อิงฟ้า เผยเคลียร์ใจ มีนา ริณา ส่วน สุลักษมิ์ ต่างคนต่างอยู่

เรียกได้ว่ากระแสไม่เคยแผ่วเลยจริง ๆ สำหรับ อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 ที่มีประเด็นออกมาให้ได้เห็นกันตลอด อย่างก่อนหน้านี้กับภาพยนตร์ PROJECT D ที่เจ้าตัวร่วมแสดงกับหนุ่ม พีพี กฤษฏ์ แต่สุดท้ายก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน แถมล่าสุด สาวอิงฟ้า ได้ไปเป็นคณะกรรมการเข้าพูดคุยกับน้อง ๆ ผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ในรอบห้องดำ ซึ่งเจ้าตัวได้เจอกับ มีนา ริณา มิสแกรนด์นครราชสีมา2023 ที่เคยมีประเด็นกันก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน

โดย อิงฟ้า เผยถึงโปรเจ็กต์ที่ได้ร่วมงานกับ พีพี ว่า จริง ๆ มีการเวิร์กช็อปกันหลายครั้งว่าเราจะไปในทิศทางไหน มองว่าเคมีมันเข้ากัน แต่บทในเรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะโหดมากๆ ในหลายๆ อย่างก็มีการคุยกันว่าเรื่องนี้พร้อม เรื่องนี้ไม่พร้อม ส่วนตัวเรา ตัวละครก็ไม่ได้ปรับอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่มันจะเป็นเรื่องของอินเนอร์มากกว่า ก็คือสามารถรอได้ ที่เลื่อนไปก็มองว่าทุกอย่างมันจะมีช่วงเวลาและความเหมาะสม คือหนังไม่ได้ยกเลิกค่ะ แค่เลื่อนเวลาในการถ่ายทำไป อาจจะเป็นสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า แต่ก็ต้องมาคุยกันอีกที กับน้องพีพี จริงๆ เข้าใจเขานะ เวลาเราเวิร์กช็อปด้วยกันเราก็มีการคุยกัน ก็เห็นความพยายามของเขา เขาก็เป็นคนที่ทุ่มเทเหมือนกัน แต่เราเข้าใจว่าความพร้อมของคนเรามันหลายอย่าง

ตอนนี้เตรียมตัวจะไปออนทัวร์อเมริกาด้วย ไปคอนเสิร์ตกับชาล็อต ออสติน ถามว่าเตรียมตัวยังไงบ้าง คือจริง ๆ เรามีความเป็นศิลปินอยู่แล้ว ในเรื่องการร้องเพลงขึ้นคอนเสิร์ต เราก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องห่วง อาจจะมีเล็กน้อยเรื่องการสื่อสารในเรื่องของภาษา ในส่วนของตัวโชว์จริง ๆ ก็เตรียมพร้อมแล้วค่ะ คือหนูกับน้องร้องเพลงขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกันบ่อย ความตื่นเต้นก็อาจจะแทบไม่มีอยู่แล้ว เรื่องโชว์ก็คงจะเป็นฟีลที่เราจะจอยๆ สนุกๆ มากกว่า

ส่วนกรรมการในห้องดำ กับการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์2023 เจ้าตัวบอกว่า หนูก็ดูตลอด อาจจะด้วยคนฝากความหวังให้เราช่วยดู ช่วยสแกน เขาไว้ใจเราในเรื่องของโซเชียล ในเรื่องการทำงานต่างๆ เขาก็ให้เราช่วยดู ว่าเด็กคนนี้ทำงานกับเราได้ไหม โซเชียลกระแสเป็นยังไง เราก็ดูตลอดว่ากระแสไปในทิศทางไหน คนนี้ต้องปรับอะไร คนนี้มีแววยังไง เราก็จะดูตลอด ถ้าถามว่าไหม หนูไม่กดดัน แต่เห็นใจน้อง ๆ มากกว่า เวลาที่เราอยู่ในจุดนั้น ที่ได้นึกถึงตัวเองตอนปีที่แล้ว เราก็คงไม่อยากเจอคำถามอะไรที่มันโหดมาก แต่จริง ๆ เราพยายามจะให้น้องๆ ดึงศักยภาพของตัวเองออกมา บางคนไม่กล้าที่จะพูด บางคนยังตื่นเต้นอยู่ ก็อยากจะให้น้อง ๆ ผ่อนคลายให้คำแนะนำที่ตรงจุดกระชับเวลาให้มากที่สุด

ประเด็นกับน้อง มีนา เคลียร์กันแล้ว ส่วนตัวหนู จริงๆ มองว่ามันไม่ได้มีอะไรหรอก บางคนสื่อไปอีกแบบ ตีความไปอีกแบบมากมายหลากหลายความคิด พอได้พูดคุย ถึงได้บอกว่าเวลามีปัญหาอะไรเคลียร์กันต่อหน้า คุยกันต่อหน้า มันถึงจะชัดเจน จริง ๆ เห็นว่าเขาจะร้องไห้ตั้งแต่บอสพูดแล้ว แต่เขาก็พยายามจะข่มไว้ แต่ถ้าร้องไห้เราก็อยากให้เขาร้องนะ คือบางทีถ้ามันแข็งเกินไป ผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย ถ้าเราเซนซิทีฟ เราอยากร้องก็ร้องเลย มันก็ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ แต่เท่าที่ดูวันรุ่งขึ้นน้องเขาก็ดูสดใสขึ้นเลย คือจริง ๆ หนูก็พอจะมองน้องออกว่าเขาเป็นคนแบบไหน เขาอาจจะเป็นคนที่แบบว่าคาแรกเตอร์การพูดเขานั่นแหละที่มันจะต้องปรับจริง ๆ อาจจะไม่ได้มีอะไรหรอก

กับ สุลักษมิ์ เจ้าตัวบอกว่า จริง ๆ หนูว่าเขาก็คงไม่ได้มีอะไรหรอก คือตอนประกวดเราก็ไม่ได้มีอะไรคุยกันเท่าไหร่ หลังจากการจบการประกวดไปก็คือแยกย้าย เขาไปทางของเขา เรามาสายของเรา จริง ๆ มันมีกระทบกระทั่งจิตใจเราบ้างเล็กน้อย มันจะมาจากคำพูดของคนอื่นที่มาเล่าให้เราฟังว่าเขามีการพูดถึงเราในลักษณะนี้ ๆ นะ เราก็รู้สึกว่ามันไม่จริงหรอก บางทีอาจจะคิดกันไปเอง ซึ่งมีโอกาสได้เจอเขาเมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกว่าขอโทษนะแม่ที่เคยพูดถึงแม่ไม่ดี เราก็สะกิดในใจ อ้าวสรุปเคยพูดไม่ดีเหรอ แต่เราก็ไม่ได้อะไร เราก็โอเค เพราะอย่างน้อยเขาก็กล้าที่จะเดินมาขอโทษเรา

แต่พอไม่นานมันก็มาเกิดเหตุการณ์ในไลฟ์สดนี้ขึ้น การที่เราเป็นคนในองค์กรแล้วเราแนะนำน้อง เรารู้สึกว่าการให้กำลังใจหรือการพูดคุย พูดเล่นมันอาจต้องดูในเรื่องของความเหมาะสม จริง ๆ เราไม่ได้ถือหรอกนะ เราอยากจะให้ดูเรื่องของกาลเวลา เราแค่มองว่าตัวน้องมีนาเขาสามารถไปได้ไกลมากกว่านี้ แล้วเขากำลังอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ เราอยากให้เขาปรับให้ถูกจุด แต่ถ้าเกิดไปเพิ่มความมั่นใจให้น้องในทางที่ผิด เราก็จะปรับให้เขาไม่เดินตามรอย เพราะว่าเราคิดว่าเขาไปได้ไกลกว่านี้เท่านั้นเอง เราก็เลยเสียความรู้สึก มันไม่ใช่แค่เกิดเรื่องนี้มา แต่มันมีสตอรี่ของมัน

ถ้าถามว่าเขายังติดใจเรื่องหนูอยู่ไหม หนูก็ไม่รู้นะว่าติดใจไหม แต่เขาก็ไม่ได้ขอโทษหนู เพราะหลังจากเกิดเรื่องเขาก็หายไปเลย ในทวิตเตอร์เขาบล็อกหนูถามว่าเกาเหลากันไหม คือสำหรับหนูไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่ก็แค่ต่างคนต่างอยู่ คุณก็ทำงานของคุณไป เราก็ทำงานของเราไป

ส่วนประเด็นที่มีเพจออกมาพูดถึงรับงานทานข้าว จริง ๆ ไม่มีเลย หนูรู้สึกว่ามันไร้สาระมาก ทางเพจที่ทำหนูรู้สึกว่ามันเป็นเพจขยะ ถ้าคนเชื่อก็แล้วแต่วิจารณญาณไป จริงๆ เราไม่จำเป็นจะต้องออกมาพูดก็ได้ เพราะหนูรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา

บอกเลย อิงฟ้า เคลียร์ชัด ครบทุกประเด็นเลย ใครสงสัยเรื่องอะไร เจ้าตัวตอบได้ชัดเจนจ้า