ยุคนี้อะไรๆ ก็ดิจิทัล สั่งซื้อของ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อหวย ซื้อสลากดิจิทัล โอนเงิน รับเงิน แทบไม่ต้องเดินไปตู้ หรือร้านค้า ทุกอย่างเสร็จสรรพได้ด้วยมือถือเครื่องเดียว
เพื่อรองรับชีวิตยุคดิจิทัล ที่ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เล่าถึงแนวทางขับเคลื่อนธนาคารกรุงไทยก้าวสู่โลกการเงินยุคดิจิทัล ว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเข้าสู่ธนาคารดิจิทัลมี 3 แนวทางหลัก คือ 1.ทำโครงสร้างพื้นฐานที่เปิดกว้าง เพื่อให้เกิดการแข่งขันและต่อยอดในเชิงนวัตกรรม
2.ส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล เช่น สนับสนุนให้มีธนาคารไร้สาขา หรือธนาคารเสมือนจริง (Virtual Bank) ที่ให้ผู้ใช้บริการ สามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้เหมือนอยู่ที่ธนาคาร และ3.เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่เปิดกว้างขึ้น ระหว่างธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ซึ่งวันนี้แทบแยกไม่ออก
โดยธนาคารกรุงไทย กำหนดแผนดำเนินการ 5 ปี ระหว่างปี 2566-2570 เพื่อเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด “มุ่งสร้างคุณค่า สู่ความยั่งยืน” ภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์หลัก ดังนี้
1.สร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจกับคู่ค้าของลูกค้า จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และถุงเงิน พร้มอทั้งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้แข็งแกร่ง ต่อยอดความร่วมมือที่ได้ลงทุนไปแล้ว ทั้งระบบ Smart Transit ตั๋วร่วม Smart Hospital และ Digital Business Platform เป็นต้น
2.นำข้อมูลและเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน ทั้งระบบ RPA หรือ Robotic Process Automation และการนำ AI มาใช้ในกระบวนการทำงานภายในของธนาคารมากขึ้น ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้กระดาษ นำไปสู่โครงสร้างการประเมินอัตรากำลังที่เหมาะสมในการให้บริการผ่านสาขา และผสมผสานการให้บริการออนไลน์สู่ออฟไลน์ได้เต็มศักยภาพ
3.เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตในมิติใหม่ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร รวมทั้งสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินในทุกระดับชั้น ต่อยอดสร้างศักยภาพการออม เสริมสร้างความมั่งคั่งให้คนไทย
4.สนับสนุนประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างการกระจายรายได้ เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี กับเศรษฐกิจดิจิทัล และเร่งปรับตัวเข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่
5.พัฒนาและเสริมสร้างขีดความสามารถการทำงานแห่งอนาคต เร่งสร้างการบริหารความเสี่ยง ทำระบบรองรับข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Risk) ของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมบริหารจัดการหนี้เสียทั้งแบบ NPL หรือเงินให้สินเชื่อที่ค้างชำระเงินต้นเกิน 90 วัน และหนี้เสียแบบ NPA หรือทรัพย์สินรอการขาย เพื่อแก้ปัญหาปรับเป็นสินทรัพย์ที่สร้างคุณค่าในเวลารวดเร็วขึ้น พร้อมบูรณาการบริษัทในเครือ สร้างประโยชน์จากสินทรัพย์ให้เต็มศักยภาพ บนความร่วมมือแบบ ONE Krungthai
6.ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีหลักขององค์กร ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT และ Digitalization หรือ กระบวนการแปลงข้อมูลไปสู่รูปแบบดิจิทัล อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับโครงสร้างเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัย มีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
7.ปฏิรูปวัฒนธรรมและปลูกฝังวิธีการทำงานแบบใหม่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคล่องตัว และยกระดับพนักงานให้มีทักษะใหม่ๆ สามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถในระดับประเทศและระดับโลกเข้ามาทำงานเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เป็นองค์กรแห่งการสร้างผู้นำในอนาคต
นี่คือภาพรวมทั้งหมดที่ธนาคารกรุงไทยจะใช้ขับเคลื่อนสู่ธนาคารกรุงไทยดิจิทัล และทำให้คนไทยทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวก ง่าย และปลอดภัย