แอนนา ร่ำไห้ สงสาร แตงโม เผยตั้งใจบริจาคร่างกาย แต่กลับทำไม่ได้

แอนนา ร่ำไห้ สงสาร แตงโม เผยตั้งใจบริจาคร่างกาย แต่กลับทำไม่ได้ ลั่นเตรียมนำของมาขาย เพื่อหาเงิน บำรุงโบสถ์ ตามเจตนารมย์ของเพื่อน

อีกหนึ่งคนที่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ แอนนา เพื่อนสนิทของ แตงโม ตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งการเสียชีวิตของ แตงโม มีหลากหลายประเด็นที่ทำให้หลายคนสงสัย

ซึ่งล่าสุด แอนนา ได้ออกมาไลฟ์สดใน เฟสบุ๊ก ชี้แจงทุกประเด็นโดย แอนนา เผยว่า

“ เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เพิ่งออกจาก เบิร์ดแฟนโม แล้วก็ แม่ แล้วก็เพื่อนๆที่รักโมทุกคน วันนี้มาดูศพที่ โรงพยาบาล จะบอกทุกคนว่าวันนี้ก็ได้มีการคุยกับ กระติก แล้ว เคลียร์ใจกันในหลายเรื่อง หลังจากนี้ แอนนา ก็จะมูฟออนแล้ว เพราะ แอนนา ก็หายสงสัยในหลายประเด็น ในเรื่องของภาพที่ไม่ดีอยากให้ไม่แชร์ออกไป อยากให้โพสต์รูปตอนที่โมสวยๆ จะดีกว่า ไม่มีใครอยากให้คนอื่นเห็นภาพตัวเองตอนไม่สวยหรอก “

“ เบื้องต้นคุณแม่จะเป็นคนจัดการเรื่องพิธีทั้งหมด ส่วนเจ้าภาพก็น่าจะเป็นเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น พี่เอ ศุภชัย รวมถึงอีกหลายๆคนที่ช่วยเป็นเจ้าภาพ จัดเป็นแบบพิธีของทางคริสต์ เรื่องอุบัติเหตุ แอนนา ไม่ได้ติดใจแล้ว แอนนา ได้รับคำตอบหลายหลายอย่างจาก กระติก แล้ว แอนนา ไม่มีคำถามอะไรต่อ ไอจี ดูแล้วไม่มีใครล็อกอินเข้าไป น่าจะเป็นการเผลอกดลบจากทางญาติมากกว่า อีกเรื่องหนึ่งที่ เบิร์ด ขอไว้คืออยากให้เอาเสื้อผ้าโมมาขายแล้วเอาเงินให้โบสถ์ เดี๋ยว แอนนา จะทำให้ เบิร์ด เรื่องนี้ ทำให้โมถือว่าเป็นการช่วย ครั้งสุดท้าย “

“ ในสมัยที่เราเรียนด้วยกันเคยพูดกันว่าถ้าเธอเป็นอะไรไปจะทำยังไง โมเคยบอกไว้ว่าถ้าฉันเป็นอะไรให้เอาร่างกายฉันไปเป็น อาจารย์ใหญ่ แต่วันนี้มันน่าจะเป็นไม่ได้แล้วล่ะ มันน่าจะไม่สามารถบริจาคอะไรได้ เพราะว่าร่างกายอยู่ในน้ำนานเกินไป อยากให้ทุกคนช่วย ซัพพอร์ต เบิร์ด เพราะคุณเป็นคนเดียวในโลกที่โมยังห่วง เพราะว่าแม่ก็มีครอบครัว แต่ เบิร์ด พึ่งมาคบกับโมได้ไม่นาน แอนนา ต้องการที่จะจบประเด็นที่หลายคนถามว่า ก่อนหน้านี้แอนนาไม่ได้คุยกับ กระติก ในเรื่องที่หลายคนสงสัย เรื่องของการขึ้นเรือหรือเรื่องของการทำงาน ตอนนี้แอนนาได้ข้อมูลหมดแล้วแอนนาไม่ติดใจอะไรแล้ว ”

“ ที่คนสงสัยว่าถ้าโมเป็นอะไรไปของจะเป็นของลูกหรือเปล่า ไม่เกี่ยวนะคะไม่ได้เป็น ของก็จะเป็นของแม่อยู่ตามเดิม ไม่อยากให้ใครเอาเรื่องลูกที่เป็นลูกบุญธรรมของโมมาโยงด้วย เมื่อกี้ไปดูโมเป็นครั้งสุดท้ายมา ตอนแรก เบิร์ด ไม่คิดว่าจะเป็น แตงโม เพราะสภาพจำไม่ได้แล้ว แต่พอดูรอยสักรูปนก กับรอยสักตัวเลขที่ข้อมือมันใช่ ก็เป็นโมจริงๆ เดี๋ยวแอนนาจะเอาของของโมมาขายแล้วเอาเงินไปทำบุญให้กับโบสถ์ หรือช่วยเด็กๆหรืออะไรก็ได้ที่คิดว่าโมอยากจะทำเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อกี้เบิร์ดบอกว่าสิ่งที่ โมอยากจะทำมาตลอดก็คือช่วยสนับสนุนโบสถ์ เพราะฉะนั้นเราก็จะทำให้โม หลังจากนี้แอนนาก็คงมูฟออนใช้ชีวิตตามปกติ จะไม่ร้องไห้และไม่พูดอะไรกับใครอีกแล้ว ให้มันจบแต่เพียงเท่านี้ ขอให้ทุกคนอย่าลงรูปที่ไม่ดี อย่าลงรูปตอนที่กู้ภัยเจอเท่านั้นพอ ไม่อยากให้พูดข่าวอะไรที่เราไม่มั่นใจออกไป เพราะสุดท้ายแล้วมันกลายเป็นข้อเสีย มันกลายเป็นผลเสียกับตัวโมเองด้วย คนตายเค้าจะได้ไปสวรรค์แบบไม่ต้องมีห่วง ว่าจะมีคนพูดหรืออะไรในทางที่ไม่ดี ขอบคุณทุกคนที่ติดตามตลอด พวกเราและเพื่อนๆทุกคนทำเต็มที่ที่สุดแล้ว”

“ตอนแรกทำใจว่าจะไม่ร้องไห้แล้วนะแต่มันหยุดร้องไม่ได้ ก่อนหน้านี้เพิ่งคุยกันเองว่าปีนี้จะดีปีนี้จะทำงาน ปีนี้จะใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ปีนี้ได้ใช้ชีวิตแล้ว ผลจากความทุกข์ที่เคยกดดันตัวเองเอาไว้ว่า คนมา บูลลี่ ว่าไม่สวยบ้าง หรือว่าคนมา บูลลี่ เรื่องปากเรื่องคาง ตอนนี้มันก็จบลงแล้ว ตอนนี้ไม่มีใคร บูลลี่ แตงโม อีกแล้ว ทุกคนเข้าใจหมดแล้ว แต่โมก็ไม่อยู่แล้ว ฝากทุกคนด้วยนะคะพยายามอย่าลงรูปที่ไม่ดี หลังจากนี้ก็รออีก 7 วันรอชันสูตรเสร็จ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจไปแล้ว ทางฝั่งเพื่อนเพื่อนกับ กระติก ก็คุยเคลียหมดแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร เพราะเค้าก็พูดได้ฉะฉานและเราได้ตรงไปตรงมา ทุกประเด็น ไม่มีอะไรติดใจต่อกัน ตอนนี้แค่สงสารโมว่าเสียดายเราซัพพอร์ตกันมาตลอด เรากำลังจะไปได้ดี ไม่น่าอายุสั้นและมีจุดจบตรงนี้ แต่มันอาจจะเป็นวิบากกรรมครั้งสุดท้ายหรืออะไรก็ตาม โมคงไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว อยากให้ทุกคนจดจำโมนี้ภาพที่สวยงาม ภาพของความเป็น นางเอก ตลอดไป “