เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 พ.ย. ที่สน.ห้วยขวาง น.ส.หยาดพิรุณ ปู่หลุน อายุ 29 ปี นักร้องดังเพลง cover "ว่างแล้วช่วยโทรกลับ" พร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ และ เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำเอกสารหลักฐาน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปภิณวิช เสนาแปลง รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง เพื่อแจ้งความอดีตผู้จัดการส่วนตัวของน.ส.หยาดพิรุณ ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง หลังมีพฤติกรรมแอบรับโอนเงินจากลูกค้า มูลค่าเสียหายรวมประมาณ 5 ล้าน
โดยหยาดพิรุณ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ต้องมาแจ้งความในวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ตนทราบว่าอดีตผู้จัดการโกงเงินไป เพราะว่าตนไปถ่ายงาน แล้วมีลูกค้าแจ้งมาว่า โอนเงินไปให้แล้ว ตนก็ตกใจ เนื่องจากยังไม่มีการตกลงการโอนเงินกันไว้ จึงเริ่มตรวจสอบเมื่อเดือนที่แล้ว จนรู้ความจริงว่าตลอดกว่า 100 งาน ได้โดนโกงไปเกือบทุกงาน ตนเลยพูดคุยกับอดีตผู้จัดการส่วนตัวว่า เราแยกย้ายกันไป จบกันด้วยดี ตนไม่อยากเอาความ เรารู้จักกันมากว่า 10 ปี และตนมีความผูกพันธ์กับเขามาก เขาจะเอาเงินไปเท่าไหร่ก็เอาไปได้ จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาก็ยังไม่หยุด ยังมีการแอบอ้างรับงานมูลค่า 8 แสนบาท ซึ่งงานขนาดนี้ ลูกค้าต้องได้งานที่มีคุณภาพ แต่ตัวงานมันห่วยมาก ตนจึงชี้แจงว่าโปรดักส์ชั่นนั้นตนไม่ได้เป็นคนทำ ตนมาเพียงในฐานะนักแสดง
นอกจากนี้ อดีตผู้จัดการส่วนตัวคนดังกล่าว ยังรับงานซ้อนให้ตน มีอยู่งานหนึ่งเขารับงานผลิตภัณฑ์นมชนิดหนึ่งให้ โดยมีข้อตกลงว่า ตนจะไม่สามารถรับงานเป็นพรีเซนเตอร์นมชนิดอื่นได้ แต่เขาก็ไปรับงานนมที่อื่น จนทำให้พีอาร์โดนไล่ออก ซึ่งตลอดเวลาที่ตนอยู่ในวงการมา 3 เดือน มูลค่าความเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
อยากฝากถึงเขาว่า ตนไม่ต้องการเงินคืนนะ ชื่อเสียงนั้น ตนสามารถกู้คืนมาใหม่ได้ ด้วยศักยภาพของตัวเอง อยากจะขอเขาว่า ให้หยุดการกระทำแบบนี้ มันผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ตนเตือนเขาแล้ว เตือนจนวินาทีสุดท้าย คือ เมื่อวาน(10 พ.ย.63) 10 ปีที่เรารู้จักกันมา ตนมีความสุขมาก รักเขามาก ๆ จนถึงวินาทีนี้ก็ยังรักเขาอยู่ แต่สิ่งที่เขาทำ ตนไม่สามารถควบคุมเขาได้แล้ว ไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้แล้ว เพราะเขาได้ทำเกินกว่าเหตุแล้ว กว่าที่ตนจะประนีประนอมให้ได้แล้ว ที่เหลือต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายไป
ขณะที่นายษิทรา กล่าวว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากอดีตผู้จัดการดังกล่าวได้มาทำงานกับหยาดพิรุณ และมีการไปตกลงกับทางผู้ที่มาจ้างงานแล้วเบียดบังเอาเงินไป วันนี้จึงรวบรวมเอกสารการกระทำความผิดกว่า 20 ครั้ง จาก 100 กว่าครั้ง มามอบเป็นหลักฐานให้กับตำรวจ ทั้งนี้จากที่ฟังข้อเท็จจริงมา พบว่ามีการกระทำหลายความผิด บางเรื่องเป็นฉ้อโกง, ยักยอกทรัพย์, ลักทรัพย์นายจ้าง ซึ่งแต่ละข้อหามีโทษลดหลั่นกันไป เช่น ยักยอกทรัพย์ 3 ปี, ลักทรัพย์นายจ้าง 5 ปี
นายษิทรา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางอดีตผู้จัดการส่วนตัวดังกล่าวยังไม่ได้มีการติดต่อมา ส่วนจะมาเจรจาประนีประนอมกันได้หรือไม่นั้น ท้ายที่สุดก็อยู่ที่ผู้เสียหาย ว่ายอมตกลงหรือไม่ ส่วนกรณีลูกค้าฟ้องร้องหยาดพิรุณนั้น อันนี้ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป ซึ่งเท่าที่ทราบ บางเรื่อง น.ส.หยาดพิรุณไม่ทราบเลย และมีการปลอมลายเซ็น ซึ่งการปลอมลายเซ็นจริงๆ น.ส.หยาดพิรุณไม่ต้องไปรับผิดชอบ เพราะเป็นลายเซ็นที่ปลอมขึ้นมา แต่ด้วยที่มีความรับผิดชอบ น.ส.หยาดพิรุณก็คุยกับลูกค้า อะไรที่จะชดเชยได้ก็ชดเชยให้เขา
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความพร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และสอบปากคำเบื้องต้น ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะจบลงยังไง แฟน ๆ คงต้องติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ