ชาวบุรีรัมย์ ระทมหนัก นำ กะละมังลอยคอเกี่ยวข้าว หนีน้ำ ก่อนจมเสียหาย

ชาวบุรีรัมย์ นำวอนรัฐช่วยเยียวยา หลังน้ำมูล เอ่อท่วม นาข้าว จมเสียหายกว่า 1 เมตร

ชาวนาบ้านหนองบัวแดง ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ. บุรีรัมย์ ต้องลงทุนจ้างแรงงานคนวันละ 300 บาทต่อคน นำกะละมังลอยคอ เกี่ยวข้าว ในนาที่ถูก น้ำมูล เอ่อท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลังมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมา ไหลมาสมทบลงลำน้ำมูล ทำให้ระดับน้ำหนุนสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่รีบเก็บเกี่ยวช่วงนี้อาจจะถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด เพราะปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้ก็มีนาข้าวของชาวนาในหมู่บ้านหนองบัวแดง ที่ปลูกใกล้กับลำน้ำมูล จมเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะยอมลงทุน ว่าจ้างแรงงานคนเร่งเกี่ยวข้าวที่เหลือหนีน้ำ

ทั้งนี้ การเกี่ยวข้าวที่จมน้ำก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องยืนแช่น้ำเกี่ยวใส่กะละมังจนเต็ม จากนั้นก็ต้องลากกะละมังเดินฝ่าน้ำที่ท่วมตามทุ่งนาไปกองรวมกันไว้บนที่สูง ก่อนจะจ้างรถมานวดหรือปั่นอีกรอบ และยังต้องจ้างรถมาบรรทุกข้าวที่นวดแล้ว ออกไปตากตามลานหรือถนนเพื่อลดความชื้น โดยชาวนาบอกว่า นอกจากจะเก็บเกี่ยวด้วยความยากลำบากแล้ว ข้าวที่เปียกน้ำแล้วนำมาตากไล่ความชื้น หากนำไปขายก็ยังไม่รู้ว่าโรงสีจะรับซื้อหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงเก็บเกี่ยวขึ้นมาก่อนหากขายไม่ได้เก็บไว้บริโภคก็ยังดี จากผลกระทบดังกล่าวก็อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือ เยียวยา ด้วย

ชาวนาบ้านหนองบัวแดง ต.ปะเคียบ บอกว่า ครอบครัว ทำนา กว่า 30ไร่ ช่วงต้นฤดูก็ประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ข้าวแคระแกรนโตไม่เต็มที่ แต่พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็มาเจอ น้ำท่วม อีก ขณะนี้ นาข้าว ของตนเองถูกน้ำท่วมจมเสียหายไปแล้วกว่า 20 ไร่ เหลืออยู่ประมาณ 10 ไร่ที่น้ำท่วมยังไม่มิดรวงข้าว จึงยอมลงทุนจ้างแรงงานคนนำกะละมังลุยน้ำ เกี่ยวข้าว เพื่อหวังว่าจะได้ผลผลิตบ้าง แม้จะไม่รู้ว่าข้าวที่เกี่ยวมาแล้วโรงสีจะรับซื้อหรือไม่ หากไม่รับซื้อก็คงเก็บไว้กินเอง จากผลกระทบดังกล่าวก็อยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย เพราะนอกจากถูก น้ำท่วมเสียหาย แล้วยังมาเจอปัญหา ราคาข้าวตกต่ำ ซ้ำเติมอีก