ด้วงสาคูปกติแล้วจะพบในภาคใต้สะส่วนมาก แต่ในปัจจุบัน ด้วงสาคู ถูกนำมาเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันสามารถเลี้ยงได้ทุกภาค เพราะปัจจุบันการบริโภคด้วงสาคูถูกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทอด การแช่แข็ง และสิ่งที่ทำให้เกษตรกรสนใจเป็นพิเศษคือ การเลี้ยงด้วงนั้นเพราะเลี้ยงง่าย โตเร็ว การดูแลก็ไม่ซับซ้อน และขนาดของตัวด้วยนั้นมีน้ำหนักดี และวงจรชีวิตที่สั้น เช่นเดียวกับแมลงอื่น ๆ
วันนี้จันลั่นทุ่งได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณพิมพ์ปวีณ์ เพ็ญชาติ เจ้าของฟาร์ม ด้วงสาคูปทุมธานี ซึ่งพี่พิมพ์เล่าให้กับทีมงานเราฟังว่าปกติแล้วที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว และที่บ้านก็ไม่เคยได้ทำเกษตรเลย แรก ๆ เริ่มจากการที่เราชอบกิน เลยซื้อชุดทดลองเลี้ยง มาลองเลี้ยงที่บ้าน เลี้ยงไปเลี้ยงมารู้สึกว่าพื้นที่เริ่มไม่พอ พอเลี้ยงเยอะ ๆ ก็ประสบปัญหาเรื่องกลิ่น เลยตัดสินใจย้ายออกมาเช่าที่แล้วเริ่มเลี้ยงด้วงอย่างเต็มตัว โดยที่ฟาร์มทำการเลี้ยงโดยใช้กะละมัง
เลี้ยงด้วงสาคูแบบประยุกต์ในกะละมัง อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีดังนี้
1. กะละมัง พร้อมฝาปิด
2. กากมันสด
3. อาหารขุน
4. ถังหมัก
5. กากมะพร้าวสับ
6. พ่อแม่พันธุ์ด้วงสาคู
การเลือกพ่อแม่พันธุ์ สำหรับด้วงนั้นไม่ได้มีความสำคัญมาก เพราะด้วงสายพันธุ์นี้แข็งแรงและเพาะพันธุ์ เจริญเติบโตง่าย แค่เตรียมในส่วนของเรื่องอาหารให้พร้อมและควรมีอาหารเสริมให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์กินด้วย ทางที่ฟาร์มก็จะเสริมด้วยกล้วยสุกสำหรับให้พ่อแม่พันธุ์กิน
ระยะเวลาในการเลี้ยง ปล่อยตัวหนอนด้วงสาคู อายุ 35-40 วัน สามารถจับมาบริโภคหรือจำหน่ายได้ การผสมพันธุ์คือรอให้ลูกด้วงโตเต็มวัยประมาณ 45 วัน นำไปฝักถึงจะนำออกมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ ครบกำหนดสามารถนำมาผสมพันธุ์ได้เลย
ส่วนอาหารหลักทางฟาร์มจะเป็น กากมันสำปะหลังสด อาหารวัว กาบมะพร้าวสับ คลุกรวมกันผสมน้ำลงไป แล้วใส่ลงกะละมังได้เลย ควรตรวจสอบอาหารให้ดี อย่าให้อาหารเละจนเกินไป
ข้อควรระวังในการเลี้ยงสำหรับด้วง แมลงรบกวนต่าง ๆ หลักเลยก็จะเป็นแมลงวัน เพราะตัวอ่อนแมลงวันสามารถเข้าไปกัดกินไข่หรือตัวอ่อนด้วงได้
ปัจจุบันราคาในตลาด แบบสดจะอยู่ที่ 250 บาทต่อกิโลกรัม แบบแช่แข็งจะอยู่ที่ 300 บาทต่อกิโลกรัม แบบทอดจะอยู่ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นด้วงช็อต ซึ่งสามารถขายได้ช็อตละ 20 บาท โดยที่ฟาร์มเราจะเลือกที่ใกล้ตัวที่สุดก่อนแล้วค่อยขยายไปตลาดอื่น ปกติทางฟาร์มจะออกตลาดเองด้วยและขายทางออนไลน์ และก็ยังมีลูกค้าขาจรมาแวะเวียนกันซื้ออยู่เป็นประจำอีกด้วย ด้วงสาคูสามารถแปรรูปได้ทั้ง ทอด ข้าวเกรียบ น้ำพริก และด้วงช็อต ในอนาคตสามารถแปรรูปได้อีกหลาย ๆ อย่างซึ่งตอนนี้ทางฟาร์มก็ยังมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่สนใจหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลี้ยงด้วงสาคู ก็สามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ เฟสบุ๊ค ด้วงสาคูปทุมธานี ได้เลยจ้า
