แยม ธมลพรรณ์ เล่านาทีชีวิต หลัง ไฟไหม้วิลล่าหรู แต่ไม่มีการเตือนภัย

ว่าที่คุณแม่ ท้อง 5 เดือน แยม ธมลพรรณ์ เล่านาทีชีวิต หลัง ไฟไหม้วิลล่าหรู แต่ไม่มีการเตือนภัย พร้อมถามจะรับผิดชอบอย่างไร?

กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำเอาหลายคนอดห่วงไม่ได้ หลังจากที่ทราบว่า ว่าที่คุณแม่ ท้อง 5 เดือน อย่าง นักแสดง สาว แยม ธมลพรรณ์ เป็นหนึ่งในผู่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไฟไหม้วิลล่าหรู ที่เกาะกูดในครั้งนี้ด้วย

ล่าสุด แยม ธมลพรรณ์ ก็ได้ออกมาโพสต์เล่าประสบการณ์เฉียดตาย ในอินสตาแกรมส่วนตัว จากที่จะได้เที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว แต่กลับต้องมาหนีตาย พร้อมฝากถามทางรีสอร์ทว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับทรัพย์สินที่เธอสูญเสียไป และสภาพร่างกาย กับจิตใจ ที่บอบช้ำ โดยเธอเล่าว่า

“ คลิปนี้เพื่อนเราที่พักอีกวิลล่าหนึ่งถ่ายไว้ตอนที่จะมาช่วยเรา แต่ไม่สามารถเข้าไปได้

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวานนี้..วันที่ 6 มี.ค 65 เวลา 7.09 น. (เวลาที่รีสอร์ทหรูบนเกาะกูด) เขาจะให้นักท่องเที่ยว

ปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ช.ม ซึ่งเวลาปกติในไอโฟนคือ 6.09 ตอนนั้นครอบครัวของเรานอนพักอยู่ใน Villa 63 เป็นวิลล่าที่ดีสุด และใหญ่ที่สุดของที่นี่ เป็นโรงแรมระดับ 6 ดาว ลองเสิร์จดูได้นะคะ รีวิวเยอะมาก… โดยค่าใช้จ่าย 4 วัน 3 คืน เกือบล้าน.. แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เช้าวันนั้นตอนนอนอยู่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนวิ่งผ่านห้องไปมา ตอนแรกเบาๆนึกว่าแม่บ้านมาทำความสะอาด สักพักหนึ่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆเลยเริ่มรู้สึกแปลก หันไปดูเวลาในมือถือ คือ 6.09 น. เลยตัดสินใจปลุกสามี..ซึ่งพี่อ้ำแกเป็นคนหลับลึก..พยายามบอกว่า “ใครมาเดินผ่านไปมาเสียงดังสะเทือนมาก พี่ออกไปดูหน่อย” พอจบคำแยมลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มองออกช่องข้างๆหน้าต่างที่เป็นม่านพับปิดลงมา สิ่งที่เห็นคือ…เปลวไฟไหวไปมา ตอนนั้นตกใจบอกสามีว่าไฟไหม้ แล้วรีบออกไปเรียกลูกคนโตกับพี่เลี้ยงที่อยู่ห้องติดกันข้างๆ เรามองไปที่เพลิง คือ ไม่สามารถวิ่งไปห้องพักของคนอื่นในครอบครัวได้เลยเพราะเปลวเพลิงสูงมาก มองไม่เห็นอะไรเลย..ตอนนั้นใจเสียและขาสั่นมาก..บอกตรงๆเลย คือ คิดว่าลูกคนเล็ก พ่อแม่ แม่สามี และพี่น้องในครอบครัวจะออกมาได้ไหม หรือจะถูกไฟคลอก..

ในขณะที่เราก็ต้องหาทางออก ทางเดียวคือ..ด้านหลังห้องน้ำที่เป็นป่า แล้วต้องปีนขึ้นไปเดินในป่า เพื่อหาทางรอด…โดยทิ้งทรัพย์สิน ของมีค่า..แทบหยิบอะไรออกมาไม่ได้เลย นอกจากมือถือ โชคดีที่เราเดินไปเรื่อยๆจนเจอถนน ช่วงนั้นเราพยายามติดต่อคนในครอบครัวว่าออกมาครบไหม ทุกคนออกมาครบ…แต่คนในครอบครัวของเราที่พักชั้น 2 ไม่สามารถลงมาได้ เพราะไฟไหม้จนถึงบันไดแล้ว จึงต้องตัดสินใจปีนลงมา..แต่ไม้รับน้ำหนักไม่ได้ เลยตกลงมา..กระดูกซี่โครงหลังยุบ หัวแตก

ตอนนั้นทุกคนหวาดกลัวมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็ว และไม่มีใครได้ตั้งตัว..เพราะไฟไหม้ในขณะเช้าตรู่ ส่วนสัญญาณเตือนภัยก็ไม่ดัง รวมถึงที่พักก็ทำจากไม้ ใบจาก ไฟลุกลามเร็วมากประมาณ 10 นาทีคือ วิลล่าหายไปกับตา…มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ ในชีวิต ทุกคนที่รอดมาได้เพราะ “โชคชะตา” ไม่ใช่เพราะระบบรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด คือ ถ้าเรานอนแบบหลับลึก คิดว่าคงถูกไฟคลอกตายทั้งครอบครัว

ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ คนท้อง 5 เดือน ลูกเล็กๆ 2 คน หลาน พ่อ แม่ คนสูงอายุ….ทุกคนต่างหนีตายไปคนละทิศคนละทาง แยมถามว่า โรงแรมนี้จะจัดการอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้คะ??? ขนาดวันที่เกิดเพลิงไหม้ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆยังไม่ทราบ เขาแค่กันพื้นที่แล้วบอกว่า ถนนชำรุดห้ามผ่าน จะมีที่รู้เรื่องก็แค่ 2-3 วิลล่าใกล้เคียง แค่นั้น!!!! คือ ถ้าถูกไฟคลอกตาย คงโดนปิดข่าวเช่นกัน…ชีวิตทุกคนมีค่านะคะ เลยอยากมาบอกประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตให้ฟังค่ะ…

คืนที่ผ่านมานอนไม่หลับเลยภาพเปลวเพลิงที่กำลังลุกลามมาที่ห้องเราติดตามากๆ เหตุการณ์ในครั้งนี้ถึงแม้จะไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เราสูญเสียทรัพย์สิน สภาพร่างกายที่บอบช้ำ กระดูกซี่โครงหลังหัก มือบวม บาดแผล และอื่นๆ ยิ่งสภาพจิตใจไม่ต้องพูดถึง มันแย่มากๆๆๆๆ ผู้บริหารของคุณหายไปไหนคะ??? เราได้คุยกับแค่ Gm และ Fa เท่านั้น ซึ่งเขาให้คำตอบอะไรเราได้ไม่มากเลย “

ต่อมาทางรีสอร์ทก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าระบบการป้องกันอัคคีภัยสามารถทำงานได้ดีเป็นปกติ โดยระบุรายละเอียดเอาไว้ว่าว่า

“ ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2565 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในวิลล่า 63 ผู้เข้าพักทุกท่านที่อยู่ในวิลล่าดังกล่าว ได้รับการอพยพอย่างปลอดภัย. ทางรีสอร์ทรู้สึกเสียใจ และห่วงใยแขกทุกท่าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง

เราสามารถควบคุมเพลิงได้ ทำให้ไม่ลามไปยังวิลล่า และส่วนอื่นๆของเกาะ หรือของรีสอร์ท ขณะนี้สาเหตุของเพลิงไหม้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดและอยู่ในระหว่างการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีสอร์ทยังคงเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงร้านอาหาร และกิจกรรมทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทางเรามีมาตรการ และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทั้งที่นี่ และรีสอร์ทในเครือทั้งหมด วิลล่าทุกหลังของเราติดตั้งเครื่องตรวจจับควันไฟในห้องนอนทุกห้อง

ระเบียบการจัดการด้านอัคคีภัย และความปลอดภัยของเราได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ป่า เรามีทีมดับเพลิงที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีรวมทั้งมีทีมพร้อมปฏิบัติการเต็มรูปแบบ ซึ่งได้รับการฝึกซ้อมเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัยเป็นประจำ จากความพยายามของเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับระบบปฏิบัติการที่แข็งแกร่ง เราสามารถควบคุมไฟได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ลุกลามไปยังวิลล่าและพื้นที่อื่นๆในรีสอร์ท

เราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของทุกคนที่เกี่ยวข้อง และเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน “

ไม่รู้ว่างานนี้จะจบลงอย่างไร ทางที่พักเองก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนว่ามีมาตรการความปลอดภัยอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าเราคงต้องรอดูกันต่อ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม แอดจะนำมารายงานให้ทราบต่อไปค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
ทนายตั้ม วอนอย่าทิ้งคดี แตงโม อยากให้สู้กันต่อ