โม อมีนา เผยความรู้สึกหลังฟังคำแถลงสรุปคดี แตงโม นิดา ของตำรวจ

โม อมีนา เผยความรู้สึกหลังฟังคำแถลงสรุปคดี แตงโม นิดา ของตำรวจ ลั่นไม่ขอยุ่งเกี่ยว ให้ตำรวจทำหน้าที่ให้จบ แล้วค่อยไปดูต่อในชั้นอัยการ!

ดูเหมือนว่า คดีการเสียชีวิตของ นักแสดง สาว แตงโม นิดา จะยังไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาสรุปสำนวนในคดี เผยขั้นตอน และหลักการทำงานต่างๆ เพื่อไขข้อข้องใจของสังคม หลังจากผ่านมาสองเดือน แต่หลายคนก็ยังคงไม่ปักใจเชื่อ

ล่าสุด เพื่อนสาวอย่าง โม อมีนา จึงขอเปิดใจ หลังฟังตำรวจแถลงสรุป คดีแตงโม ในรายการ โหนกระแส พร้อมทั้งพูดคุยกับ รองแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร มาร่วมวิเคราะห์การแถลงของตำรวจในวันนี้ด้วย

เรื่องนี้พี่แต้มมองอย่างไร?

รองแต้ม : คิดว่าวันนี้ตำรวจไม่ได้มาปิดคดี เขาจะมาสรุปการดำเนินการเทคนิคในการสืบสวนสอบสวน แล้วก็รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน คิดว่าครบถ้วน เพื่อเสนอสำนวนให้สำนักงานอัยการ พร้อมส่งตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฎที่ทำการสอบสวนมา วันนี้คิดว่าตำรวจเขาจะแถลง แต่ไม่ได้ปิดคดี คำว่าปิดคดีอาจต้องถึงศาลตัดสินแล้ว หรือศาลตัดสินแล้วมีหลักฐานใหม่ หรือมีคนไปร้องกระทรวงยุติธรรม ขอให้ศาลพิจารณาใหม่ได้ ดังนั้นคำว่าปิดคดีเป็นคำของชาวบ้านที่พูดกัน หลักการทำงานของตำรวจไม่ใช่ปิดคดี

สรุปแล้วส่งอัยการ?

รองแต้ม : ใช่

แนวทางที่ทราบมา น่าจะเป็นอุบัติเหตุ?

รองแต้ม : ทุกวันนี้ที่คิดว่าตำรวจต้องตอบข้อสงสัยให้ได้ อันดับแรก คือน้อง แตงโม ไปฉี่จริงหรือไม่ ที่ประชาชนสงสัย สองน้อง แตงโมตกเรือ ตรงจุดไหน สามน้อง แตงโม ถูกฆาตกรรมหรือไม่ สี่ถ้าไม่ใช่ฆาตกรรม ผิดข้อหาอะไรบ้าง สามใครบ้างที่รับผิดชอบ สี่พนักงานสอบสวนทำสำนวนครบถ้วนตามหลักวิชาการหรือไม่ ที่สังคมสงสัยอย่างที่คุณหมอพรทิพย์สงสัยมา หลักฐานทางโซเชียลมันมีประโยชน์หรือไม่

พี่รณณรงค์มองอย่างไร?

รณณรงค์ : ผมรอฟังอยู่ 3 ประเด็นเท่านั้นเอง ไปเช็กดูว่าตำรวจจะอธิบายอย่างไร อย่างแรกแผลที่ขาขวาโดนอะไรแน่ สำคัญที่สุดเลย เพราะมีหลายทฤษฎี ว่าฟินน์บ้าง ใบพัดบ้าง มีดบ้าง หลังๆ ที่ปอกขวดไวน์ มีหลายทฤษฎีมาก ก็รอฟังสิว่าสรุปมาจากอะไรแน่ ต่อมาคือตำแหน่งหล่นไปกับบาดแผลไหน หล่นตำแหน่งไหน แล้วก็คลิปเด็ดที่บอกว่าเห็นชัด ว่า แตงโม หล่นท้ายเรือแน่ๆ รอดูอยู่ หวังว่าวันนี้คงไม่เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ นะ หรือไม่บอกว่าจะเก็บไว้ใช้ในชั้นศาล นี่หวังว่าจะได้เห็น จะได้หมดข้อสงสัยว่าหล่นตำแหน่งไหนแน่

โม ฟังแถลงแล้วเป็นอย่างไร?

โม : ก็ตามเจ้าหน้าที่นั่นแหละค่ะ ไม่รู้จะบอกอย่างไร เมื่อกี้ก็นั่งฟังอยู่

เชื่อไหม?

โม : ก็…(หัวเราะ)

ชาวเน็ตเขาบอกเหมือนบทละคร?

รองแต้ม : เขาเล่าเหตุการณ์ทีละตอน อัยการก็เหมือนกันจะเป็นแบบนี้ เขาไล่เหตุการณ์ตั้งแต่วินาทีแรก เดี๋ยวก็จะให้ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ที่เขาทำมีหลักการ ที่ผมรู้ไม่ใช่หลักการวิชาการของตำรวจอย่างเดียว เขาเอาภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญมาบอกหมด

ส่วนใหญ่ในโซเชียลไม่เห็นด้วย?

รณณรงค์ : ก็ไม่เชื่อเท่านั้นเอง ตัวตำแหน่งการหล่นภาพไม่ชัดเลย ให้ผู้เชี่ยวชาญมาชี้ภาพก็ไม่ชัดอยู่ดี ซึ่งไม่เกินความคาดหมาย ตำแหน่งที่หล่นก็ยังไม่ชัดว่าหล่นตำแหน่งนั้นจริงหรือเปล่า ดูแล้วยังไม่ชัด ตอนแรกบอกว่าหลักฐานชัด ดูอย่างไรก็ไม่ชัด สี แสงแบบนี้ทีวีหลายช่องก็ทำมาแล้ว หรือตัวแผลคุณ แตงโม ที่โดนปั่น เป็นประเด็นที่สุด ถ้าเข้าไปจะปั่นแค่แผลเดียวเป็นไปได้ไหม มันก็ยากนะ ก็ยังไม่เคลียร์ แต่ถ้าฟ้องก็ฟ้องตามนั้นแหละ เพราะกฎหมายเอาผิดคนขับเรืออยู่แล้ว

โมได้ดูการแถลง รู้สึกอย่างไร ผิดความคาดหมายของเราไหม?

โม : โมต้องแจ้งให้ทราบก่อนว่า เราก็มองในเรื่องพยานหลักฐานข้อเท็จจริงต่างๆ พวกหนูอาจไม่ได้อะไรกับทางกฎหมายมากมายนัก พวกหนูก็พยายามศึกษาเต็มที่แล้ว สุดท้ายเราก็หนีข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ได้ ต่อให้เราคิดไปเป็นอย่างอื่นหรือใดๆ ก็ตาม โมว่าเอามาเกี่ยวข้องกับคดีไม่ได้ ฉะนั้นโมอยากให้มองเรื่องพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เป็นไปได้ และอิงกับหลักกฎหมายด้วยดีกว่า เรื่องอื่นก็เป็นวิจารณญาณส่วนตัวกันไป

มีติดใจไหม?

โม : เราไม่ได้บอกว่าเราไม่เชื่อในเจ้าหน้าที่ อย่างที่เคยพูดไปหลายๆ ที่ โมเชื่อมั่นในกระบวนการ และกฎหมาย แต่ว่ามันจะมีบางอย่างที่พวกเราสัมผัส เจอมา หรืออะไรมา หนูก็ยังบอกอยู่ว่าไม่ผิดที่พวกหนูจะสงสัย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ ยอมรับในความเป็นจริง และสิ่งที่ออกมาได้

พี่แต้ม เรื่องนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อในสิ่งที่ตำรวจแถลง?

รองแต้ม : การเชื่อหรือไม่เชื่อ มันต้องมีพยานหลักฐาน มีวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญมาสนับสนุน อย่างคนบอกว่าน้อง แตงโม ไม่ได้ตกตรงนั้น ผมถามคนถามสิว่าแล้วคุณตอบได้ไหมว่าตกตรงไหน มีอะไรสนับสนุนไหม แต่ที่เขาบอกว่าตกท้ายเรือ เขามีวิทยาศาสตร์ มีผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการทุกเรื่อง ซึ่งเขายังไม่ได้บอกนะว่าผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทั้งนั้นที่อยู่ในสำนวน เขาทำวิธีการขั้นตอนการสืบสวนมาให้ดูเท่านั้น เช่นการผ่าพิสูจน์ ครั้งที่ 1 ผ่าไปแล้ว เชื่อไหมครั้งที่สองตั้งเป็นคณะทำงานเลยนะ มีหมอจากโรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น ผมถามว่าครั้งที่ 1 ที่ 2 หมอบอกตรงกันหมด แล้วจะเชื่อใคร

สังคมเริ่มสับสน เพราะคนมองว่าเงื่อนงำ อย่างภาพยังไม่ค่อยชัด ถ้าสังคมเขารับไม่ได้ ผิดหวัง มองอย่างไร?

รองแต้ม : เรื่องความเชื่อเราห้ามกันไม่ได้ ผมบอกว่าคดีนี้มันไม่ได้ยากเลย ไม่ได้สลับซับซ้อนเลย แต่มันยากที่เราจะทำให้ประชาชนเข้าใจ ในการทำงาน พยานหลักฐานต่างๆ ตรงนี้ยากมาก เพราะคดีนี้โซเชียลไปก่อนแล้ว ให้คนวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ก็เป็นหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล ผมคิดว่าเดี๋ยวสำนวนอัยการจะชัดเจนที่สุด จริงๆ แล้วที่ตำรวจแถลง เขาแถลงขั้นตอน แต่เนื้อในเท่าที่รู้มันละเอียดมากกว่านี้ อย่างการผ่าพิสูจน์ คณะที่มาผ่าเป็นอาจารย์หมอจากโรงพยาบาลดังๆ ที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น ครั้งที่ 1 ที่ 2 ความเห็นตรงกันหมด แล้วเราจะเชื่อใครล่ะ

วันนี้ที่ตำรวจแถลง ส่งสำนวนทั้งหมดให้อัยการ เรื่องนี้ไม่จบซะเลยทีเดียว ถ้าอัยการเห็นต่าง สั่งไปเอาข้อมูลเพิ่มก็อาจไม่ได้เชื่ออย่างที่ตำรวจแถลงก็ได้?

รองแต้ม : ถูกต้อง วันนี้ไม่ได้ปิดคดี เป็นการสรุปการสืบสวนสอบสวนทำความเห็นเพื่อส่งให้พนักงานอัยการ พนักงานอัยการ พอไปรับสำนวนเสร็จแล้ว ถ้าเห็นตามพนักงาน ตำรวจก็จะส่งผู้ต้องหาไปฟ้องที่ศาล เพื่อให้ศาลตัดสินต่อไป ถ้าพนักงานอัยการไม่เห็นด้วยก็จะส่งให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่พนักงานอัยการตั้งประเด็นไว้ สามถ้าข้อหาที่ตำรวจแจ้งไป มันไม่พอหรือยังไม่แจ้งอะไรต่างๆ เขาก็จะให้ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ดังนั้นสำนวนยังไม่เสร็จ ยังไม่ปิด เพียงแต่สรุปตามความเห็นเบื้องต้น เพราะกระบวนการยุติธรรมมันมี 3 ชั้น ตำรวจ อัยการ ศาล ขนาดตัดสินแล้ว บางทีพบหลักฐานใหม่ก็ยังรื้อกันใหม่ได้ ดังนั้นฝากประชาชนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ยังไม่ได้ปิดคดี

โมล่ะ?

โม : ที่หนูยกมือไหว้ คือใช่ทุกอย่างเลยเราให้ตำรวจทำหน้าที่ของเขาให้จบดีกว่า ความจริงออกมาเป็นอย่างไร ทุกคนยอมรับหรือไม่ยอมรับ ฟังแล้วก็พิจารณาไปดีกว่า เขามีหน้าที่แค่สรุปสำนวน หลังจากนั้นไปลุ้นที่อัยการดีกว่า พยานหลักฐานเราส่งเพิ่มเติมได้ในชั้นอัยการ แต่ไม่ใช่ว่าพวกหนูไม่ทำอะไรกันเลย หนูแค่ไม่ได้ทำเพื่อส่งตำรวจแค่นั้นเอง แผลต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่แถลงมา หนูเห็นตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เจอพี่ที่นิติเวช เราเห็นกันแล้ว ถามว่าเราจำลองกันไหม เราก็จำลองกันแล้ว มีทั้งหุ่น ทั้งอะไรต่างๆ จะบอกว่าพวกโมทำเต็มที่แล้ว แต่ไม่ได้ออกมาบอกว่าทำอะไรไปบ้างแค่นั้นเอง

อยากรู้ว่าตำรวจแถลงมา กับสิ่งที่เราทำมา ทุกสิ่งทุกอย่างไปด้วยกันได้ไหม?

โม : บางอย่างได้ บางอย่างไม่ได้จริงๆ อย่างเช่นข้อมูลในโทรศัพท์ บางอย่างก็ใช่ แต่บางอย่างที่ไม่ใช่ เช่นเรื่องรอยแผล เรื่องการนัดพบเจอกัน กลุ่มหนูทุกคนก็บอกกันอยู่ หนึ่งชั่วโมงที่บอกว่าพี่หาย เราไปอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้ถูกเรียกไปที่พิบูลสงคราม 1 กระติกเรียกเราไปอีกที่หนึ่ง แต่หนูไม่ได้ไป ฮิปโปเป็นคนไป พวกหนูไปกันจริงๆ เท่านั้นเอง

โมกับเพื่อนๆ แตงโม มองว่าวันนี้ตำรวจแถลงอะไรก็แถลงไป เดี๋ยวไปรอดูในชั้นอัยการ จะเอาหลักฐานเพิ่มเข้าไปไหม?

รองแต้ม : ถ้าเห็นต่างก็มีคำสั่งให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมมา บางทีตำรวจสอบมาประเด็นยังไม่ครบก็ให้ไปสอบเพิ่มเติมได้ หรือสอบพยานแล้วขัดกันก็ให้ไปสอบอีกครั้ง

ตำรวจสรุปแล้วน่าจะเป็นอุบัติเหตุ แตงโมตกเรือ รวมทั้งมีคนประมาท?

รองแต้ม : ที่ตำรวจแถลงไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มีคนประมาททำให้มีคนถึงแก่ความตาย ผมฟังที่สรุปมา คือประมาทอย่างเดียว เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ใช้คำว่าอุบัติเหตุไม่ได้ เพราะจะไม่มีใครผิด และไม่ใช่ฆาตกรรม เพราะฆาตกรรม ต้องมีแรงจูงใจ มีพฤติกรรมอะไรต่างๆ ซึ่งหลักฐานต่างๆ ไม่มีเลย หลักฐานทั้งหมดไม่ได้มาจากตำรวจนะ มาจากนักวิชาการ สถาบันหลายอย่างที่มาให้ตำรวจเมื่อถึงศาลจะปรากฏหมด

สังคมเชื่อว่าเกินครึ่งประเทศไม่เห็นด้วย?

รองแต้ม : บอกพี่หนุ่มตั้งแต่แรกว่ายากมากที่จะทำให้คนเข้าใจ แต่ต่อไปสังคมจะกลับมาเอง คดีนี้จะเป็นบทเรียนให้พวกโซเชียล พวกหิวแสง พวกที่พูดไม่มีพยานหลักฐาน มันจะน้อยลง จะเป็นคดีตัวอย่าง ซึ่งเป็นสองคดีแล้วนะ คดีแรกคดีลุงพล คดีนี้ก็เหมือนกันเลย โซเชียลนำไปแล้ว

สมัยคดีน้องชมพู่ มีการชื่นชมลุงพล แต่สุดท้ายคดีพลิก ลุงพลเป็นผู้ต้องหา?

รองแต้ม : เดี๋ยวเวลาศาลตัดสินอีกที สังคมก็กระตุกกลับมา อันนี้ก็เหมือนกัน อัยการเขารับส่งฟ้องแล้วก็จะกระตุกความรู้สึกประชาชนส่วนหนึ่ง ก็เป็นบทเรียนต่อไปให้ประชาชน ขณะนี้โซเชียลบางเรื่องเสพไปไม่ได้วิเคราะห์ ไปเสพคนที่พูดมาแล้วเหมือนเอาภาพมาประกอบ บางทีภาพที่เอามาก็ตัดต่อก็มี ได้มาเป็นทอดๆ ก็มี ที่มาหลักการก็ไม่มี แต่เขาเชื่อ เพราะเขาไม่เชื่อมั่นตำรวจ ตไรวจก็ต้องแสดงจุดยืน

ทำไมไม่เชื่อตำรวจ?

รองแต้ม : บางทีตำรวจมีอะไรผิดพลาด มีอะไรแล้วไม่ชี้แจง ไม่ทำความเข้าใจ บางคดีตำรวจก็ทำให้มีเงื่อนงำ คนเลยขาดความเชื่อถือ สมัยยุคก่อน ทำไมผมพูดอะไรแล้วเขาเชื่อ เพราะทำมีพยาน มีหลักฐาน มีขั้นมีตอน ชัดเจน แต่ตอนหลังก็ต้องยอมรับ กฎหมายอะไรต่างๆ เข้ามาบีบตำรวจเยอะเหมือนกัน พูดผิดคือฟ้องเลย เหมือนพี่หนุ่มพูดไปบางทีก็ห่วงพี่หนุ่มนะ พี่หนุ่มพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่คนไม่มองอย่างนั้น มันก็ทำให้คนจะทำอะไรก็กลัว ระเบียบเข้ามามากขึ้น สังคมเองก็เคลือบแครง

โมก็ยังยืนยันว่าตำรวจจะแถลงอะไรก็แถลงไป จะรอมุมอัยการ?

โม : หนูให้ตำรวจทำหน้าที่เขาให้จบ ที่เหลือไปเจอกันที่ชั้นอัยการดีกว่า แล้วรอว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร แล้วหนูจะพูดเหมือนเดิมว่าหนูไม่ได้ทำอะไร พวกหนูทำเต็มที่แล้วสุดความสามารถ แต่บางอย่างอยากให้เข้าใจว่าพวกเราไม่สามารถพูดรายละเอียดได้หมด เราก็ต้องระมัดระวังความปลอดภัย สองเรารักพี่ เราทำได้เท่าที่เราทำได้ โมจะไม่มีการไปเบี่ยงเบนใคร ไปล่วงเกินหน้าที่ใคร เราทำเท่าที่ทำได้ เท่าที่แตะต้องได้ก็จะทำ

ณ วันนี้แต่ละคนถูกแจ้งข้อกล่าวหา โมเองพอใจไหม?

โม : ถ้ากฎหมายพิจารณามาดีแล้วก็เป็นเรื่องของกฎหมายแต่โมเชื่อว่ากฎแห่งกรรมจะลงโทษพวกเขาเอง ตามวันเวลาของพวกเขาเท่านั้นเอง ส่วนอะไรต่างๆ ก็ตามที่พวกโมทำกันอยู่

กฎแห่งกรรมจะตามหาเขาเอง ต่างๆ นานา แสดงว่าคิดว่ามีอะไรมากกว่านั้น?

โม : สิ่งที่โมเชื่อ เราว่าเรารู้นิสัยพี่ ถ้าเขาเต็มใจไปก็คือการยินยอม ซึ่งเราห้ามเขาไม่ได้ ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือเราไม่เห็น แต่เรารู้นิสัยพี่ของเรา เราพิจารณาได้จากทัศนคติส่วนตัว เรารู้ว่าเขาจะทำอะไรและไม่ทำอะไร และเรารู้สึกว่าคนเหล่านี้โดนลงโทษโดยกฎหมายก็โดนไป แต่การใช้ชีวิตข้างนอก โดนสังคมลงโทษ หรือกฎแห่งกรรมก็เป็นกรรมของพวกคุณ หนูเป็นน้องแท้ๆ ก็ไม่ใช่ เราทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น

อะไรที่ไปไม่ถึงเดี๋ยวกฎแห่งกรรมจะไปถึงเอง?

โม : ใช่ค่ะ

พี่แต้มมองว่าตำรวจทำตรงไปตรงมาแล้ว?

รองแต้ม : ผมมองว่าวิธีการทำงานเขาถูกต้อง ครบ พยานหลักฐานครบ ผมมองตัวนี้ ส่วนวิธีการใครจะเข้าใจผิดอย่างไร ผมไม่ได้ถือ เวลาพูดจะเอาหลักกฎหมาย หลักวิชาการมาเป็นหลัก เพราะมันโกหกไม่ได้ อย่างจีพีเอสใครจะปลอมได้ เพราะมันเป็นดาวเทียม

เอาเป็นว่าคดีการเสียชีวิตของ นักแสดง สาว แตงโม นิดา ยังคงดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยความคืบหน้าของคดี ในชั้นอัยการต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เราคงต้องรอติดตามกันต่อไปค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เอ ศุภชัย ลั่นขำๆ ต่อไปขอเป็นคู่แข่ง อั้ม พัชราภา