คุณแม่แตงโม ยังไม่ปักใจเชื่อสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว

คุณแม่แตงโม หอบหลักฐานให้ตำรวจ บอกยังไม่ปักใจเชื่อคำสัมภาษณ์ กรณีลูกสาวพลัดตกน้ำ เพราะลงไปปัสสาวะท้ายเรือ ยันยังไม่ได้พูดคุยหรือเจอหน้า กระติก แต่อย่างใด ลั่นอีกฝ่ายโกหก

หลังจาก กระติก อิจศรินทร์ ผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม นิดา และ แซน วิศาพัช ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงกรณี แตงโม พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะลงไปปัสสาวะท้ายเรือจนเสียชีวิต ล่าสุด นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของดาราสาว แตงโม-นิดา ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยนางภนิดา กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมามอบเอกสารให้กับพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยกับ กระติก ผู้จัดการ แตงโม แต่อย่างใด โดยยอมรับว่าในช่วงเวลาที่มีการแถลงข่าวเปิดใจของ กระติก นั้นทางคุณแม่ไม่ได้มีเวลาที่จะดูหรือติดตามเรื่องนี้ ทำให้ไม่ทราบว่ามีการพูดอย่างไร ในส่วนกรณีที่ในห้วงการแถลงข่าว กระติก บอกว่าที่ไม่ได้คุยกับคุณแม่ ไม่ได้โทรหาคุณแม่ เพราะว่าไม่สนิทกัน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่สนิทกันได้อย่างไร ในเมื่อเอาลูกคุณแม่ไปหากินเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สนิทกัน

ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าคุณแม่นั้นเป็นคนพูดแรงคุณแม่ขอถามผ่านสื่อมวลชนว่าคุณแม่พูดแรงตรงไหน คุณแม่ไม่เคยพูดหรือใช้ถ้อยคำหยาบคาย ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยกับ กระติก ซึ่งทาง กระติก บอกว่ามีการพูดคุยกันที่นิติเวช ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น ทางคุณ กระติก โกหก ไม่ได้เจอหรือพบหน้ากันแต่อย่างใด ซึ่งวานนี้เราได้มีการพูดคุยเรื่องงานของน้องโมในห้องประชุมห้องหนึ่งที่นิติเวช ซึ่งก็ไม่มี กระติก ร่วมอยู่ด้วย แม้กระทั่งตอนที่เข้าไปดูศพก็ไร้เงาของ กระติก อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ชายสองคนที่อยู่บนเรือมันจบลงแล้วในทางคดี แต่ตัวของ กระติก นั้นน่าสงสัยซึ่งตำรวจก็สงสัยในประเด็นนี้เหมือนกัน ก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจในการคลายข้อเท็จจริง ซึ่งมันมีเรื่องที่ลึกกว่านั้นที่คุณแม่ยังพูดไม่ได้

ถ้านึกย้อนไป หากเป็นจริงในสิ่งที่เขาทำก็จะรู้ว่าเขานั้นได้ทำร้ายน้องโมทั้งร่างกายและจิตใจจริง เขาไม่ได้มีความจริงใจกับลูกเรา เพียงแต่คุณแม่ยังพูดไม่ได้ ขอให้เป็นเรื่องของทางตำรวจ ซึ่งคุณแม่ก็ยังไม่เชื่อว่า แตงโม จะไปปัสสาวะบนเรือ เพราะชุดของแตงโมนั้นมันรัดแคบ อย่างไรก็ตามตนมองว่าคนเราหากอยากจะพ้นผิดต้องพูดความจริง หนักจะได้เป็นเบา แต่นี่ยังโกหกอยู่ โกหกนักข่าวคนทั้งประเทศแบบนี้มันไม่รอดหรอก ในส่วนประเด็นความสัมพันธ์ของคนในเรือ ที่บอกว่าเป็นเพื่อนกับน้องโมมานาน คุณแม่บอกเลยว่าคุณแม่ไม่เคยรู้จัก ซึ่งเพื่อนของน้องโมนั้นมีมาก หลายระดับ เพื่อนน้องโมทุกคนจะมีรหัสเข้าบ้านซึ่งเป็นช่วงที่คุณพ่อของโมเสีย โมก็จะอนุญาตให้เพื่อนเข้าไปในบ้าน ไปอยู่ด้วย ไปปลอบใจ

ทั้งนี้ตนเชื่อว่า น่าจะมีหลายคนที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจของน้องแตงโม ส่วนจะเป็นใครบ้าง เป็นผู้หญิงผู้ชายต้องถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสาเหตุที่เชื่อแบบนั้น เพราะว่ามีบุคคลหนึ่งที่น่าเชื่อถือ เป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ส่งเอกสารมาให้คุณแม่ดู ซึ่งเป็นข้อความที่คุณแม่เห็นคุณแม่ก็ตกใจ เลยเอามาให้ตำรวจดูแล้วช่วยตรวจสอบ เป็นข้อความที่เขียนในแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งในวันนั้น กระติก บอกกับโมว่าไปทานข้าว แต่หลังจากนั้นขึ้นไปบนเรือมันเป็นคนละเรื่อง และทำให้น้องโมไม่พอใจจนมีปัญหากันบนเรือ นั่งหน้าบึ้ง เหตุการณ์บนเรือตึงเครียด ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณแม่ได้รับเอกสารมา อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่เขากลับปฏิเสธก็ได้แต่ข้อเท็จจริงใครจะรู้บ้างว่าข้อเท็จจริงที่กระติกไม่ยอมพูดมันอยู่ในใจเขา แต่เขาไม่พูด ตอนนี้คุณแม่รู้แล้ว ตอนนี้ผ่านมาสี่วันตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณแม่ไม่เคยได้คุยปกติ ไม่เคยได้ยินสักประโยคว่าตอนนี้ลูกคุณแม่เสียแล้วนะ ไปนั่งเรือกับหนูแล้วเกือบตกเรือ ไม่มีคำพูดแบบนี้ออกมาจากปาก กระติก เลย

ในส่วนที่เขาพูดว่าการที่ แตงโม เสีย งานเขาก็หาย ในส่วนนี้ไม่ต้องมาพูด เขาก็ไปหาอย่างอื่นทำได้ ในส่วนประเด็นของลูกของกระติกที่บอกเป็นลูกบุญธรรมของ แตงโม นั้นขอชี้แจงว่าไม่ได้มีการจดรับรองเป็นบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด และน้องโมก็พูดตลอดว่าน้องโมรักอีสเตอร์ รับปากว่าจะส่งเสียเลี้ยงดู ซึ่งก็ได้ส่งแล้ว ส่งเรียนโรงเรียนแพงๆ ค่าเทอมหลายหมื่น ซึ่งหากมีการเซ็นเราก็สามารถที่จะยกเลิกได้ เพราะตัวของน้องโมได้เสียไปแล้ว

คลิปอีจันแนะนำ
เบลล่า ราณี อัปเดตชีวิต ความรัก