในปี 2565 โดยระบุว่า จากการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,350 คน ระหว่างวันที่ 15-20 สิงหาคม 2565 99.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีหนี้ครัวเรือน ขณะที่อีก 11.9% ไม่มี ผู้ที่มีหนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่ เป็นหนี้ส่วนบุคคล และหนี้บัตรเครดิต รองลงมาคือ หนี้ที่เกิดจากการซื้อยานพาหนะ, การศึกษาและที่อยู่อาศัย

ปัจจุบันมีหนี้ครัวเรือน 501,711 แสนบาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 3.7% แบ่งเป็นหนี้ในระบบ 78.9% และนอกระบบ 21% มีอัตราการผ่อนชำระ 12,801 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 8.49% ในจำนวนนี้ 60% มีการก่อหนี้เพิ่มสูงขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นตัวเลข 20.5%, รายได้ไม่พอกับรายจ่าย 15.1%, ผ่อนสินค้ามากเกินไป 14.7% และ มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมาก 12.7%

โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมา 65.9% เคยประสบปัญหาขาดการผ่อนชำระ ขณะที่ 34.1% ไม่เคย สาเหตุหลัก 48.8% เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี, 26.2% รายได้ลดลง, 19% มียอดชำระเพิ่มขึ้น, 4.9% ตกงาน และ 1.1% อื่นๆ โดยเสนอแนะให้รัฐบาลช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, ให้ความรู้ในการบริหารหนี้, เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น

นายวิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ฯ กล่าวถึงแนวโน้มสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีว่า ช่วงก่อนการระบาดโควิดใน ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 อยู่ที่ 80.3% โดยใน 1 ปี สัดส่วนหนี้ครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด 10% ทำสถิติสูงสุด 90.9% ของจีดีพีในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2564 เนื่องจากการเป็นช่วงที่จีดีพีหดตัวต่ำ และล่าสุด ณ ไตรมาส 1 ปี 2565 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 89.2% ของจีดีพี คิดเป็นมูลค่า 14,645,228 ล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นอันดับที่ 11 ของโลก คาดการณ์ว่าภายในปีนี้หนี้ครัวเรือนของไทยจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 14,974,078 ล้านบาท คิดเป็น 89.3% ของจีดีพี

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์ฯ กล่าวว่า ตัวเลขหนี้ครัวเรือนเฉลี่ย 5 แสนบาทต่อครัวเรือนนั้น ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือสูงสุดในรอบ 16 ปี แต่ยังไม่น่ากังวลนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นหนี้ในระบบ ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีระบบจัดการความเสี่ยง ไม่ใช้หนี้ใช้เงินเกินตัว

แต่ตัวเลขนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคจะทำได้ยากมากขึ้น ขณะที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยซึ่งอยู่ระดับ 80-90% ของจีดีพีนั้น ถือว่ายังสูง ดังนั้นหลังจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคอาจจะไม่จำเป็น โดยในระยะยาว รัฐบาลและเอกชนจะต้องหันมากระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการด้านการลงทุนให้มากขึ้น เพื่อให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือต่อจีดีพีของไทยจะปรับลดลงต่อเนื่อง จากระดับ 90% ในปัจจุบันลงมาอยู่ที่ระดับ 80% ได้ภายใน 5 ปี หากเศรษฐกิจไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า สามารถขยายตัวในอัตราเฉลี่ยที่ไม่ต่ำกว่า 6.2% ซึ่งไม่ง่ายนัก

คลิปแนะนำอีจัน
ภารกิจฝ่าดงบอน หาหมี