นายอัจฉริยะ ควง ปิ๋ม ซีโฟว์ ในฐานะพยาน เข้าแจ้งความ ลุงพล โอ้อวดสรรพคุณชาเกินจริง

นายอัจฉริยะ ควง ปิ๋ม ซีโฟว์ ในฐานะพยาน เข้าแจ้งความ ลุงพล โอ้อวดสรรพคุณชาเกินจริง ป้องกัน โควิด19 เเก้โรคมะเร็ง เเละลดไขมันได้

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าเเจ้งความดำเนินคดีกับ นายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล เป็นฐานะพรีเซ็นเตอร์ และพวกที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร ในข้อหาโฆษณาสรรพคุณเป็นเท็จ โฆษณาสรรพคุณผ่านสื่อต่างๆโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ หลังพบว่า นายไชยพล เป็นพรีเซ็นเตอร์ชายี่ห้อนี้ใช้ชื่อว่า ชาลุงพล ซึ่งไม่ตรงกับชื่อชาที่จดทะเบียนขออนุญาตจากองค์การอาหารเเละยา รวมทั้งยังโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ว่าชานี้สามารถป้องกันโรค โควิด19 เเก้โรคมะเร็ง เเละลดไขมันได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง

วันนี้ 23 ก.พ.64 เวลา10.00 น. ที่ กก.4 บก.ปคบ. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา นางสาวศุภรดา รินรดามณี อายุ 48 ปี หรือ ปิ๋ม ซีโฟว์ มาพบ พงส.กก.4 บก.ปคบ. ในฐานะพยาน กรณี ที่เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ผบก.ปคบ.ให้ดำเนินคดีอาญาเจ้าของชาชนิดหนึ่ง และ นายไชยพล วิภา กับพวก มีความผิดตามมาตรา 40 และ 41 พรบ.อาหาร ฯ

ทางด้าน นางสาวศุภรดา กล่าวว่า วันนี้มาเป็นพยานในประเด็นที่ตัวเองเคยร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ และเคยได้อ่านสรรพคุณของชาดังกล่าวในครั้งเเรก ซึ่งก็ระบุช่วยในเรื่องขับถ่ายทั่วไป พร้อมยืนยันว่าตนบอกต่อสรรพคุณตามที่ตัวเองทดลองเเละเห็นผลนั่นคือเรื่องการล้างลำไส้เเละขับถ่ายดีขึ้นเท่านั้น เเต่ยอมรับว่าตกใจเมื่อเห็นคลิปเเละทราบว่าพรีเซ็นเตอร์อีกคนระบุสรรพคุณว่าชาดังกล่าวสามารถเเก้ไวรัส โควิด19 รวมถึงโรคมะเร็งได้

ส่วนตัวรับว่า หน้าที่ขณะรับงานพรีเซ็นเตอร์นั้นก็เพื่อให้สินค้าเเละชื่อเเบรนด์เป็นที่รู้จัก ตนได้ร่วมกิจกรรมหลายอย่างกับทางเเบรนด์สินค้า รวมถึงพรีเซ็นเตอร์ชายอีกคนร่วม2เดือน ซึ่งเมื่อเเบรนด์เป็นที่รู้จักเเล้ว ตนจึงยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์เมื่อช่วงปลายปีที่เเล้ว ทั้งนี้ไม่อยากเป็นคู่กรณีกับใคร เเต่ยืนยันเพียงว่ามาในฐานะพยานเท่านั้น เเละขอพูดเพียงประเด็นตนเท่านั้น