เอ็กซิมแบงก์ เตรียมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 17 เม.ย.66 เป็นต้นไป

เอสเอ็มอี มีหนาว ‘เอ็กซิมแบงก์’ เตรียมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 17 เม.ย.66 เป็นต้นไป คงจุดยืนดอกเบี้ยต่ำสุดในระบบ

หลัง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ครั้งแรกปีนี้ เพื่อสกัดความรอนแรงของภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงสุดในรอบ 40 ปี

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) บ่ายวันที่ 29 มี.ค.66 ที่ผ่านมา จึงได้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.66 ตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ 

และถึงวันนี้ (3 เม.ย.66) ก็มีเพียงธนาคารเดียวที่ประกาศขึ้นดอกเบี้ย โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 ที่ผ่านมา คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

เริ่มเลย 1 เม.ย.66 ธ.ก.ส.ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก เงินกู้ทุกประเภท

ขณะที่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่ประกอบธุรกิจเพื่อส่งเสริม และสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ เผยว่า ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ขอตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Prime Rate (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไป และลูกค้าเอสเอ็มอี เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์) ในอัตรา 6.00% ต่อปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์นี้ให้แก่ผู้ประกอบการไทย

แม้หลายสถาบันการเงินจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามที่ กนง. ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทย รวมถึง เอสเอ็มอีไทยได้มีเวลาปรับตัวและบริหารจัดการต้นทุนเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ และเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ

เอ็กซิมแบงก์ จึงประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี จาก 6.00% ต่อปี เป็น 6.25% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.66 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านภาระดอกเบี้ยเงินกู้ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีรวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นคนตัวเล็กในโลกธุรกิจ ยังมีมาตรการช่วยเหลือและโปรโมชันพิเศษอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริการ 3 เติม ได้แก่ การเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถปรับตัวอยู่รอด เข้าถึงโอกาสและแหล่งเงินทุน

เพื่อเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจเชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออก เติบโตในตลาดการค้าโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ท่ามกลางปัจจัยท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

ทั้งนี้ เอ็กซิมแบงก์ ยังมีนโยบายเป็น Lead Bank ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ปรับตัวรับมือ และเติบโตได้อย่างมั่นคงในเวทีการค้าระหว่างประเทศ เราจึงชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไปอีก 2 สัปดาห์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย

เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาบริหารจัดการต้นทุน เตรียมปรับตัวรับมือกับทิศทางเศรษฐกิจ และภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น โดยลูกค้าผู้ประกอบการสามารถขอรับคำปรึกษาหรือโปรโมชันพิเศษสำหรับเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกได้ เพื่อให้ธุรกิจของคนไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีการค้าโลก

คลิปอีจันแนะนำ
รมว. ดีอีเอส ลั่น รู้ตัวมือแฮ็กแล้ว! 55 ล้านคนไทยข้อมูลหลุด