เปิดใจ ต้าวหยอง แดนเซอร์ คณะหมอลำระเบียบวาทะศิลป์

อีจันอยากเจอ หมอลำ หนุ่มหล่อ เจ้าของฉายา “ต้าวหยอง”แดนเซอร์สุดฮอต กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ชีวิตเขาผ่านอะไรมาเยอะมาก

ต้าวหยอง แดนเซอร์สุดฮอต คณะหมอลำระเบียบวาทะศิลป์

อีจันอยากเจอ เดินทางไปพูดคุยกับ น้องต้าวหยอง หลังเวทีการแสดง

น้องต้าวหยอง ยุคลเดช ปัจฉิม หรือ ฉายา “ต้าวหยอง” ที่เหล่าแม่ๆ พี่ๆ ในวงการหมอลำ เรียกกัน ก่อนจะมาเป็น ต้าวหยอง ในทุกวันนี้ได้ชีวิตเธอเคยอยู่ในจุดที่ลำบากมาก่อนอาศัยอยู่บ้านไม้หลังเล็กๆ ที่สร้างขึ้นด้วยเศษไม้เก่าๆ

ตอนนั้นชีวิตเขารันทดมาก เวลาฝนตกหลังคาบ้านจะรั่ว เพราะหลังคาบ้านจะมีรอยรูรั่ว ต้องหาอะไรมาติดรูรั่วไว้ เพื่อไม่ให้น้ำฝนรั่วลงมา บางทีก็เคี้ยวหมากฝรั่งให้มันเหนียวๆ แล้วใช้ไม้ขึ้นไปติดรอยรั่วไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาอยากเปลี่ยนชีวิตอยากทำงานอยากมีอาชีพ เขาเห็นแม่ค้าขายของออนไลน์เขาอยากเข้าเป็นตัวแทนมาก แต่ก็ไม่มีประสบการณ์ ไม่กล้าที่จะทำ กลัวว่าจะโดนว่าไปโกงลูกค้า ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเธอเป็นเด็กที่ติดเพื่อนมาก เพื่อนทำอะไรไปไหนก็ตามเพื่อนตลอด

ก่อนเข้าวงการหมอลำ เขาเล่าว่า ช่วงนั้นพี่ชายที่ทำงานอยู่ วงระเบียบวาทะศิลป์ ช่วงนั้นเป็นช่วงพักฤดูกาลของคณะหมอลำ พี่ชายกลับมาบ้านพอดี ตอนนั้นเขาอยู่ ม.3 กำลังจะจบ พี่ก็ชวนให้ไปอยู่ด้วย ตอนนั้น ก็ไม่อยากไปเท่าไหร่ เพราะว่าติดเพื่อน ติดเล่นกีฬากับเพื่อน อยากอยู่กับเพื่อนในวัยนั้นมากกว่า แต่พอคิดไปคิดมาเลยตัดสินใจไปกับพี่ เพื่อแม่จะสบายใจ ตอนนั้นคิดว่าก็เต้นตามพี่ ได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น เพื่อเงินที่ได้มาจะได้ส่งให้พ่อกับแม่

หลังจากเข้ามาอยู่ในวงตอนแรกเต้นไม่ถูก ขาก้าวยังไงก็ไม่ถูก ครูก็บอกเพลงนี้ ต้องท่าอย่างนี้นะ ต้องนับ 8 ไปด้วยจำไปด้วย ทุกวันต้องตื่นตั้งแต่ 10 โมงเช้า ตอนเที่ยงพัก ตอนเย็นก็ซ้อมต่อ บางวันก็ซ้อมถึงตี 3 ฝึกอยู่เกือบ 3 เดือน

ก่อนที่เขาจะมาอยู่จุดนี้เขาจำได้ว่า มีพี่คนหนึ่งเข้ามาชมแล้วถ่ายคลิป ตอนนั้นเขาเต้นเพลงแม่ฮ้างมหาเสน่ห์ และ เพลงเจ็บตรงนี้ ที่กำลังดังในตอนนั้น ซึ่งคนดูคลิปนั้นประมาณ 2 ล้านคน ก็เริ่มมีขคนรู้จักผ่านคลิปนั้น หลังจากนั้นมาความรู้สึกของเธอก็ธรรมดา ไม่ได้แบบว่าดังแล้วจะสูงขึ้น เธออยู่แบบธรรมดาไม่ถือเนื้อถือตัว ซึ่งช่วงหลังมานี้ เขาก็ได้ร้องเพลงโชว์บนเวที แต่อุปสรรคของเขา คือ เขาเป็นคนที่ร้องเพลงไม่ได้เลย เสียงหลง เสียงไหล ร้องผิดคีย์ บ้าง

ต่อมาในช่วงเวลาข้ามคืน เขาได้โดนโซเชียลคอมเมนต์แรง บอกว่ากลับไปเต้นเถอะไม่ต้องมาร้องเลย ซึ่งก็คอมเมนต์กันเยอะมากตอนนั้น ตอนนั้นก็มีความสะกิดใจ แต่ว่าเขาคิดไปอีกแบบหนึ่งว่า เขาด่าเราไม่เป็นไร คือเราก็ร้องผิดจริงๆ ยอมรับในตัวเองที่ร้องไม่ได้ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง เราฝึกบ่อยๆ คงดีขึ้นเอง อ่านทุกคอมเมนต์ แต่ไม่ได้ตอบโต้ ปล่อยผ่านไป เพราะคิดว่าทำเต็มที่แล้ว

ถึงแม้ว่า เขาจะโดนว่าอย่างไร “ต้าวหยอง” ก็ไม่สนใจ แค่เขาได้ทำงานให้เต็มที่ และมี พ่อแม่ เป็นแรงบันบาลใจในการทำงาน จนทุกวันนี้ชีวิตก็เปลี่ยนไป ครอบครัวมีความสุข มีงานทำ มีรายได้ส่งให้พ่อแม่ ได้ตอบแทนพระคุณพ่อกับแม่ก็ดีใจมากๆแล้ว