ดูเหมือนจะเป็นคู่สามีภรรยาที่น่าอิจฉาสุดๆของหนุ่มป๋อ ณัฐวุฒิ และสาวเอ๋ พรทิพย์ ที่รักกันมานานถึง 18 ปี อวดความหวานผ่านโซเชียลกันตลอด แถมยังมีพยานรักอีก 2 คน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเบื้องหลังความเป็นครอบครัวไม่ง่ายอย่างที่คิด ทั้งคู่เคยหย่าขาดจากกันมาแล้ว แต่ก็ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมกลัยมาจดทะเบียนสมรสกันอีกครั้ง ถึงขั้นเคยเกลียดหน้ากันแต่ก็ยังรัก มันเป็นยังไง ทั้งคู่ได้เผยความรู้สึกของความรักตอนนี้ในรายการWOODY FM ว่า
ป๋อ : โคตรดี มันไม่ได้รู้สึกว่าว้าวนะ แต่เหมือนประคองไปด้วยกัน เดินกันไปสบายๆ บนถนนเส้นหนึ่งก็ชมก็ชมไม้ไปเรื่อย ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก่อนที่จะมีเส้นนี้มันก็ธรรมดาที่จะต้องเจอเรื่องที่มันยาก
ซึ่งช่วงที่ทำให้มีปัญหากันหนักนั้นเป็นช่วงที่มีลูกคนแรก โดยทั้งคู่เล่าให้ฟังว่า
เอ๋ : เป็นช่วงตอนที่มีลูกคนแรก เพราะเรายังไม่เคยมีลูกกันมาก่อน แล้วเราก็เลยรู้สึกว่าไม่รู้ว่าเราจะทำยังไง พอเกิดสถานการณ์แบบนี้แล้วเราจะต้องทำยังไงต่อไป เพราะเราเป็นพ่อแม่มีใหม่เราไม่รู้ ก็เกิดการทะเลาะกัน เพราะฉันคิดแบบนี้ เธอคิดแบบนี้ ทำไมไม่คิดแบบฉัน ทำไมไม่คิดแบบเธอ
ป๋อ : คือทะเลาะด้วยกันตลอดเวลาที่คบกันแล้ว อันนี้คือทะเลาะสามัญ แต่ทะเลาะในช่วงที่มีลูกเป็นทะเลาะที่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนทุกครั้งชนิดที่แบบเหมือนมีอะไรแปลกๆ เห็นแววตาที่เริ่มไม่ยอมแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้เอาสิ จะเป็นอารมณ์แบบเริ่มท้าทายเริ่มอะไรกัน ถ้าสำหรับที่ใหญ่ที่สุดของเราแล้วรู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้
หนักถึงขั้นที่คิดว่าจะต้องยุติความสัมพันธ์ ถึงขั้นไม่อยากเจอหน้าและเกลียด และมีการถามทนายหากหย่า ป๋อ ณัฐวุฒิ ยอมรับว่าตอนนี้เลว คิดที่จะเอาชนะ
เอ๋ : มีค่ะ อย่างที่พี่ป๋อเคยบอกว่าสายตามันเปลี่ยนไป สายตาที่เอ๋มองพี่ป๋อมันเริ่มมีความแบบฉันไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนี้ ฉันเกลียดมันมีอารมณ์นั้นแว๊บเข้ามา
ป๋อ : เกลียด ไม่ชอบ
เอ๋ : เขาบอกเอ๋เลยว่า พี่เกลียด
ป๋อ : ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ ลงมาจากบันไดก็เกลียดแล้ว ทำไมต้องแต่งตัวอย่างงี้ ทำไมต้องแบบฟึดฟัดด้วย ทำไมอยู่กันดีๆ ไม่ได้ ทำพูดอย่างนี้ก็จะไปอย่างนั้น เกลียดแบบคุณเคยรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดไหม คือไม่ได้เกลียดแบบว่าเราจะไปห้ำหั่นเขานะ แต่เราไม่ชอบเขาแบบนี้เลย 8 ปีที่ผ่านมาที่เคยจีบไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้นิ ทำไมมันเปลี่ยนไป มีลูกมันต้องดีขึ้นสิ ความรับผิดชอบของการเป็นแม่ล่ะทำไมไม่พยายามที่จะสร้างให้มันดีกว่านี้ พอมันวนอยู่ในหัวแล้วมันตีกันเลยเกิดเป็นความชิงชัง สิ่งเหล่านี้มันวนอยู่ประมาณครึ่งปี ถึงขั้นคิดของเราแล้วว่า เราจะไปไหนต่อ ถ้าเกิดเราหย่าจริงๆ ต้องทำยังไง ทรัพย์สินยังไง เคยถามเพื่อนที่เป็นทนายด้วยว่าถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนี้ต้องทำยังไง คิดไปถึงนั่นแล้ว เอ๋เขาก็ไม่เคยรู้ วันหนึ่งเรียกกันมาคุยว่าถ้าเอ๋ทำแบบนี้ลูกก็ต้องไปอยู่กับเอ๋ไง เอ๋ก็ต้องไปมีสามีใหม่ ผมก็จะมีภรรยาใหม่ แล้วอยากได้แบบนั้นไหม ก็ได้นะ ก็ต้องเลือกว่าเอ๋อยากได้แบบนี้หรือเปล่า ตอนนั้นเลว คือเป็นคนเหมือนกับมีมุมที่จะต้องชนะเหมือนกันสำหรับเรานะ แล้วคนที่เราทำร้ายก็คือเขา
ซึ่งด้านป๋อ ณัฐวุฒิยังอีกว่า เหตุการณ์นี้ได้กลับมาทบทวนอีกครั้งเพราะแม่ จึงกลับไปคืดว่าทำไปแล้วได้อะไร ซึ่งพฤติกรรมในตอนนั้นที่ทำให้รู้สึกรำคานคือความดื้อเงียบของฝ่ายเอ๋ พรทิพย์ และเอ๋บอกว่าสิ่งที่รำคานในตอนนั้นคือความบ้าอำนาจของป๋อ ณัฐวุฒิ เผด็จการ จุกติก และคิดเล็กคิดน้อย
และที่ผ่านมาเหตุการณ์มาได้ทั้งหมดเพราะความรัก และการปรับความเข้าใจ ปรับเข้าหาซึ่งกันและกัน
เอ๋ : ข้อดีคือเขารักเรา คือถ้าไม่รักเขาก็คงไม่เป็นแบบนี้ ไม่เจ้าระเบียบ เจ้ากี้เจ้าการ ทั้งหลายทั้งปวงคือเกิดจากความรัก
ป๋อ : เพื่อนสนิทที่รู้ใจเรามากที่สุด เวลาเรามีอะไรก็จะคุยกับเขา ก็จะบอกว่ามึงรู้ไหมว่าเป็นเอ๋เหนื่อยนะ กูเหนื่อยแทนเขาเกี่ยวกับมึง (หัวเราะ) ก็เข้าใจแหล่ะเขาก็เหนื่อยกับเรา แต่เราก็พยายามไง ผมว่าความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องของความพยายาม มันไม่มีใครเพอร์เฟ็กซ์หรอก ไม่มีใครสมบูรณ์แบบมาแล้วเป็นจิ๊กซอว์ที่มันต่อกันพอดีเหมือนตามที่เราคุยกันในตอนงานแต่ง มันไม่ใช่ขนาดนั้น สุดท้ายมันต้องมาคอมพลีทกันเรื่อยๆ ต้องหาเวลามีต่อจิ๊กซอว์กันเรื่อยๆ
แม้จะลูก 2 แต่ยังมีความหวานให้กันขนาดนี้ จะมีคนที่ 3 ตามมาอีกมั้ย ซึ่งสาวเอ๋ พรทิพย์ ขอปิดจ้อบแค่นี้ก่อน เพราะอายุมากขึ้น และเหนื่อยแล้ว
คลิปอีจันแนะนำ
เอ็มมี่ แม็กซิม ควงว่าที่เจ้าบ่าว เล่าเส้นทางความรัก