ยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนพูดถึง สำหรับ ปัญหาระหว่างภรรยาของร็อกเกอร์ชื่อดัง เสก โลโซ อย่าง กานต์ วิภากร, แซนวิช ปภาดา และอีฟ แม็กซิม จนกลายเป็นการฟ้องร้องกันในที่สุด
ล่าสุด (20 กรกฎาคม 2563) เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญามีนบุรี เป็นคดีที่ น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ “อีฟ แม็กซิม" เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "กานต์ วิภากร" ในฐานะจำเลยคนที่ 1 และ "แซนวิช ปภาดา" ในฐานะจำเลยคนที่ 2 ร่วมมือกันไล่เจ้าตัวออกจากบ้านพร้อมกับได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ในวันที่ 18 สิงหาคม 2562 รวม 2 ข้อหา คือ 1. ข้อหาข่มขืนใจในส่วนที่มีการไลฟ์สด 2.ข้อหาหมิ่นประมาท
ซึ่งวันนี้สาวแซนวิช ปภาดา พร้อม กานต์ วิภากร และทนายอธิภัทร ภัทรมงคลชัย (ทนายของอีฟ แม็กซิม) ได้เดินทางมานัดคำสอบให้การฟ้องครั้งที่2
เราน้อมรับคำตัดสินใช่มั้ยถ้าท่านมีคำตัดสินออกมา
พร้อมค่ะ
ได้คุยกับทนายมั้ยถ้าเราทำความผิดว่าเราต้องรับโทษยังไงบ้าง
ก็คุยค่ะ ปรึกษากันอยู่ แต่ยังไม่ได้มีข้อชี้ชัดอะไร อย่างที่บอกว่าต้องรอรอบหน้า
มีความกังวลอะไรมั้ยเช่นเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหาย
ไม่เลยค่ะ
เรื่องคดีเรามั่นใจว่าเราไม่มีความผิดเหรอ
ก็ต้องรอดูแมชหน้าแหละ
ไม่มีการไกล่เกลี่ยกันอยู่แล้วใช่มั้ยกับอีฟ
ไกล่เกลี่ยกันไปแล้วรอบแรกค่ะ แต่ไม่เป็นผลค่ะ
ทางเขายืนกรานว่าจะดำเนินคดีหรือยังไง
ไม่ทราบเลยค่ะ วันนี้เขาก็ไม่ได้มา ต้องถามทางฝั่งเขาดูค่ะ
กับกานต์ที่มีปัญหากันได้คุยกันมั้ย
ไม่ค่ะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย
อยากจะคุยอะไรกับกานต์เพิ่มเติมมั้ย
ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ
คนจะมองว่าตอนแรกก็ดีกันอยู่ ไล่อีฟออกจากบ้าน แต่ตอนนี้มาตีกันเองแล้ว
ในส่วนของแซนไม่ได้มีปัญหาอะไร และใช้ชีวิตปกติ
ที่เขาบอกว่าอยากจะตรวจดีเอ็นเอลูกของเราล่ะ
อันนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องภายในครอบครัวดีกว่า ยังไม่ได้มีการทำอะไร
ยืนยันว่าลูกของเราเป็นลูกพี่เสก
ก็ตามนั้นค่ะ
อยากพิสูจน์ให้สังคมรู้มั้ย
จริงๆ ในส่วนนี้แซนยังไม่ได้ออกมาพูด และจริงๆ แล้วในส่วนตรงนี้เป็นเรื่องระหว่างแซนกับเสกมากกว่า
แล้วตัวเราพร้อมจะตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ให้กระจ่างไปเลยมั้ย
ใครเป็นคนให้ตรวจล่ะ เสกเหรอ
แสดงว่าที่ผ่านมาเป็นความต้องการของกานต์ แล้วเสกเคยเรียกร้องให้เราไปตรวจมั้ย
ยังๆ ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย
แล้วถ้าเพื่อคลายความแคลงใจ เสกบอกให้ตรวจ จะตรวจมั้ย
ก็ไม่มีความจำเป็นอะไร เพราะ ณ ปัจจุบันแซนก็เลี้ยงน้องเอง และไม่เคยเรียกร้องสิทธิอะไรด้วย
เสกเขายังส่งเสียมั้ย
ไม่ได้ติดต่อกันค่ะ เพราะไม่อยากมีปัญหามากกว่า คือตัดปัญหาออกแค่นั้นเอง เราก็ใช้ชีวิตและดำเนินชีวิตปกติ
เรื่องค่าใช้จ่ายของลูก เรารับผิดชอบเองทั้งหมดใช่มั้ย
รับผิดชอบเองค่ะ
นานแค่ไหนแล้ว
จริงๆ เรื่องของค่าใช้จ่ายตั้งแต่เกิดมาแซนก็ซะส่วนใหญ่ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะลูกเรา เราก็ดูแลได้ ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่ได้มีอะไรน่ากังวลด้วย
ยืนยันว่าเราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ให้ใครรู้ใช่มั้ย
มันเลยจุดๆ นั้นมาแล้ว และคนที่ออกมาบอกให้เราพิสูจน์เขาเป็นใคร
โกรธมั้ยที่อยู่ดีๆ เขาก็ออกมาเรียกร้องให้เราทำอะไรขนาดนี้
ไม่โกรธค่ะ เราพอทราบเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่เขาพยายามจะบอกว่าลีอองไม่ใช่ลูกเสก
ก็ความคิดเขา เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้
เราห่วงความรู้สึกลูกในอนาคตมั้ยว่าถ้าเขาโตขึ้นมารับรู้เรื่องนี้จะรู้สึกยังไง
ไม่นะคะ เพราะแซนเชื่อว่าการเลี้ยงดูของแซน อนาคตข้างหน้าแซนก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ ณ ปัจจุบันแซนก็ดลี้ยงลูกให้ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุด
แสดงว่าตั้งแต่เราพาลูกออกจากบ้านเสก ลูกก็ไม่เคยได้เจอเสกเลยเหรอ
ไม่ค่ะ ยังไม่ได้เจอ แต่ปกติก็ไปๆ มาๆ อยู่แล้ว เขาก็เลยไม่ได้เรียกร้องอะไร
กี่เดือนแล้ว
นานแล้วค่ะ แต่ไม่ถึงปี
ตอนนี้เรียกว่าตัดขาดกับเสกหรือยัง
ก็ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า จริงๆ ณ ปัจจุบันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตอนนี้แซนก็ใช้ชีวิตตามปกติ และทำธุรกิจซะส่วนใหญ่ เอาเวลาไปมุ่งเน้นเรื่องธุรกิจมากกว่า และลีอองก็เพิ่งจะเข้าโรงเรียนด้วย ก็เลยยังไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้เลยค่ะ
ความสัมพันธ์พ่อกับลูก เราไม่ได้ปิดกั้นอะไรใช่มั้ย
ไม่เลยค่ะ
เสกยังมาเจอได้ใช่มั้ย
มาเจอได้ปกติเลยค่ะ ไม่ว่าใครก็เจอได้ปกติ
เขาบ่นคิดถึงพ่อหรือถามหาบ้างมั้ย
เขายังเด็กมากไงคะ ก็ตามประสาค่ะ
เราจะตอบคำถามกับเขายังไงบ้างถ้าถึงวันที่เขาต้องรับรู้
จริงๆ ปัญหาในส่วนนั้นแซนมองว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือเรื่องอะไรถูกมั้ยคะ ก็รอให้ปัญหาเกิดก่อนแล้วเราถึงสามารถที่จะแก้ได้ว่าปัญหาในส่วนตรงนั้นคืออะไร
มันจะเป็นปมให้น้องมั้ยถ้าเขาโตขึ้นแล้วมาย้อนเห็นข่าวพ่อกับแม่ โดนเพื่อนล้อว่าพ่อแม่มีปัญหากัน
แซนว่าหลายๆ ครอบครัวก็มีปัญหาอยู่แล้ว แซนมองว่าในส่วนตรงนี้ไม่ได้เป็นผลกระทบในส่วนตัวน้องเลย อยู่ที่สังคมและการเลี้ยงดู การปลูกฝังของเรามากกว่า