ชาวบ้านนครพนมคึกคัก จับ อึ่งอ่าง ของป่ามาขายให้รอดตายช่วงโควิด

โควิดมาน้ำตาไม่ไหล ! เพราะชาวบ้านนครพนมเขาปรับตัว ออกจับของป่าขาย อึ่งอ่าง ราคาดีดไปแล้วกิโลกรัมละ 300 บาท พอหายใจได้ในวิกฤตแบบนี้

ฝนเทลงมาแบบนี้ ชาวบ้านชาวนาอย่างเราก็ยิ้มสิคร้าบ เพราะนอกจากพืชผลจะได้รับน้ำชุ่มฉ่ำยังมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยในท้องไร่ท้องนาให้จับมากินมาขาย สร้างรายได้ในช่วงวิกฤต โควิด ที่มาระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้ตลาดของป่าคึกคัก อึ่งอ่าง สร้างรายได้ดีมากเงินสะพัดทั่วชุมชน ราคาดีกิโลกรัมละเกือบ 300 บาท ชาวบ้าน ออกส่องกบ เขียด อึ่งอ่าง จิ้งหรีด กลางคืนตามทุ่งนาส่งขาย สู้วิกฤติโควิด เชื่อเศรษฐกิจพอเพียงอยู่รอด หากินตามธรรมชาติ อบต.พิมาน วอนชาวบ้านงดใช้สารเคมี รักษาสภาพแวดล้อม คืนความอุดมสมบูรณ์แก่ธรรมชาติ นำวิถีพอเพียงเลี้ยงชีวิต ลดรายจ่าย สร้างรายได้

วันนี้ทีมงาน จันลั่นทุ่ง จะพามาเที่ยวดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ต.พิมาน อ.นาแก นครพนม นี่เอง ที่ในช่วงนี้ สภาพอากาศเริ่มแปรปรวนเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีสถานการณ์โควิด แพร่ระบาด ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ตกงาน ขาดรายได้ จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจ แต่สำหรับชาวบ้านที่นี่ยังใช้ความพอเพียงเลี้ยงชีพ ด้วยการทำการเกษตร รวมถึงหาของป่าขายเสริม สร้างรายได้ และนำไปปรุงเป็นเมนูเป็นอาหาร ลดรายจ่าย สร้างรายได้ โดยในช่วงนี้ชาวบ้านได้พากันออกไป ส่องกบ เขียด อึ่งอ่าง รวมถึงจิ้งหรีด ตามทุ่งนาส่งขายสร้างรายได้ วันละ 200 -300 บาท รวมทั้งนำไปประกอบอาหารกินเองอีกด้วย เป็นการลดรายจ่ายในช่วงสถานการณ์โควิด เพราะบางรายตกงานขาดรายได้ แต่ไม่กระทบเพราะใช้ความพอเพียงเป็นหลักในชีวิต

ทำให้ในตอนนี้จ้าตามตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม คึกคักไปด้วยของป่า มีชาวบ้าน พ่อค้า แม่ค้า นำของป่าเมนูอีสานหายากมามาขายทั้ง ผักหวาน เห็ดเผาะ ดอกกกระเจียว แมงแคง จักจั่น ไข่มดแดง กบ เขียด อึ่งอ่าง โดยเฉพาะไข่มดแดง มีราคาสูงกิโลกรัมละ 400 -500 บาท ส่วน แมงแคง กิโลกรัมละ เกือบ 2,000 บาท ตามที่เราได้เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น จักจั่นตกตัวละประมาณ 1 บาท เห็ดเผาะราคากิโลกรัมละ 500 บาท สร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัดวันละหลาย 10,000 บาท

จากการสอบถามชาวบ้าน ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม มีอาชีพส่องกบ เขียดอึ่งอ่าง ขาย บอกกับเราว่าในช่วงนี้ฝนเริ่มตกลงมา เป็นโอกาสดีของชาวบ้านหาของป่า รวมถึง อออกส่องกบ เขียด อึ่งอ่าง ขายในช่วงกลาง คืน เนื่องจากช่วงนี้ ชาวบ้าน ส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบจากโควิด ขาดรายได้ บางรายไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้ ต้องหันมาพึ่งความพอเพียงอาศัยหากินตามธรรมชาติ หาของป่า ส่องกบ เขียด จิ้งหรีด อึ่งอ่าง นำไปเป็นอาหาร ลดรายจ่าย หากได้จำนวนมาก จะนำไปขายสร้างรายได้เสริม ซึ่งสำคัญที่สุดพื้นที่จะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ และในการทำการเกษตรจะต้องไม่ใช้สารเคมี จะทำให้สามารถ หาอาหารเลี้ยงครอบครัวได้ ถึงเจอสถานการณ์โควิดยังสามารถเลี้ยงชีพได้

ด้าน นายบัญชา ศรีชาหลวง นายก อบต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับ ว่า สิ่งที่ อบต.พิมาน ได้ปลูกฝัง สร้างจิตสำนึก ชาวบ้านในเรื่องของความพอเพียง รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน ทำให้ชุมชนพิมานเป็นศูนย์เรียนรู้แห่งความพอเพียง และยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ พอบ้านเมืองวิกฤติ เจอพิษโควิดบางคนต้องตกงาน ขาดรายได้ ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านสร้างรายได้ สำคัญที่สุดคือความพอเพียง การพึ่งตนเองในการทำการเกษตร ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทำเมนูกินเอง และยังขายสร้างรายได้ เป็นสิ่งที่ยั่งยืน เช่นเดียวกันในช่วงฤดูฝน ชาวบ้านบางส่วนยังสามารถ ออกไปส่องกบ เขียด อึ่งอ่าง ตามทุ่งนา ขายสร้างรายได้ และนำไปปรุงเป็นเมนูกินในครัวเรือน ถือว่าเป็นความพอเพียงแบบยั่งยืน

แต่สำคัญที่สุดการเริ่มต้นจะต้องมาจากการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการใช้สารเคมีในการทำการเกษตร ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะการใช้ชีวิตแบบพอเพียง จากการหาของป่าสร้างรายได้ กินเมนูธรรมชาติพื้นบ้าน ถือเป็นผลผลิต และตัวชี้วัดของความอุดมสมบูรณ์สิ่งแวดล้อม ถึงแม้จะเจอวิกฤติทางเศรษฐกิจ หากพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ยังสามารถหล่อเลี้ยงชีวิตได้ จากความพอเพียง ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย และยังสร้างรายได้อีกด้วย จึงฝากให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำการเกษตรแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ลดใช้สารเคมี