ผู้เข้าประกวด “นางสาวสมิหลา” ประท้วงทวงความยุติธรรมกลางเวที เชื่อ มีการล็อคมงฯ

เรียกได้ว่าช่วงนี้เทศกาลนางงามกลับมาแล้ว หลังจากที่ห่างหายจากช่วงโควิดไปนานทำให้ตัวนางงามและพี่เลี้ยงเองต่างก็ได้มีเวลาที่จะเตรียมตัวเป็นอย่างดีเพื่อกลับมาประกวดอีกครั้งกับความพร้อมและความมั่นใจ หลังจากที่มีการปลดล็อคแล้วก็จะเห็นว่าหลายๆเวทีก็เริ่มจัดการประกวดขึ้นแล้ว จึงทำให้เหล่านางงามได้กลับมาทำตามความฝันของตัวเองอีกครั้ง

อีกหนึ่งเวทีชื่อดังและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับภาคใต้ก็คงหนีไม่พ้นกับเวทีการประกวดนางงามอย่าง “นางสาวสมิหลา” ที่จัดขึ้นไปเมื่อช่วงดึกของวานนี้ (31 ส.ค. 2563) ที่แหลมสมิหลา จ.สงขลา ในรอบตัดสิน เพื่อชิงมงกุฎพร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท ซึ่งทำเอานางงามหลายๆคนรวมไปถึงพี่เลี้ยงก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มงกุฎมาครอบครอง และเมื่อการประกวดเดินทางมาถึงรอบ 10 คนสุดท้าย นางงามทุกคนต้องมีการตอบคำถามจากคณะกรรการเพื่อคัดเลือกให้ได้สาวงามผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย แต่ก็เกิดเรื่องขึ้นก่อน ซึ่งหลายๆคนมองว่า 5 คนที่ตกรอบไปทั้งสวยและตอบคำถามได้ดีกว่า เลยเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในคืนวันนั้น

จากนั้นตามที่เห็นในคลิป หนึ่งในนางงามที่ตกรอบชื่อว่า "น้องอร" หมายเลข 32 ได้นำทัพพาเพื่อนนางงามอีก 4 คน เพื่อไปขอดูเกณฑ์การให้คะแนน และขอให้เปิดผลคะแนนเพื่อความโปร่งใส หลังจากนั้นเธอได้ขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งเพื่อเรียกร้องถึงความยุติธรรม พร้อมพูดออกไมค์ทำนองว่า “ตนกับเพื่อน ๆ ที่ตกรอบเคยประกวดมาหลายเวทีแล้ว พวกเรารู้แพ้รู้ชนะ เรารู้ตัวเวลาเราตอบคำถามไม่ดี เรารู้ตัวเวลาเราไม่สมควรได้เข้ารอบ ถ้าจะตกรอบอย่างสมศักดิ์ศรีเรายอมรับได้ แต่ในค่ำคืนนี้เวทีแห่งนี้ไม่มีความยุติธรรม” ก่อนที่จะโดนตัดสัญญาณไมค์ไป

ต่อมาได้มีการเปิดเผยผลการให้คะแนน ซึ่ง “น้องอร” หมายเลข 32 ได้คะแนนตอบคำถามมากที่สุดคือ 9 คะแนน แต่กลับตกรอบ และมีนางงามบางคนได้ 0 คะแนน และ 1 คะแนน อย่างไม่น่าเชื่อ โดยการตัดสินในครั้งนี้กรรมการได้บอกว่าให้กรรมการโหวตเลือก 5 คนสุดท้าย ใครที่กรรมการเลือกมากที่สุดจะได้เข้ารอบ แล้วอย่างนี้จะมีการตอบคำถามไปทำไม ทั้งนี้ยังมีข่าวลือออกมาอีกว่า 4 คนที่ได้เข้ารอบนั้น เป็นเด็กเส้นที่ถูกเลือกไว้แล้วว่าใครจะได้รับรางวัล ก่อนหน้านี้มีพี่เลี้ยงนางงามพานางงามถอนตัวออกไปถึง 9 คน เพราะทราบว่าจะมีการล็อคมงฯเกิดขึ้นในเวทีนี้

ผลสุดท้าย การประกวด “นางสาวสมิหลา 2020” ต้องหยุดไว้เพียงแค่นั้น ส่วนเรื่องของเงินรางวัลถูกนำมาหารแบ่งให้นางงามที่เข้ารอบทั้ง 10 คนอย่างเท่ากัน และในปีนี้ก็ไม่มีใครได้มงกุฎไปครอบครอง ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา