คุณทิราภร และ คุณปิยนัติ กุลชัย สองเจ้าของ อาร์มี่ฟาร์ม หรือ ฟาร์มปลาหมอยักษ์ จังหวัด อุดรธานี บอกว่า จุดเริ่มต้นในร่วมกันทำบ่อปลาหมอสายพันธุ์ใบโพธิ์ ส่งขายได้ทุก 120 วัน ทำรายได้หลักแสนต่อรอบ โดยที่ฟาร์มแห่งนี้ มีบ่อเลี้ยงปลาอยู่ 4 บ่อ แต่ละบ่อมีขนาดความยาวประมาณ 4 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร ซึ่งก่อนเลี้ยงจะต้องคำนวณพื้นที่บ่อ และจำนวนปลาให้สัมพันธ์กัน โดยให้คำนวณการเลี้ยง คิดเป็นตารางเมตรละ 20-25 ตัว สาเหตุที่ไม่ให้เลี้ยงปริมาณมากเกินไปนั้น เนื่องมาจากหากปลาหมอมีอายุ 90 วันขึ้นไป จะมีปัญหาเรื่องการเจริญเติบโต หรือเรียกว่า แจกไซ คือปลาจะมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน
ซึ่งสำหรับการเตรียมบ่อนั้น จะโรยปูนขาวก่อน และตากบ่อประมาณ 15 วัน และต้องตรวจดูให้ดี อย่าให้มีปลา กบ หรือสัตว์ใด ๆ อยู่ในบ่อ รวมต้องกำจัดวัชพืชออกให้หมด เมื่อเตรียมบ่อเรียบร้อยแล้ว ก่อนปล่อยน้ำเข้ามาต้องตรวจวัดคุณภาพน้ำให้มีค่าอยู่ประมาณ 6-7 pH จึงจะถือว่ากำลังดี ในการเลี้ยงจะสร้างกระชังขนาดเล็กเอาไว้ สำหรับอนุบาลลูกปลาเป็นเวลา 15 วันโดยประมาณก่อนปล่อยสู่บ่อดินขนาดใหญ่ เพราะจะได้ประหยัดต้นทุนเรื่องอาหาร และป้องกันนกที่จะมากินลูกปลา
ทั้งนี้ อาหารปลาหมอ จะให้อาหารเม็ดที่เลี้ยงปลาดุกหรือกบ เลือกใช้ยี่ห้อใดก็ได้แต่จะต้องดูที่ปริมาณโปรตีนเป็นสำคัญ หากเลี้ยงปลาอยู่ที่จำนวน 5,000 ตัว อาหารปลาจะต้องใช้ทั้งหมด 100 กระสอบ ตลอดการเลี้ยง 120 วัน โดยในแต่ละระยะของปลาจะให้แตกต่างดังนี้ ในช่วงอนุบาลปลา 1-20 วันแรกจะให้อาหารกบ โปรตีนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 21-45 วันใช้อาหารที่มีโปรตีน 37 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 46-60 วันให้ใช้โปรตีน 32 เปอร์เซ็นต์ ระยะ 61-90 วัน ใช้โปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ และระยะ 90-120 วัน ใช้โปรตีน 25 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่าให้โปรตีนต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ เพราะปลาหมอเป็นปลาที่ต้องการโปรตีนสูง เมื่อเลี้ยงครบระยะเวลา 120 วัน ปลาจะมีขนาด 3-4 ตัว/กิโลกรัม
และทั้งหมดก็เป็นแนวทาง ในการเลี้ยง ปลาหมอยักษ์ จากทางฟาร์ม ซึ่งโดยปกติที่นี่ จะเลี้ยงประมาณปีละ 2 รอบ โดยรอบแรกจะลงลูกปลาช่วงเดือนมีนาคม ไล่เรียงมาจนทยอยเปิดบ่อขายเรื่อยมา จนมาลงลูกปลาอีกครั้งช่วงเดือนกันยายน แล้วจะไปจับขายปลาในช่วงปีใหม่ น้ำหนักปลาของบ่อแรกจะอยู่ที่ 3 ตัว/กิโลกรัม ส่วนบ่อต่อไปน้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งราคาปลีกในช่วงนี้ไม่ต่ำกว่า 100 บาท/กิโลกรัม ทำให้แต่ละรอบมีรายได้หลักแสนบาท…
