จาก สวนพุทรา ธรรมดาเพียง 2 ไร่ สู่รายได้ หลายแสนบาทต่อปี

เจ้าของสวน ปลูก พุทรานมสด พันธุ์บอมเบย์ เป็นพืชผลที่ให้ผลตอบแทนที่ดี

คุณฐนพล เสนมิม หรือ ครูหน่อง เจ้าของไร่สวนพอเพียง อยู่ที่บ้านหนองแวง ตำบลเขาพระนอน อำเภอยางตลาด จังหวัด กาฬสินธุ์ ใช้เวลาว่างหลังงานประจำ สานต่อพัฒนาสวนพุทรานมสดของที่บ้าน เน้นคุณภาพของผลผลิต และทำหน้าที่หลักในการหาตลาดจนสามารถ สร้างรายได้ จากสวนพุทราเพียง 2 ไร่ ได้หลักหลายแสนบาทต่อปี

เจ้าของบอกว่า ปัจจุบันที่สวน ปลูก พุทราบอมเบย์ เป็นหลัก สร้างรายได้ อยู่จำนวน 2 ไร่ และได้แบ่งพื้นที่อีกบางส่วน ไว้ทำแปลงทดลองปลูกสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น พุทราพันธุ์สงวนทอง และพุทราแก้ว ไว้เพื่อศึกษาจุดเด่นจุดด้อย สู่การพัฒนาให้เป็นสายพันธุ์เชิงการค้าต่อไป ซึ่งวิธีการปลูก พุทรา นมสด นั้น เป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ และปลูกได้ตลอดทั้งปี เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการเตรียมดินปลูก จึงไม่มีอะไรยุ่งยาก ของที่สวนใช้วิธีไถพรวนดินธรรมดา แล้วลงมือขุดหลุมปลูกได้เลย โดยขนาดความกว้างของหลุม ประมาณ 1×1 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร แล้วใส่ปุ๋ยคอก รองก้นหลุมปริมาณ 1 กระสอบ จากนั้นนำต้นพันธุ์ที่เตรียมไว้ลงปลูก แล้วใช้ฟางคลุมดิน รดน้ำให้ชุ่ม ระยะห่างระหว่างต้นมี 2 ระยะ คือ 5×5 , 8×8 เมตร เพื่อให้กิ่งก้านสาขาแตกออกด้านข้างได้อย่างสะดวก กิ่งไม่ทับพันกันมากเกินไป ส่งผลทำให้เก็บผลผลิตได้ง่ายขึ้น และช่วยลดขั้นตอนการดูแลได้มากขึ้นขอบคุณภาพจาก : เพจFacebook Technlogychaoban – เทคโนโลยีชาวบ้าน

การดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ย ระบบน้ำของที่สวนใช้วิธีวางท่อพีวีซีเป็นท่อหลักแล้วใช้สาย PE เดินตามร่อง แล้วติดตั้งระบบมินิสปริงเกลอร์ เปิดรดน้ำทุกๆ 3 วัน หรือให้ดูสภาพอากาศควบคู่ไปด้วย หากช่วงไหนอากาศร้อนจัดก็ให้ 2-3 วันรดครั้ง แต่ถ้าหากช่วงไหนแดดไม่ค่อยมีก็สามารถเว้นระยะการให้น้ำออกมาเป็น 4 วัน รดครั้งก็ได้ เพราะ พุทรา เป็นผลไม้ที่ไม่ชอบน้ำแฉะ และถ้าหากให้น้ำมากจนเกินไปจะทำให้ผลของ พุทรา แตกได้

การให้ปุ๋ย ที่สวนเริ่มปลูกแบบอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นปุ๋ยที่ใส่จะเป็นปุ๋ยคอก และฮอร์โมนที่หมักเองทั้งหมด โดยการใส่ปุ๋ยให้นับช่วงรองก้นหลุมเป็นครั้งที่ 1 หลังจากนั้นจะเริ่มใส่ปุ๋ยอีกครั้ง ในช่วงที่ต้นเริ่มติดดอก (ครั้งที่ 2) และมีการฉีดฮอร์โมนน้ำหมักบำรุงไปด้วย หลังจากเก็บผลผลิตชุด 1 เสร็จใส่ปุ๋ยคอกอีกครั้ง (ครั้งที่ 3) ครั้งสุดท้ายหลังจากผลผลิตหมดตัดต้นก็เริ่มบำรุงต้นใหม่ใส่อีกครั้ง (ครั้งที่ 4) จะวนแบบนี้ไปเรื่อยๆ เฉลี่ยประมาณ 3 เดือนครั้ง หรือหากในกรณีที่ปุ๋ยอินทรีย์ไม่เพียงพอ สามารถใช้ปุ๋ยยูเรียได้ไม่เกินต้นละ 1 กำมือ และหมั่นดูแลกำจัดวัชพืชภายในแปลงให้สะอาดอยู่เสมอ

ปริมาณผลผลิต พุทราเป็นพืชที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็ว ปลูกปีแรกมีผลผลิตให้เก็บขายแล้ว โดยช่วงการเก็บผลผลิตของที่สวนจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม-กุมภาพันธ์ โดยปริมาณของผลผลิตจะมีให้เก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุและความแข็งแรงของต้น ลำต้นยิ่งใหญ่ยิ่งแข็งแรง ก็ให้ผลผลิตเยอะ ซึ่งที่ผ่านมาที่สวนจะเก็บผลผลิตได้เฉลี่ย 4 ตัน ต่อไร่ สร้างผลกำไรงาม สำหรับรายได้ในการขายพุทราต่อปี ประมาณ 300,000 บาท เมื่อหักต้นทุนออกไปแล้วไม่ถึงแสน ที่เหลือคือกำไรทั้งหมด ถือเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนดี