
วันนี้ทีมจันลั่นทุ่ง ได้มีโอกาสมาสัมภาษณ์กับวิศวกรหนุ่มที่ได้เริ่มหารายได้เสริม จนได้มา ปลูกผักสลัด ขาย อย่างคุณวิภู กรอบบาง เจ้าของ สวนผักบ้านน้องอีฟ ที่ทั้งทำงานวิศวกรไปด้วยและเป็นเกษตรไปด้วย บอกเลยงานนี้ได้เงินทั้งสองทาง แถมเราสามารถเกษียณออกมาทำงาน เกษตรกร ได้อีกด้วย เพราะรายได้ส่วนใหญ่จะได้มาจากการ ปลูกผักสลัด
ทางคุณวิภู กรอบบาง ได้บอกว่า ตนนั้นทำอาชีพวิศวกรและอยากหารายได้เสริมเลยเริ่มมองหางานเสริมที่ทำได้ในเวลาว่าง จนเห็นคุณพ่อ ปลูกผัก อยู่แล้วและตนมองว่า ผักพ่อของนั้นสามารถต่อยอดไปได้ไกลกว่านี้ ถ้าหากเราทำมันดี ๆ ทำให้คนรู้จักและมีคนสนใจ ตนจึงเริ่มให้ทางคุณพ่อสอนปลูกแค่ 1 – 2 กล่อง ก่อนจะเริ่มอยากปลูกไว้เยอะ ๆ โดยการจัดสวนอย่างมินิมอล จนกลายเป็นการไอเดียในการจัดสวนหน้าบ้าน
หลังจากนั้น ก็มีคนสนใจอยากทำตาม ซึ่งผักของเรานั้นเป็น ผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่เยอะแยะ ขอเพียงแค่มีพื้นที่เล็กน้อยก็สามารถปลูกในกล่องน้ำนิ่งได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หรือเฝ้าดูตลอด เพราะด้วยงานประจำของเรานั้นทำให้มีเวลาน้อย แต่พอเริ่มปลูกไปแล้วรู้สึกว่ามันเวิร์ค และมีทางต่อยอดได้ และผักที่เหลือจากการทานนั้นก็สามารถนำไปขายได้กิโลกรัมละ 120 บาท
นอกจากนี้ ก็ได้นำผลผลิตที่ได้ มาสร้างมูลค่าโดยการนำไปทำ ผักสลัด ซึ่งตอนนี้ก็มีหลากหลายเมนูเริ่มต้นที่ 60 บาท ไปจนถึง 99 บาท ซึ่งสลัดนั้น ก็จะมีตั้งแต่สลัดมิกซ์ธรรมดา กุ้งสด ปูอัด ทูน่า แซลมอน โดยเริ่มเปิดตลาดขายในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง และนอกจากนี้ ยังมีการขายออนไลน์ ได้ถ่ายคลิปสอนทำสลัดรวมถึงปลูกผัก ลงทั้งใน TikTok และ Facebook หลังจากที่มีคนสนใจมาก ๆ ก็ได้ทำชุดทดลองปลูกขึ้นมา ซึ่งมีทั้งหมด 2 ชุด คือชุดเล็ก 390 บาท ชุดใหญ่ 590 บาท รายได้จะอยู่ที่ 1 – 2 แสน บาท/เดือน กำไรเดือนละ 70,000 บาท
ทั้งนี้ ในเรื่องของการลงทุนนั้น แทบจะไม่เสียเลย เพราะว่ามีของอยู่แล้ว จะมีแค่กล่องโฟมที่ทางเราไปขอตามร้านค้าที่ไม่ใช้แล้ว ในส่วนของระยะเวลาในการปลูกนั้น ก็จะอยู่ถึง 40 – 45 วัน เราก็สามารถเก็บมาขายได้แล้ว ส่วนแหล่งขายนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ขายสลัดและขายผักสด ในส่วนของผักสลัดนั้น ก็จะลงขายในกลุ่มหมู่บ้านรวมถึงกลุ่มหมู่บ้านใกล้เคียง ในสวนผักสดนั้นจะมีร้านค้ามาขอรับซื้อ และมีลูกค้าขาจรได้แวะเวียนมาซื้อด้วยเช่นกัน