บอร์ด ธ.ก.ส. เคาะจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ลุยอัดฉีดไร่ละพัน

รัฐมอบ ธ.ก.ส. จ่ายเงินช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่าน 4 โครงการ ลุยอัดฉีดไร่ละ 1 พันบาท วงเงินรวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท

บอร์ด ธ.ก.ส. เคาะจ่ายเงินช่วยเหลือพร้อมยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว-มาตรการคู่ขนาน วงเงินรวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท ลุยอัดฉีดไร่ละ 1 พันบาท ดีเดย์ 24 พ.ย. นี้

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 ได้มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้และสภาพคล่องในการใช้จ่าย รวมถึงเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้น หรือเหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิต วงเงินรวม 81,265 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ก.ย. 2566 โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน โดยคาดว่าจะเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรได้ตั้งแต่ 24 พ.ย. 2565 เป็นต้นไป โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการโอนเงินวันแรก

ทั้งนี้ ประกอบด้วย มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่ 

1. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน 

2. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและป้องกันความเสี่ยงด้านราคาไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภัยธรรมชาติ โดยประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 

3. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากและได้ราคาต่ำกว่าตลาด วงเงินสินเชื่อรวม 25,590 ล้านบาท   โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร นอกจากนี้จะช่วยเหลือค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตัวเอง

“โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 นั้น เป็นมาตรการคู่ขนาน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างยังยืน โดยเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น” นายอาคม กล่าว

4. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 สำหรับสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป กำหนดวงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรแห่งละ ไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ซึ่งคิดจากสถาบันฯ เพียง 1% ต่อปี ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธ.ค. 2566

คลิปอีจันแนะนำ
บ่อนไก่แตก กระเจิงทุ่ง