‘ครม.’ อนุมัติให้ ‘ขสมก.’ กู้เงิน 8,268 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง

‘ครม.’ ไฟเขียว องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงิน เพื่อเสริมสภาพคล่อง 8,268.469 ล้านบาท กระทรวงการคลัง ค้ำประกัน

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (24 ต.ค.66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า มีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน (กรณีรายได้ไม่พอสำหรับรายจ่าย) ประจำปีงบฯ พ.ศ.2567 รวมจำนวน 8,268.469 ล้านบาท และให้ กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ขสมก.ได้เสนอขออนุมัติการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบฯ พ.ศ.2567 ซึ่งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ มีมติเห็นชอบแล้วในคราวประชุมครั้งที่ 18/2565 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.65

ซึ่ง ขสมก.ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง ทำให้ ขสมก.ยังมีหนี้สินค้างชำระรวมทั้งสิ้น 136,602.529 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 ก.ย.65)

ขณะที่ ขสมก.ได้จัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 คาดว่า จะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือ จำนวน 23,635.409 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินและสามารถทำให้องค์กรบริหารจัดการต่อไปได้ ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 23,635.409 ล้านบาทดังกล่าว

โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ จำนวน 15,366.940 ล้านบาท ซึ่ง ขสมก.ได้นำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อบรรจุเข้าแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบฯ พ.ศ.2567 แล้ว จึงคงเหลือเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานของ ขสมก. ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (เดือน ต.ค.66-ก.ย.67) จำนวน 8,268.469 ล้านบาท

ขสมก.พิจารณาแล้วเห็นว่า หาก ขสมก.กู้เงินมาชำระหนี้ (แทนการผิดนัดชำระหนี้) จะจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณร้อยละ 1.188 (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64-30 ก.ย.65) หรือปีละ 51.273 ล้านบาท ซึ่งทำให้ ขสมก. สามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยค้างชำระลงได้ปีละ 221.124 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.177 ต่อปี