“ซาร่า คาชิงกินี” แถลงปมดราม่าแย่งลูก พร้อมแจง 4 ข้อเรียกร้องใหม่

“ซาร่า คาชิงกินี” และทีมทนายคนใหม่ ตั๊งโต๊ะแถลงปมดราม่าแย่งลูก แจง 4 ข้อเรียกร้องใหม่ พร้อมเปิดเผยเรื่องลูกคนที่ 2 กับนายแบบดัง

จากกรณีศึกแย่งลูกระหว่าง "ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" กับผู้เป็นแม่อย่าง "ซาร่า คาชิงกินี" จนนำไปสู่การยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อยื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตรร่วมกันตลอดจนยังมีดราม่าถึงฝ่ายหญิงปมคำร้องคัดค้าน 6 ข้อที่หลายคนมองว่าดูเกินไป

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ (6 ตุลาคม 2563) "ซาร่า คาซิงกินี" พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว “นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” และ “นางสาวศิรินทรา เลืองวัฒนะวณิช” ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงปมดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยทาง "ซาร่า" แจงเหตุออกมาวันนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมปกป้องลูกและครอบครัว ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะทำร้ายใคร ยันตนไม่เคยกีดกันคุณพ่ออย่าง "ไมค์ พิรัชต์" กับลูกเพราะต้องการให้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
ภาพจากอีจัน
พร้อมแจงเหตุผลเรื่องราววันที่ทางฝ่ายชายระบุว่าไม่ได้เจอลูกในวันเกิดและโดนสับขอหลอกเรื่องสนามบิน ยอมรับว่าเป็นเพราะเราทั้งคู่ทะเลาะกัน และมีข้อความที่สื่อสารผิดพลาด และความที่เข้าใจผิด ส่วนที่ทางไมค์ มองว่าลูกชายเปลี่ยนไปจากเดิม เกิดจากเหตุการณ์ที่โรงเรียนที่ตนเองได้มีปากเสียงกับฝ่ายชายจนร้องไห้ นำไปสู่เหตุการณ์ที่ลูกชายเห็น และสอบถามตนว่าทำไมพ่อทำร้ายแม่เหรอ ซึ่งเราเองก็บอกลูกว่าแม้ว่าพ่อกับแม่จะทะเลาะกันแต่ทุกคนก็ยังรักลูกนะ ยืนยันไม่เคยใส่ไฟเรื่องไมค์ให้ลูกฟัง
ภาพจากอีจัน
"ซาร่า" ยอมรับว่าเคยคุยกับทาง "ไมค์" เพื่อจะหาทางออกที่ดีให้กับลูก ทั้งเรื่องโรงเรียนและเรื่องค่าใช้จ่าย คนละครึ่งทางแต่ความเห็นไม่ลงตัว เพราะสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุดกับลูกกับสิ่งที่เขาคิดไม่ตรงกัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนประเด็นที่อีกฝ่ายระบุว่าช่วงที่ตนไปภูเก็ตไม่มีการตอบไลน์หรืออ่านไลน์ หรือติดต่อไม่ได้จนนำไปสู่การร้องศาล "ซาร่า" เผยว่าช่วงที่ตนกลับไปภูเก็ตนั้น เขาเองทักมาขอเจอลูกแต่เราเองบอกว่าไม่สะดวก เพราะด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทั้งที่เขาทักมาตอนนั้นเขาเองได้ยื่นคำร้องต่อศาลไปเเล้วช่วง (25 พฤษภาคม 2563) ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนส่วนหนึ่งที่ไม่ได้บอกรายละเอียดชัดเจน เผยไม่อยากให้ไมค์พรากลูกไปขอให้ลูกได้อยู่ในความดูแลของตน บอกไม่เคยคิดรีดไถแค่อยากได้คุณภาพชีวิตของลูก
ภาพจากอีจัน
ทนายแนะต้องมีพ่อหรือแม่ที่มีสิทธิ์ครอบครองบุตร100 เปอร์เซนต์เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะหากปกครองร่วมกันจะทำให้เกิดอุปสรรคของเด็ก เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ในส่วนของอีกฝ่ายในฐานะพ่อก็มีสิทธิ์ดูแลเด็กได้เหมือนกัน เพียงแค่ตกลงกันว่าเป็นไปในทิศทางไหน ยินยอมหาก "ไมค์"ยินยอมเซ็นรับรองบุตรแต่ไม่ให้ปกครองร่วม ทั้งนี้เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องในสำนวนการคัดค้านหลัง "ไมค์ พิรัชต์" ได้ยื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตรร่วมกัน ที่หลายคนมองว่าดูอาจจะไม่เหมาะสม โดยทาง "ซาร่า" และทนายเองก็ได้เล่าถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวว่า เกิดจากความเข้าใจผิดและข้อผิดพลาดของ "ซาร่า" ที่สื่อสารไปยังทนายความคนก่อนหน้านี้ พร้อมได้มีสำนวนการคัดค้านฉบับใหม่ส่งไปยังศาลเรียบร้อยแล้ว พร้อมมีการเปลี่ยนทนายคนใหม่ อย่างไรก็ตามในส่วนข้อคัดค้านใหม่นั้นจะประกอบไปด้วยกัน 4 ข้อดังนี้ 1. ที่ผ่านมาทางฝ่ายหญิง "ซาร่า" ในฐานะคนแม่ได้มีการดูแลบุตรชาย "แม็กซ์เวลล์" มาโดยตลอด รวมทั้งทางเราเองก็ได้ให้โอกาสฝ่ายชาย "ไมค์ พิรัชต์"ในฐานะพ่อได้เดินทางมาเจอลูกชายเป็นระยะ ซึ่งในส่วนของเวลาการอบรมสั่งสอนในฐานะแม่ "ซาร่า" ควรจะได้รับอำนาจนี้ 2. ทางฝั่งฝ่ายชาย "ไมค์ พิรัชต์" ในฐานะพ่อ มีอาชีพและหน้าที่การงานในประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งเขาเองจะอยู่ที่ประเทศจีนมากกว่าประเทศไทย กว่าจะกลับมาประเทศไทย ก็ประมาณ 3-4 เดือนครั้ง ซึ่งกลับมาแต่ละครั้งก็จะอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง ทั้งนี้หากจะให้อำนาจปกครองบุตรร่วมกัน หวั่นว่าอนาคตหากมีอะไรที่จำเป็นต้องใช้อำนาจการปกครองร่วมกันแบบเร่งด่วน อาทิ บุตรชายต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วเกิดว่าทางฝ่ายชาย "ไมค์ พิรัชต์" อยู่ทางประเทศจีนก็จะสร้างความลำบากได้ 3.ทั้งนี้หากฝ่ายชาย "ไมค์ พิรัชต์" เดินทางกลับมายังประเทศไทย ด้วยความที่เขาเองมีอาชีพเป็นนักแสดง และวิชาชีพของเขาเองค่อนข้างมีงานที่รัดตัว ทำให้ฝ่ายชายเองอาจจะไม่มีเวลาเลี้ยงบุตรชาย "แม็กซ์เวลล์" ได้ ซึ่งหากเขาขออำนาจฝั่งแม่ไปขอเลี้ยงชั่วคราว ทางเราเองมองว่าเด็กจะต้องอยู่กับพี่เลี้ยงมากกว่าที่จะได้อยู่กับพ่อ จึงเป็นเหตุผลที่น่าจะดีกว่าหากเด็กนั้นได้อยู่กับแม่ที่มีเวลาเลี้ยงดู 4.ในฐานะที่ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกันและไม่ได้อยู่กินฉันท์สามีภรรยา ตลอดจนไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งหากว่าทั้งคู่มีอำนาจปกครองบุตรร่วมกัน เท่ากับว่าทั้งคู่สามารถตัดสินใจว่าจะให้ลูกอยู่ที่ไหน โดยปัญหาที่ว่านั้นหากวันหนึ่งฝ่ายชายบอกว่าต้องการให้บุตรอยู่บ้านฝ่ายชาย แต่ฝ่ายหญิงบอกให้อยู่อีกที่หนึ่ง ก็จะเป็นปัญหาว่าสุดท้ายแล้วอำนาจในการชี้ชัดว่าลูกต้องอยู่ที่ไหน ส่งผลให้เกิดการทะเลาะและข้อวิพาทในอนาคตได้
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนเรื่องลูกคนที่ 2 "น้องเอมมิลี่" ที่เกิดจากนายเเบบต่างชาติ "วาดิม" นั้น ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้เปิดใจให้สังคมได้รับรู้ ลั่นตอนนี้สถานะของตนกับสามีคนใหม่นั้นยังคบหาดูใจกันตามปกติ ไม่ได้มีการเลิกราตามที่เป็นข่าว ซึ่งทางฝ่ายชายเองก็เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศยังไม่ได้มีโอกาสกลับมาประเทศไทยตอนนี้ เพราะสถานการณ์โรคระบาด ส่วนเรื่องแต่งงานใหม่แพลนไว้ปีหน้า รอฝ่ายชายกลับมาจากต่างประเทศและรอให้ฝ่ายชายย้ายถิ่นฐานมาสร้างครอบครัวอยู่ที่ไทย ทั้งนี้ "ซาร่า" ยอมรับว่าตนกับ “ไมค์” พยายามกลับมาเป็นครอบครัวกันแล้วก่อนหน้านี้ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนทุกครั้ง ยอมเลิกกับหนุ่มคนอื่นเพื่อลูกและครอบครัวที่สมบูรณ์เพื่อลูก