เป็นอีกหนึ่ง นักร้อง เสียงหวานละมุนที่แฟนๆ ทั้งประเทศต่างก็หลงรักสำหรับ เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์ นักร้อง ชื่อดัง ผู้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานหลายปี พร้อมความสามารถที่หลายคนก็รู้สึกชื่นชม แต่แล้ว ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน หนุ่ม เท่ห์ ก็ถูก ข่าวลือ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ มีบ้านเล็กบ้านน้อย โจมตีอย่างหนัก ล่าสุดหนุ่ม เท่ห์ จึงได้ออกมาเปิดใจ โดยได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้คนเข้าใจผิด และความรักความผูกพันธ์ในครอบครัวหลังจากฝ่าฟัน ดราม่า จนผ่านมาได้ให้ฟังกันแบบหมดเปลือกผ่านรายการ Daily POP LIVE
หลายๆ คนสนใจเรื่องราวต่างๆ ของพี่เท่ห์ โดยเฉพาะเรื่องความรัก รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“(ยิ้ม) นี่ขนาดมีลูกแล้วนะ ลูกสาวคนโตอายุ 13 ปีแล้ว คนเล็กลูกชาย 6 ขวบแล้ว คืออย่างที่บอกว่ามันมีช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้สัก 3 ปีที่แล้ว อยู่ๆ ก็มีเพจหนึ่งโพสต์ว่าพี่มีเมียน้อย เลี้ยงดู โอนเงินให้ มีสลิปหลักฐานอะไรประมาณนี้ คราวนี้เรื่องราวก็โอ้โหเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนภรรยาพี่บอกว่ามีไหม ถามตรงๆ
พี่ก็ตอบว่าไม่มีๆ แน่นอน ถ้างั้นก็คืนนี้เล่นคอนเสิร์ตเล่นให้สนุก เดี๋ยวทางนี้สืบเอง เขาก็ระดมเพื่อนๆ ตอนท้ายพิสูจน์แล้วไม่มีอะไรเลย หาหลักฐานได้ด้วยชื่ออุเทนโอนจริง แต่นามสกุลอะไรก็ไม่รู้ (หัวเราะ) แต่เขาคาดปิดนามสกุลไว้ แล้วซึ่งนามสกุลที่เขาคาดไว้ปิดไว้มันสั้น ของพี่มัน พรหมมินทร์ ตอนหลังท้ายที่สุดเพจนั้นมาขอโทษขอขมาพี่ เพราะตอนนั้นพี่แจ้งความดำเนินคดีเลยครับ”
อย่างตอนนั้นเรื่องราวประมาณกี่ปีมาแล้ว?
“อันนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วเอง ก่อน โควิด-19 ทำให้คนสนใจแต่เรื่องนี้ของพี่”
ขอย้อนกลับไปตอนนั้นที่ภรรยาถามพี่ พี่เท่ห์เป็นคนเห็นข่าวก่อน หรือภรรยาเห็นก่อน แล้วเขาว่าอย่างไร?
“คือตอนนี้มีรุ่นพี่โทรมา เขาบอกว่า เท่ห์ เดี๋ยวน่าจะมีนักข่าวโทรหานะ เรื่องนี้ๆ พี่ก็บอกว่าเรื่องอะไรวะพี่ สักแป๊บหนึ่งมาเลย ตอนนั้นพี่เพิ่งลงเครื่องเลยที่ จ.อุบลราชธานี ก็นั่งคิดไปคิดมา เราก็นึกในใจ พอแวะไหว้พระเสร็จปุ๊บพี่ก็ขอท่าน บอกว่าขอให้มีสติแล้วก็ทำตัวสบายๆ ถ้าเราไม่ได้ทำผิดจริงไม่ต้องเครียด พอหลังจากไหว้พระเสร็จปุ๊บพี่ก็ไปซ้อม ถึงเวลาก็ขึ้นคอนเสิร์ต พอลงเวทีมาปุ๊บภรรยาพี่ส่งข้อความมาบอกว่าเจอต้นตอแล้ว วันรุ่งขึ้นพี่กลับมาลงจากเครื่องบ่าย 3 พอ 4โมงปุ๊บพี่ถึง สน.ห้วยขวางเลย ไปถ่ายรูปหน้า สน. บอกว่าเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ มาแจ้งความเพจดังเขาติดต่อมาเลย บอกว่าหนูไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่หนูก็ลงไปเห็นเขาส่งมาให้ หนูไม่รู้ว่าพี่เท่ห์แตะต้องไม่ได้ พี่บอกว่าพี่ไม่ได้แตะต้องไม่ได้ แต่พี่ไม่ผิดน้องก็ไม่ควรทำ ถ้าพี่เอาหน้าหนูไปลงให้สื่อเห็นหนูจบเลยชีวิต พี่เลยตอบกลับว่าแล้วตอนที่หนูลงเรื่องของพี่ทำไมหนูไม่คิดว่าพี่จะเสียอนาคตบ้างล่ะ แล้วถ้าสมมุติว่าไปเจอคนที่คิดมากแล้วฆ่าตัวตายจะทำอย่างไร ถ้าหนูทำแบบนี้แล้วพี่เสียชื่อ แม่พี่ครอบครัวพี่ใครจะเลี้ยงเขา เขาก็นั่งร้องไห้เลย พี่เรียกให้ไปหาที่บ้านเลย พี่ถามเขาคำแรกเลยว่าหนูรู้ไหมพี่เอาเรื่องจริงหนูติดคุก 2 ปีนะ เขาก็นั่งร้องไห้เลย”
เรื่องนี้ถือว่าเป็นเคสใหญ่สำหรับความรู้สึกในเรื่องของครอบครัวของตัวพี่?
“ใช่ครับ เป็นเรื่องใหญ่มาก”
ตอนนั้นที่ภรรยาถาม ก็ไม่ได้มีเรื่องราวกัน เป็นการถามแค่นั้นก็จบใช่ไหม?
“ใช่ครับ ก็คือเอาง่ายๆ นะ นักข่าวที่สนิทๆ กันก็คือเงียบกริบคือแต่ละคนไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย
เพราะในใจเขาคงคิดว่าป๋านี้บ้านไฟไหม้อยู่ (หัวเราะ) แต่จริงๆไม่มีอะไรเลย”
ตอนแรกที่เรื่องออกมากระทบกับชื่อเสียงมากน้อยแค่ไหน?
“เอาจริงๆ มันก็มีผลแค่ 1-2 วันเอง ไม่กระทบครับ แต่ว่าคนที่น่าสงสารคือพวกที่โดนผลกระทบที่เป็นนักร้องสายเพลงหวานจะโดนหมดเลย”
พี่เท่ห์เองพอเจอเคสที่มันกระทบกับชื่อเสียง พี่คิดว่าอะไรทำให้พี่ผ่านมาได้?
“ความดี ความกตัญญูต่อพ่อแม่ ความกตัญญูที่มีต่อแฟนเพลงคือพี่เคยออกเงินรักษาผ่าต้อกระจกให้พระรูปหนึ่งที่ท่านกำลังจะตาบอด แล้วก็ไปหาพ่อแม่ที่ จ.เชียงใหม่ พี่เลยให้พ่อกับแม่พาไปตรวจ ถ้าผ่าก็ต้องผ่าใช้เงินเท่าไหร่ก็บอกเดี๋ยวโอนให้ พอท้ายที่สุดมาวันหนึ่งที่พี่มีปัญหาหนักๆ พี่ก็จะทุกข์อยู่ไม่นานจะเจอแสงสว่าง ซึ่งตรงนั้นพี่ก็เลยใช้คำว่าพี่ได้บุญจากการให้แสงสว่างกับพระครับ”
แล้วในเรื่องของความรัก หลังจากมีประเด็นนั้นแก้ไขความเข้าใจผิดมาแล้ว คนก็อยากรู้เรื่องความรักของพี่เท่ห์มากขึ้น ชินในการตอบหรือไม่?
“ก็เป็นการแซวในเรื่องของนักร้องเสียงละมุน เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็เรียกนักร้องเสียงละมุน มุมขำครับ (หัวเราะ)”
ความสัมพันธ์กับครอบครัวตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?
“ไม่มีครับ ไม่มีปัญหาเลย”
อย่างพี่เองความรัก กับ ภรรยาดูแลกันและกันอย่างไร?
“เสมอต้นเสมอปลายครับ พี่ไม่ได้หวานแหววครับ คู่ของพี่อยู่กันมาก็นานนะ ตั้งแต่ปี 2549 แต่งงานครับ (ยิ้ม)”
อย่างลูกพี่เท่ห์เอง พี่วางแนวทางต่างๆ ของเขาไว้อย่างไรบ้าง ?
“กำลังซ่าเลยครับ พี่ให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น เพราะเราเป็นแบบนั้น พี่จะไม่เน้นเลยว่าลูกต้องเรียนเก่งนะอะไรแบบนี้ แล้วแต่เขา ถ้าเขาเรียนเก่งแสดงว่าเขาได้จากแม่ ถ้าเขาเรียนไม่เก่งได้จากพี่ (หัวเราะ)”
วางอนาคตของทั้งสองคนมีแนวเข้า วงการเพลง หรือ ดารา แบบพี่เท่ห์ไหม?
“เอาที่เขาชอบครับ อย่างเขาอยากเล่นกีฬา เล่นกอล์ฟก็ไป แล้วลูกชายคนเล็กเมื่อวานพาไปเดินห้างเอสพลานาดรัชดา ป๊ะปาพาเข้าร้านกีต้าร์หน่อย อยากได้กีต้าร์ตัวเล็กๆ จะมีกีต้าร์ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง เจ้าของร้านหยิบเทลเลอร์มาตัวละหมื่นกว่าบาท พี่เลยบอกว่าไพร์มไม่ใช่ตัวนี้ลูก เอาแบบตัวเล็กๆ หัดเล่นก่อน แล้วถ้าเล่นเก่งป๊ะปามีให้อยู่แล้ว เพราะพี่มีเป็นกีต้าร์โปร่งฟ้าของพี่อยู่แล้วตัวหนึ่ง กีต้าร์คลาสสิคตัวหนึ่งแล้วก็กีต้าร์ไฟฟ้ารุนพี่เอามาจำนำ ทุกวันนี้มีเงินแล้วนะ แต่ไม่เอาคืน เขาไม่มาเอาคืน เขาบอกว่าอยากให้พี่เก็บไว้ใช้ก็ดีนะเป็นรุ่นลิมิเต็ดครับ”