หนุ่มน่าน สานฝัน พัฒนาสายพันธุ์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ นาน 8 ปี!

ไอเดียเจ๋ง! หนุ่มน่าน ทำโรงงาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ส่งออก หวังช่วยเกษตรกร

สุดปัง! หนุ่มน่าน ปลูกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ส่งออกสร้างรายได้หลักแสน

ชื่อว่าหลายคนที่ชื่นชอบการรับประทานถั่ว หนึ่งในนั้นต้องมี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แน่เลยใช่ไหมคะ แต่ใครจะรู้ว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ปลูกในประเทศไทย แถมยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะเวียดนาม และประเทศแถบตะวันออกด้วยนะคะ ซึ่งวันนี้ (5เม.ย.64)จันลั่นทุ่ง จะพาไปเจอกับเกษตรกรหนุ่มน่าน ที่เห็นช่องทางโอกาส พัฒนาสายพันธุ์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เท่านั้นยังไม่พอ ยังสร้างโรงงานรองรับการแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพื่อการส่งออกในระยะยาวด้วย เจ๋งแค่ไหนไปดูกันค่ะ

นายขจร ปั่นวงศ์ เกษตรกรวัย 33 ปี หนุ่มน่าน เจ้าของแคชชิว นัท ริช กรุ๊ป บอกกับจันลั่นทุ่ง ถึงจุดเริ่มต้นในการ ปลูกมะม่วงหิมพานต์ว่า จากเดิมเป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไป โดยทำงานให้กับนักธุรกิจชาวเวียดนามในการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และพบว่า ประเทศไทยต้องมีการนำเข้าเมล็ดมะม่วงหิมพานต์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

เนื่องจากปริมาณผลผลิตมะม่วงหิมพานต์ที่เกษตรกรไทยปลูกภายในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ จากปริมาณความต้องการดังกล่าว จึงทำให้เกิดความสนใจในการปลูกมะม่วงหิมพานต์เพื่อผลิตเมล็ดจำหน่าย จึงเริ่มศึกษา และปลูกมะม่วงหิมพานต์มาตั้งแต่ ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน

ที่สำคัญคือ คุณขจร อยากแก้ปัญหา พ่อค้าคนกลางกดราคา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ทำให้ คุณขจร อยากพัฒนาสายพันธุ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งตอนนี้เป็นพันธุ์ไทยผสมต่างชาติ ใช้เวลา 8 ปีจนตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้วค่ะ รวมประมาณ 1,000 ไร่ ภายใต้เป้าหมายในอนาคตที่ 5,000 ไร่ เพื่อตอบสตองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกระจายพันธุ์ให้กับเกษตรกร ทดแทนพันธุ์เดิม ซึ่งข้อดีของการปลูกมะม่วงหิมพานต์ คือเป็นพืชที่ทนแล้ง ทนต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ชอบยาฆ่าแมลง รับรองว่าปลอดสารพิษแน่นอน

โดยความฝันของคุณขจร คือ การกลับมาทำให้จ.น่าน ที่เป็นบ้านเกิดแต่เดิมเป็นภูเขาหัวโลน ได้มีต้นมะม่วงหิมพานต์เขียวขจีมาทดแทนพื้นที่ เมื่อได้ผลผลิต จะเริ่มแปรรูปและกระจายเพื่อส่งออก ซึ่งตอนนี้ความฝันนั้นก็เป็นจริงแล้วค่ะ เพราะ คุณขจรได้ตั้งโรงงาน แคชชิว นัท ริช กรุ๊ปตั้งอยู่เลขที่ 320 หมู่ 10 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ค่ะ ซึ่งคาดว่า แม้ได้ผลผลิต 2% ของตลาดในประเทศไทย ก็สามารถช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอแล้วค่ะ

แม้ตอนนี้ผลผลิตกำลังเริ่มทยอยออกมานะคะ แต่คุณขจรก็วางแผนอนาคตไว้แล้วว่า ได้ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 8 กลุ่ม เพื่อตอบสนองการส่งออกที่มีความต้องการกว่าวันละ 120 ตัน พัฒนาสายพันธุ์และไม่ทิ้งเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงหิมพานต์ด้วย จันเป็นกำลังใจให้นะคะ