เตือนเกษตรกร ปลูกอ้อย ช่วงนี้ระวัง จักจั่น ลงไร่สร้างความเสียหาย

คนปลูกอ้อยต้องรู้ ! เข้าช่วง จักจั่น ลงไร่อ้อย กรมส่งเสริมการเกษตรแนะเกษตรกรควรกวดขันตรวจสอบก่อนผลผลิตเสียหายหมดไร่

เตือนเกษตรกรผู้ ปลูกอ้อย ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง จักจั่น ใน ไร่อ้อย ก่อนไม่เหลือผลผลิตโดยเฉพาะพื้นที่ปลูก อ้อย ต่อเนื่อง

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานว่า พบการเข้าทำลายของจักจั่นอ้อยในหลายพื้นที่ที่มีการปลูกอ้อย และเริ่มพบตัวเต็มวัยจากตัวอ่อนที่อยู่ในดินเพื่อผสมพันธุ์วางไข่ ประกอบกับรายงานสถานการณ์การระบาดของจักจั่นอ้อยในช่วงปี 2563 พบว่ามีการระบาดของจักจั่นในพื้นที่ปลูกอ้อยภาคกลางได้แก่ สุพรรณบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง พื้นที่มากกว่า 6,000 ไร่ โดยพื้นที่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากรากอ้อย ทำให้ต้นอ้อยชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น เหี่ยว และแห้งตาย ส่งผลให้ผลผลิตอ้อยลดลงเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของศัตรูพืชดังกล่าวขยายเป็นวงกว้าง กรมส่งเสริมการเกษตรจึงขอให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลงปลูกอ้อยอย่างสม่ำเสมอ หากพบการระบาดให้แจ้งเกษตรกรแปลงปลูกข้างเคียงให้เฝ้าระวัง และรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด หรือศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชที่อยู่ใกล้เคียงทราบ เพื่อรับคำแนะนำได้ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมความพร้อมในการดำเนินการควบคุม ป้องกันกำจัดการระบาดแล้ว

ซึ่งวงจรชีวิตจักจั่น แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

1. ระยะไข่ โดยตัวเมียจะเจาะเส้นกลางใบอ้อยเป็นรูเล็ก ๆ เพื่อวางไข่ มักพบที่ใบแก่สีเขียว ประมาณใบที่ 3 – 5 นับจากใบล่าง จากนั้นเส้นกลางใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อไข่ฟักกลายเป็นตัวอ่อนทิ้งตัวลงสู่พื้นดิน โดยไข่ใช้เวลาฟักประมาณ 1 – 2 เดือน

2. ระยะตัวอ่อนของจักจั่นในอ้อย มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับตัวเต็มวัย ต่างกันที่ตัวอ่อนในระยะแรกไม่มีปีก เมื่อลอกคราบ ปีกจะค่อย ๆ ยาวออกมา ซึ่งในระยะตัวอ่อน จะเป็นระยะที่สร้างความเสียหายให้กับอ้อย โดยตัวอ่อนจะอาศัยอยู่ในดินที่ความลึกตั้งแต่ 30 เซนติเมตรถึง 2.5 เมตร คอยดูดกินน้ำเลี้ยงจากรากอ้อย ตัวอ่อนจะมีขาคู่หน้า ขนาดใหญ่สำหรับไว้ขุดดิน ตัวอ่อนจะอาศัยอยู่ในดินใช้เวลาประมาณ 6 – 8 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานและทำความเสียหายให้กับผลผลิตอ้อยได้มาก

3. ระยะตัวเต็มวัย เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตเต็มที่จะขุดรูโผล่ขึ้นมาเหนือผิวดินและจะไต่ขึ้นมาบนลำต้นอ้อยเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม โดยระยะที่เป็นตัวเต็มวัยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ดังนั้น วงจรชีวิตโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1 ปี หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำให้เกษตรกรดำเนินป้องกันกำจัดจักจั่นในอ้อย ดังนี้

1. หมั่นสำรวจแปลงอ้อย โดยสังเกตคราบของจักจั่นบนต้นอ้อยหรือบนพื้นดิน และตัวเต็มวัยที่เกาะบนต้นอ้อย

2. ในพื้นที่ที่มีการระบาดให้ใช้วิธีเขตกรรม เช่น การขุดหรือไถพรวนเพื่อจับตัวอ่อนในดิน หรือการเก็บตัวเต็มวัยในเวลากลางคืน หรือใช้วิธีตัดใบอ้อยที่พบกลุ่มไข่ของจักจั่นไปทำลายนอกแปลง หรือปรับเปลี่ยนปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของจักจั่น เช่น ปลูกข้าวสลับกับอ้อย

3. ใช้ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ แมลงหางหนีบ โดยปล่อยแมลงหางหนีบ จำนวน 500 ตัวต่อไร่ ก่อนการระบาดของจักจั่น 1 เดือน เพื่อกำจัดตัวอ่อนระยะฝักจากไข่

4. จับตัวเต็มวัยเพื่อนำไปทำลายหรือประกอบอาหาร เพื่อกำจัดจักจั่นตัวเต็มวัยที่พร้อมจะผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณแมลงที่จะระบาดในฤดูกาลถัดไปได้

เรื่องใหญ่นะคะเรื่องนี้ ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไร่อ้อยหมั่นตรวจสอบ ดูแล ป้องกัน จักจั่นศัตรูตัวร้ายของไร่อ้อยให้ดี เพราะนอกจากต้องสู้กับปัญหาจักจั่นแล้ว ด่านต่อไปเป็นราคาอ้อยอีก สู้กันต่อไปนะคะ สู้ ๆ