พปชร. ลุยช่วย ‘หาญส์ หิมะทองคำ’ หาเสียงเขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม

พลังประชารัฐ จับมือ ‘หาญส์ หิมะทองคำ’ หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งโค้งสุดท้าย เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม

บรรยากาศหาเสียงของแต่ละพรรคการเมือง ช่วงโค้งสุดท้ายเป็นไปอย่างคึกคัก สำหรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ช่วย นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 13 เขตลาดพร้าว เขตบึงกุ่ม หมายเลข  8

“สกลธี” ดีใจ ปชช. ตื่นตัวเลือกตั้ง ฝาก กกต.แก้ข้อบกพร่องก่อน 14 พ.ค.66

เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ และขอให้ประชาชนช่วยลงคะแนนเสียงให้ตัวผู้สมัครและพรรค พปชร. โดยมีพี่น้องประชาชน และพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาด ต.รวมโชค (โชคชัย 4) ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีและขอถ่ายรูปร่วมเฟรมอย่างเป็นกันเอง

ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ทางผู้สมัคร และพรรคได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ผู้สมัครทุกคนลงพื้นที่อย่างหนัก ซึ่งในเขตลาดพร้าว นายภักดีหาญส์ และภรรยา ปู มัณฑนา ได้เข้ามาทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด และทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นผู้ค้ารายย่อยได้รับผลกระทบเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น 

ซึ่งพรรคมีเรื่องแหล่งทุนที่จะเข้ามาเติมเต็ม มาดูแลในเรื่องการประกอบอาชีพที่มั่นคงมากขึ้น ดังนั้น ผู้สมัครของพรรคได้เตรียมพร้อมที่จะนำนโยบายเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในสภา ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน

จากการสะท้อนเสียงในการลงพื้นที่ ตลาดโชคชัย 4 ครั้งนี้ มีพี่น้องให้การตอบรับเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะเมตตาให้ได้เข้ามารับใช้เขตนี้ พร้อมผู้สมัคร กทม.อีก 32 คน ที่พร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อคน กทม.

“อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 พ.ค.นี้ พรรคได้มีแผนการหาเสียงในเวทีปิดท้ายอีกครั้ง ซึ่งจะมีขึ้นที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (กรุงเทพ 2) แม้ว่าจะเป็นวันเดียวกับที่พรรคต่างๆ ได้จัดกิจกรรมปราศรัย รวมถึงสถานที่เดียวกันพรรคอื่นก็ไม่มีความกังวล 

เนื่องจากจัดปราศรัยคนละช่วงเวลา ในส่วนของพรรคเองก็มีการจัดเวทีย่อยในพื้นที่อื่นๆ อีก ซึ่งผู้สมัครทุกคนก็มีกลุ่มอาสาสมัครเข้ามาร่วมแสดงพลังโค้งสุดท้ายให้กับพรรค เพราะครั้งนี้ถือเป็นเวทีใหญ่ที่สมาชิกพรรคมารวมตัวกันในพื้นที่แห่งนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงเวทีเฉพาะ กทม. เท่านั้น” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ขณะที่ นายภักดีหาญส์  กล่าวว่า นอกจากการแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและปากท้องให้กับคนในพื้นที่แล้ว ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของพรรคแล้ว ยังมีนโยบายเฉพาะพื้นที่ที่จะมาดูแลพี่น้องประชาชนซึ่งถือเป็นภัยใกล้ตัวในพื้นที่  โดยเฉพาะการเพิ่มจุด CCTV ติดตั้งไฟส่องสว่างตามจุดต่างๆ เช่น สะพาน พื้นที่ทางเข้าชุมชน ที่เป็นจุดอับและจุดมืดค่อนข้างเยอะ และมีแหล่งมั่วสุมเกิดขึ้น 

จำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มมาตราการสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องปรามการก่ออาชญากรรมในพื้นที่ ร่วมถึงการขยายขอบเขตการดูแลความปลอดภัยของประชาชนโดยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และกู้ภัย ซึ่งในประเทศไทยมีจำนวน 1 ล้านกว่าคน ให้เข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดมากขึ้น