อี๊ฟ พุทธธิดา ร่ำไห้เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อ รับมีภาวะแทรกซ้อน

อี๊ฟ พุทธธิดา สุดกลั้น เผยนาทีสูญเสียคุณพ่อ รับทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทำได้เพียงแค่โทรลาครั้งสุดท้าย

เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในวงการบันเทิงไทยอีกหนึ่งครั้ง สำหรับการจากไปของศิลปินแห่งชาติ อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา วันนี้ลูกสาว อี๊ฟ พุทธธิดา พร้อมครอบครัว ได้นำร่าง อาต้อย ไปที่ศาลา 1 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ซึ่งภายในงานได้มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และมีศิลปิน ดารา คนในแวดวงบันเทิง มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ อี๊ด ดวงใจ, ติ๋ม อรสา, กอบสุข จารุจินดา, โย ทัศน์วรรณ, ก้อย ทาริกา, ตุ๊ก ดวงตา, อาจิ๋ม มยุรฉัตร, มี๊ พิศมัย, ชมพู ฟรุตตี้ ฯลฯ ด้านสาว อี๊ฟ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังสูญเสียคุณพ่อว่า

“ความรู้สึกก็คือมันมีช่วงเวลาที่เราก็รู้ว่าสักวันหนึ่งที่เราต้องลากัน ถึงเราจะคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เราทำทุกอย่างแล้ว เราพร้อมแล้ว แต่สุดท้ายก็คือไม่พร้อม คุณพ่อทานได้น้อยมาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ ช่วงสิ้นปีที่แล้ว ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ เขาก็จะดีขึ้นเป็นพักๆ หมายความว่าบางช่วงที่สดชื่นก็จะเริ่มทานได้มากขึ้นหน่อย จริงๆ ช่วงล่าสุดที่ไม่ทาน ไม่ได้นานมาก แต่ว่าด้วยความที่ร่างกายมัน ถดถอย คำว่าทานได้คือประมาณ 8-9 ช้อน ทานไม่ได้เลยคือทานแค่ 1-2 ช้อน แล้วคุณพ่อก็ไม่อยากใส่สายในการให้อาหาร บางคนถามว่าทำไมเราถึงไม่บังคับ สุดท้ายอย่างไรก็ตาม เราอยากให้คุณพ่อมีความสุขที่สุด บางทีการบังคับคนไข้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุด สุดท้ายเราก็คิดว่าเราก็ยังโชคดีที่เราทำให้คุณพ่อได้มีความสุข คือเราได้พยายามทำให้พ่อมีความสุขมากที่สุด ฝืนใจเขาไม่ได้เยอะมาก มีบางครั้งที่ฝืนใจให้เขาทานยา แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็ถือว่าไม่ต้องมานั่งเสียใจ”

“กำลังใจของคุณพ่อมีขึ้นๆ ลงๆ คุณพ่อป่วยมาได้ 3 ปีแล้ว หนักบ้าง เบาบ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาโดยตลอด วันนั้นที่ไปโรงพยาบาลเพราะตรงกับวันที่คุณหมอนัดพอดี ไปนอนพักสักวัน สองวัน พอไปถึงคุณพ่อมีเสมหะที่เหนียวข้นเยอะมาก จนทำให้คุณพ่อหายใจไม่ออก ก็มีการดูดเสมหะกัน การดูดมันคงเจ็บและทำให้เหนื่อย ความดันก็ตก คุณหมอก็กระตุ้นด้วยยา แต่ความดันก็ไม่ขึ้น ช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ยากลำบากพอสมควร อย่างคุณพ่อไม่ทานข้าว คุณแม่ก็ไม่ทานเหมือนกัน เพราะเขาอยู่ด้วยกันดูแลกันมาตลอด”

“ตอนแรกคิดว่าคุณพ่อนอนโรงพยาบาลแค่ 2 วัน อี๊ฟก็เลยพาคุณแม่ไปคุยงานที่ต่างจังหวัดด้วยกัน วันนั้นพอถึงช่วงกลางคืนที่อี๊ฟไปถึงที่พัก อี๊ฟได้คุยกับผู้ช่วยที่เขาดูแลคุณพ่ออยู่ เขาก็ถามว่าอี๊ฟกลับวันรุ่งขึ้นเลยได้ไหม แต่พอประมาณตี 4 เขาโทรมาใหม่ เขาบอกว่าไม่น่าจะไหวแล้ว เขาอยากให้อี๊ฟคุยกับพ่อเลย ซึ่งอี๊ฟไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้น ตอนนั้นก็ได้แต่บอกพ่อว่า ถ้าพ่อเหนื่อยก็ขอให้พ่อพักเลย ใจก็คิดเหมือนกันนะว่าควรบอกให้พ่อรอหรือเปล่า ส่วนแม่ก็พูดเหมือนกันว่าพ่อไม่ต้องห่วง พวกเรารักพ่อมากที่สุด จากนั้นคุณพ่อก็ค่อยๆ หลับไป”

“เสียใจค่ะ ที่ไม่ได้อยู่ในวันนั้น แต่ก็เชื่อว่าพ่อเข้าใจ เพราะว่ามันไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อมันเกิดแล้วทุกคนอาจจะโทษตัวเอง ตอนแรกก็รู้สึกหนักอึ้ง แต่แม่เป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด แม่พูดกับอี๊ฟว่าพ่อมีชีวิตที่ดีมากๆ แล้วสิ่งเดียวที่เราทำให้เขาได้ก็คือทำให้เขาหมดความกังวลใจ เขาจะหลับแล้วก็ไม่ควรให้เขาต้องรู้สึกว่าเขาต้องมาโอ๋ใคร หรือมาอะไรอีก เขาคงจะรู้ว่าเราอยู่ได้ เราจะไปต่อได้ เราจะสานต่อชีวิตที่เขาให้ไว้ได้เป็นอย่างดี”

“คำสอนของคุณพ่อที่สอนอี๊ฟมีเยอะมากๆ พ่อสอนอี๊ฟจนถึงวันสุดท้าย คนแท้ต้องไม่ท้อ คนท้อไม่ใช่คนแพ้ นี่คือคำที่คุณพ่อเคยเขียนและอี๊ฟจำได้ดี คุณพ่ออี๊ฟเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ทำตัวแบบไม่เคยคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่หรือมีอภิสิทธิ์ชนอะไร จึงทำให้มีแต่คนรักเขา คุณพ่อสอนให้อี๊ฟรู้ว่าชีวิตคนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอด คุณพ่อเริ่มต้นจากศูนย์ จนไปอยู่ในจุดสูงสุด นั่นคือสิ่งที่คุณพ่อให้ไว้ แม้แต่วาระสุดท้ายคุณพ่อก็ยังสอนให้อี๊ฟได้รู้ว่าด้วยความกตัญญูคืออะไร การต่อสู้ของคุณพ่อ คุณพ่อมีหลาน มีครอบครัวเป็นแกนกลาง คุณพ่อเป็นคนที่รักครอบครัวมากๆ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนคุณพ่อก็พร้อมที่จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ครอบครัวทำให้ท่านมีพลังกายในการใช้ชีวิตอยู่มากที่สุดค่ะ”

คลิปอีจันแนะนำ
อี๊ฟ พุทธธิดา สุดกลั้น! เผยนาทีสูญเสียคุณพ่อ