ลูกเพจอีจันช่วย รพ.เวียงป่าเป้า 16 ล้าน

#สังคมอีจัน ระดมทุนคนละ 20 บาท ช่วย รพ.เวียงป่าเป้า 3 วัน 16 ล้านบาท

=คาดว่าคืนนี้ ! สายธารน้ำใจคงหลั่งไหลไปสมทบเติมงบประมาณให้ รพ.เวียงป่าเป้า ทะลุ 17 ล้านจนได้นะคะ คือ น้ำใจ ความรัก ความห่วงใย ที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ ห้ามกันไม่ได้จริงๆ แม้ว่าเราจะประกาศผ่านเพจไปเมื่อวานนี้แล้วว่า งบประมาณที่ต้องการนั้นครบตามจำนวนแล้วก็ตาม แต่ถ้าใครที่ยังต้องการเป็นผู้ให้อย่างต่อเนื่องก็ยินดี โดยให้เข้าบัญชีของโรงพยาบาลเวียงป่าเป้าได้โดยตรง และสามารถลดหย่อนภาษีได้โดยอัตโนมัติค่ะ อยากเล่าต่อ เล่าถึงว่า เพจอีจัน ไปรู้จักกับชาวเวียงป่าเป้าได้อย่างไร ไกลเสนไกล อำเภอในหุบเขา …

“ชาวเวียงป่าเป้า” จริงๆ ก็รู้จักกันมานานแล้ว! แต่รู้จักเพียงแค่ครอบครัวเดียว เพราะ “น้องมิกิ” นักข่าวอีจัน เป็นชาวอำเภอเวียงป่าเป้าโดยกำเนิดค่ะ ก็รู้จักแค่ว่าเวียงป่าเป้ามีข้าวแต๋นน้ำแตงโมของ “คุณแม่รุ่งทิพย์ มะลิ” ที่อร่อย เพราะเวลาแม่ลูกคิดถึงกัน แม่ส่งข้าวแต๋นมาพวกเราก็ได้อานิสงส์ไปด้วย แล้วก็ได้รู้จักกับพระนักพัฒนา “พระอาจารย์คมสัน ชนาสโภ” เป็นพระที่ครอบครัวน้องมิกิเคารพเป็นลูกศิษย์มานาน ท่านชวนเราไปเวียงป่าเป่ามานานแล้วเช่นกัน แล้วก็มีโอกาสได้ไป อย่างที่เราเองก็ไม่คิดว่าจะได้ไป

วันนั้นเป็นวันหยุด… พระอาจารย์คมสันและคุณแม่รุ่งทิพย์ พาเราไปพบกับ “คุณหมอสิทธิศักดิ์ คำศรีสุข” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า และภรรยา ซึ่งทราบว่าก็เป็นชาวเวียงป่าเป้าเช่นเดียวกัน คุณหมอและภรรยาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความผูกพันของชาวเวียงป่าเป้า ที่มีต่อโรงพยาบาลให้เราฟังว่า “โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า” เป็นเหมือนสถานที่พึ่งและศูนย์รวมใจ ไม่ต่างจากวัดวา เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอขนาด 60 เตียง ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 30 ปีแล้ว เมื่อเมืองขยาย ประชากรเพิ่มมากขึ้น วันหนึ่งรองรับผู้ป่วยไม่ต่ำกว่า 300-500 คน ก็ต้องยกระดับเป็น 90 เตียง แต่พยายามอย่างมากแล้ว ศักยภาพก็ยังไปไม่ถึงสักทีค่ะ คุณหมอเล่าต่อว่า ชาวอำเภอเวียงป่าเป้าเขาช่วยกันอย่างมาก

เมื่อไม่กี่ปีก่อน ทุกภาคส่วน เรียกว่าทุกครอบครัวที่ใช้ลมหายใจอยู่ในเวียงป่าเป้า คนเฒ่า คนแก่ เด็กนักเรียน เขาลงขันกันอย่างต่ำครอบครัวละ 200 บาท พระสงฆ์ก็จัดงานบุญกฐินผ้าป่า หน่วยราชการ ภาคธุรกิจก็ช่วยกันแข็งขัน จนสามารถสร้างอาคารหลังใหม่ซึ่งเป็นอาคารพักผู้ป่วยได้แล้ว เขาตั้งชื่ออย่างภาคภูมิใจว่า “อาคารเวียงป่าเป้าประชาร่วมใจ” มันคือ “อาคารแห่งลมหายใจ” ลมหายใจที่จะมีชีวิตรอดหรือไม่ นั่นคือความหวังของพวกเขาชาวเวียงป่าเป้า คุณหมอเล่ามาถึงตรงนี้ เราก็รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจราวกับได้อยู่ในบรรยากาศนั้นด้วย คุณหมอพาเราเดินชมโรงพยาบาล แต่มันคือการสำรวจ เห็นว่าทรุดโทรม เห็นว่าขาดแคลน เห็นว่าต้องพัฒนาอีกมาก

และแน่นอนเราได้เห็น “อาคารวียงป่าเป้าประชาร่วมใจ” แต่อาคารใหม่กลับกลายเป็นอาคารร้างมาจนถึงวันนี้ คุณหมอไม่ได้เล่าถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร

และเราก็ไม่เอ่ยถาม … เพราะมองตาก็เข้าใจ สาเหตุไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า เราได้ไปอยู่ตรงนั้น รับรู้ มองเห็นปัญหา แล้วเราจะช่วยกันได้อย่างไร

ณ ตอนนั้นก็เป็นเรื่องดีๆ ที่เราได้รู้จักชาวเวียงป่าเป้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยอีก 2 คน คือ คุณหมอ ผอ.รพ.และภรรยา ในวันที่เราลากลับ ไม่กี่วันฝนตกก็หนักน้ำท่วมอำเภอเวียงป่าเป้า ถามคุณหมอทางโทรศัพท์ว่า น้ำท่วมโรงพยาบาลไหม คุณหมอบอกไม่ท่วม ถามหลายครั้งก็บอกว่าไม่ท่วม

ไหน? คุณหมอส่งภาพให้ดูหน่อยค่ะ ที่บอกว่าน้ำไม่ท่วม

ภาพที่ถูกส่งมา หอพักผู้ป่วย ยามฝนตก ปลายเตียงผู้ป่วย พยาบาลต้องนำกระป๋อง กะละมัง ผ้าขี้ริ้ว มารองน้ำซับน้ำ คนเฒ่า คนแก่ เด็กเล็กๆ ที่มารอหาหมอต้องเบียนเสียด ระเบียงแดดส่อง ฝนสาด ลานจอดรถน้ำขัง

ใช่ ! ก็ไม่ท่วมจริงๆ นึกในใจ แล้วก็นึกไปอีกว่า สงสารคุณหมอจริงๆ

เลยตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ “ลูกเพจอีจัน” ที่เราให้คำนิยามกับพวกเขาว่า #สังคมอีจัน เราขอพวกเขาเพียงคนละ 20 บาท เท่านั้น 24 ชั่วโมง ธารน้ำใจหลั่งไหล 8,214,036 บาท เราขอระดมทุนอีกครั้ง เพราะงบประมาณที่ต้องใช้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 27 รายการ อยู่ที่ประมาณ 9,800,000++ บาท ทุกอย่างรวดเร็ว 36 ชั่วโมง ธารน้ำใจไหลเติม 14,546,574 บาท เรารีบแจ้ง #สังคมอีจัน ว่างบประมาณครบตามที่ต้องการแล้ว แต่ถ้าใครยังต้องการทำบุญช่วยอยู่ก็สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นบัญชีเงินบริจาคของทางโรงพยาบาลโดยตรง บัญชีนี้เปิดมานานแล้วและไม่ปิด

ธารน้ำใจยังหลั่งไหลเป็นมหาธารน้ำใจ

ยอดบริจาค วันที่ 13 สิงหาคม 2563 เวลา 16.45 น. เป็นเงิน 16,889,100 บาท และธารน้ำใจยังสิ้นสุด

“โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านกลางหุบเขาตามสภาพภูมิศาสตร์ ถ้าเจ็บป่วยเกินศักยภาพการรักษา ผู้ป่วยจะเดินทางไป รพ.เชียงใหม่ ก็ประมาณ 100 กิโล ทางเขา ทางเหว ทางโค้ง เช่นเดียวกับไป รพ.เชียงราย”
นี่เป็นข้อความในคอมเมนต์จากคนเวียงป่าเป้า

ธารน้ำใจครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงแค่ให้ “อาคารเวียงป่าเป้าประชาร่วมใจ” กลับมามีชีวิต ยกระดับจาก รพ.ขนาด 60 เตียง เป็น 90 เตียง แต่สภาพภายในเดิมที่เก่าชำรุดทรุดโทรมต้องซ่อมบำรุง ปรับเปลี่ยนเพราะมีอายุยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว เช่น หอพักผู้ป่วยที่หลังคารั่ว ต้องใช้กระป๋อง กะละมัง ผ้าขี้ริ้ว มารองน้ำซับน้ำ ระเบียงแคบๆ ไม่คุ้มแดดส่อง ไม่คุ้มฝนสาด แม้แต่ลานซักผ้า ลานซักล้างของโรงพยาบาล ไม่ใช่ว่ามันไม่สะอาดถูกสุขลักษณะนะคะ มันดีค่ะ แต่มันควรมีสภาพที่ดีกว่านี้

ดีกว่านี้ ! เพื่อคุณภาพชีวิต

ดีกว่านี้ ! เพื่อโอกาสรอดชีวิต

ดีกว่านี้ ! เพื่อบุคลากรทางการแพทย์รู้สึกว่า

มีคนช่วยส่งกำลังใจให้เขาดำเนินตามอุดมการณ์ชีวิต

เขียนมาถึงตรงนี้ก็ อยากร้องไห้อีกแล้ว มันซาบซึ้งหัวใจ มหกรรมคนไทยช่วยกัน

และจะเล่าต่อว่าชาวเวียงป่าเป้าเขากล่าวคำขอบคุณจากหัวใจของเขา มาถึงพวกเราว่าอย่างไร

“ในนามของชาวเวียงป่าเป้า ขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกๆ ที่ช่วยชาวเวียงป่าเป้า น้ำใจมหาศาลในครั้งนี้ พวกเราจะจดจำ จะจารึกไว้ในชีวิตของพวกเราและลูกหลานของพวกเรา ว่าเราได้รับน้ำใจที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ ไม่คิดว่าอำเภอเล็กๆ ที่ห่างไกลจะได้มีคนมองเห็นและช่วยเหลือ ถ้ามีอะไรให้ชาวเวียงป่าเป้าช่วย เราจะช่วยอย่างสุดกำลังในฐานะคนไทย ขอบคุณ เพจอีจัน ที่มาช่วยเป็นสะพานบุญ ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ขอให้บุญกุศลยิ่งใหญ่ตอบแทนเพจอีจัน และคนไทยทุกๆ คน ตอบแทนความดีในครั้งนี้เป็นร้อยเท่าทวีคูณ”

อ่านแล้ว ร้องไห้… มันอิ่มเอมใจ

ได้คุญกับคุณหมอและภรรยาทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ สัมผัสได้จากน้ำเสียงว่าตื่นเต้นดีใจอย่างมาก เล่าว่า ไปไหนเจอใครก็มีแต่คนมาร่วมแสดงความยินดี เป็นเรื่องที่ชาวเวียงป่าเป้าคุยกัน และเป็นที่เขายินดีร่วมกัน และขอบคุณน้ำใจคนไทย ในส่วนของงบประมาณนั้น เมื่อเข้าบัญชีบริจาคของทางโรงพยาบาล มีระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกฎหมายควบคุมอยู่ ต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคเท่านั้น จะใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย และคุณหมอก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านกฎหมาย มาเป็นที่ปรึกษา รวมทั้งนักธุรกิจ เศรษฐีต่างๆ ก็มาช่วยเพิ่ม

ทราบว่าเมื่อช่วงเช้ามีการประชุมตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคนี้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพวกเราคือ มอบให้ รพ.เวียงป่าเป้า พัฒนาโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือ พี่น้องชาวเวียงป่าเป้ายามเจ็บ ยามป่วย มีท่านนายอำเภอเป็นประธานการประชุม มีคณะสงฆ์ ตัวแทนประชาชน และข้าราชการหลายภาคส่วนมาร่วมกัน

ท่านนายอำเภอได้คุยกับเราผ่านโทรศัพท์ขณะประชุมว่า “ขอเป็นตัวแทนขอบคุณน้ำใจจากลูกเพจอีจันในครั้งนี้อย่างสุดซึ้ง และหากมีสิ่งใดที่ชาวเวียงป่าเป้าสามารถตอบแทนได้ในอนาคต ขอให้บอกชาวเวียงป่าเป้า” เรารับรู้ได้ว่าเป็นการขอบคุณจากหัวใจของท่านนายอำเภอ

แล้วจะอัพเดทคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะนะคะ โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลของชาวเวียงป่าเป้า แต่เป็นโรงพยาบาลที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก แห่งความสามัคคีของ #สังคมอีจัน และคนไทยทุกๆ ท่านค่ะ

ในนามของ พี่จัน และทีมแอดมินเพจอีจัน ขอบพระคุณทุกๆ ท่านอีกครั้งจากหัวใจนะคะ เห็นแล้วว่า คนไทย รักกันมากแค่ไหน

และที่สำคัญ…เดี๋ยวเราจะได้เจอกันวันเปิดอาคาร และจะได้รู้จัก ชาวเวียงป่าเป้า ทั้งอำเภอเลยค่ะ