ผัวเมีย สู้ชีวิต ฝ่าวิกฤต โควิด ให้เป็นโอกาสขาย เมี่ยงปลาเผา

ผัวเมีย สู้ชีวิต ตกงานผันตัวเองมาทำ เมี่ยงปลาเผา ส่งขาย

ผัวเมียสู้ชีวิต “ โอกาสมีไว้สำหรับคนขยัน สู้ชีวิต” เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส หลังจากเจอพิษโควิด 19 ตกงานต้องพึ่งพา ตู้ปันสุข เลี้ยงครอบครัว ก่อนผันตัวเองมาทำ เมี่ยงปลาเผา ส่งขาย จนลูกค้าติดใจ สร้างรายได้วันละ 7,000-10.000 บาท ขยับขยายเปิดหน้าร้านกลางทุ่งนา เพียง 5 เดือน ลูกค้าอุดหนุนเพียบ ต้องสำรองจองล่วงหน้า

เมนู เมี่ยงปลาเผา สุดอร่อยร้าน เมี่ยงปลาเผา ซิ่ง กับสโลแกน “ปลาสด น้ำจิ้มแซ่บ”ตั้งอยู่ริมถนนนาโยง-ย่านตาขาว ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง เจ้าของร้านคือ คุณพรรณ์ปภาร์ โออินทร์ หรือโบว์ อายุ 32 ปี และ คุณโอฬาร โออินทร์ หลวงเกมส์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ที่ 5 บ้านหนองเป็ด ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

สองสามีภรรยาที่ช่วยกันขาย เมี่ยงปลาเผา จนเป็นที่นิยมของลูกค้า จากที่ภรรยาเคยมีอาชีพเป็นกุ๊กในร้านอาหาร และสามีขับรถแท็กซี่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่ต้องเจอมรสุม โควิด19 ถูกเลิกจ้างตกงาน แต่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกอีก 3 คน ที่กำลังเล่าเรียน ไม่มีอะไรจะกินต้องพึ่งพาตู้ปันสุขเลี้ยงดูครอบครัว ก่อนเดินทางกลับมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดตรัง หันหน้าเข้าหากันนำความรู้ความสามารถประสบการณ์ที่สะสมมาทำ เมี่ยงปลาเผา เดิมทีส่งขายแบบไม่มีหน้าร้านจนประสบความสำเร็จ และได้ขยายเปิดหน้าร้านเลี้ยงดูครอบครัวพนักงานในร้านที่เป็นเครือญาติกันกว่า 10 ชีวิต ให้มีรายได้ที่มั่นคง

นอกจากน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรพิเศษ น้ำจิ้ม 2 แบบทั้งน้ำจิ้มหวานมันใส่ถั่วและน้ำจิ้มซีฟู้ดเผ็ดเปรี้ยวจี๊ด ของทางร้านที่เป็นจุดขายแล้ว ทางร้านนี้ยังมีอาหารทะเลสดใหม่อร่อยในราคาย่อมเยาและบรรยากาศโดยรอบเป็นธรรมชาติ นั่งในซุ้มไม้ไผ่ที่จัดเรียงรายกลางทุ่งนา อย่างเป็นระเบียบ รับลมโกรกพัดเย็นสบาย พร้อมชมแสงตะวันยามเย็นลับยอดไม้อีกด้วย

เมี่ยงปลาเผา ที่นี่จะเลือกใช้เนื้อปลาทับทิมจากคลองหินขวาง ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มาเป็นตัวชูโรง เพราะปลาทับทิมที่นี่เป็นปลา 2 น้ำ ทำให้การเพาะเลี้ยงปลามีน้ำถ่ายเทตลอดปลามีความสะอาดสูงเนื้อหวานอร่อย

ซึ่งวิธีการทำนำไส้และเครื่องในของปลาออก ทำความสะอาดใช้เวลา 3 ชั่วโมง เน้นความสะอาดเป็นพิเศษ โดยในแต่ละวันถ้าเป็นวันปกติจะใช้ปลาประมาณ 50-70 ตัว ถ้าเป็นวันหยุดจะใช้ปลาวันละ 80-120 ตัว ขนาดตัวอยู่ที่ 6 ขีด ถึง 1 กิโลกรัม 2 ขีด เพราะขนาดตัวและเนื้อปลากำลังดี จากนั้นนำตะไคร้ทุบมัดให้สวย ข่าหั่นแว่น ใบมะกรูด ยัดเข้าไปในท้องปลา จากนั้นนำปลาไปคลุกเคล้ากับเกลือซึ่งเกลือที่นี่มีการผสมสูตรโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเคล็ดลับของทางร้าน จากนั้นก่อไฟใช้ถ่านอัดแท่งเพราะความร้อนจะคงที่ เมื่อความร้อนคงที่แล้วนำปลาไปเผาบนตะแกรง โดยเวลาในการเผ่าต้องแป๊ะ ไม่เกิน 30 นาทีและความร้อนของไฟต้องสม่ำเสมอ เนื้อภายในสุกหอมกำลังพอดีมีความฉ่ำไม่แห้ง จากนั้นจัดผักเครื่องเคียงที่ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกใช้เป็นผักกาดขาว ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ โหระพา หรือผักอื่นๆ มีเครื่องเคียงเป็นเส้นหมี่ลวกโรยด้วยกระเทียมเจียวที่รับประทานคู่กันได้อร่อยอย่างลงตัว สำหรับน้ำจิ้มนั้นเลือกใช้เป็นเครื่องปรุงน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือเป็นเครื่องปรุงแบบน้ำจิ้มถั่วที่ให้รสชาติหอมอร่อยแตกต่างกัน โดยน้ำจิ้มซีฟู้ดนั้นจะเน้นรสชาติเผ็ด เปรี้ยว และเค็มนำ แต่น้ำจิ้มถั่วจะเน้นเป็นเผ็ด หวาน เค็ม และมันนำ ส่วนวิธีการรับประทานนั้นจะคล้ายกับการรับประทานเมี่ยงทั่วไป คือ การใช้ผักหลายชนิดมาทำเป็นฐานใส่เนื้อปลาและใส่น้ำจิ้มรวมเส้นหมี่ลวกเข้าไปด้วย ทำเป็นคำแล้วรับประทานจะได้รสชาติที่ดีเยี่ยมเลย ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท ตามขนาดน้ำหนักของตัวปลา

นอกจากนั้นยังมีเมนูที่เป็นซิกเนอเจอร์ของร้าน คือ กุ้งถังทะเลแตก มี 3 ไซร้ให้เลือก ราคา 129-159-199 บาท และยังมีเมนู ลาบ ยำ ตำ เครื่องดื่มอีกหลากหลาย จะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นครอบครัว หรือเป็นทีม ก็คุ้ม เปิด 11.30 น.-21.30 น. หยุดทุกวันจันทร์ หรือสามารถติดต่อสั่งได้ทาง FB: โบว์ ศรีสวัสดิ์ โทร.093-6580906 ,098-6821479