สรุปดรามม่า หลัง TPN แถลงโต้กลับ ฟ้าใส เหตุ ไม่เซ็นสัญญา

สรุปดรามม่า หลัง TPN แถลงโต้กลับ ฟ้าใส เหตุ ไม่เซ็นสัญญา พร้อมให้มงกุฎ หากคิดว่ามีความชอบธรรมที่จะเป็นเจ้าของ

สืบเนื่องจากวันที่ ( 9 พฤศจิกายน 2563 ) ที่ผ่านมา หลังจากที่ ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ควง คุณเอส อนุสิทธิ์ ถึงสุข ผู้จัดการส่วนตัว พร้อมทนายความ แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง ปมการไม่ต่อสัญญากับทางบริษัท TPN 2018 หลังจากเกิดการเข้าใจผิดว่า ฟ้าใส ได้มีการบ่ายเบี่ยงในการเซ็นสัญญากับทางกองประกวดฯ มาโดยตลอด จึงได้หอบหลักฐานเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมเรียกร้องให้ทาง TPN ออกมาเปิดเผยหลังฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ ( 9 พฤศจิกายน 2563 ) เวลา 14.00 น. คุณปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 พร้อม คุณณะ ณรงค์ เลิศกิตศิริ และทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมหอบหลักฐานชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยทาง TPN เผยว่า
ภาพจากอีจัน
การออกมาแถลงข่าวครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าหลังจากนี้จะมีการแถลงของอีกฝั่ง อีกกี่ครั้งก็ตาม ทาง TPN ก็จะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้อีกแล้วโดยวันนี้ได้มีการเชิญ พระแก้วมรกต มาเป็นประธานในการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากในบางประเด็นทาง TPN อาจจะไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมเผยสาเหตุที่ไม่ได้เชิญอีกฝั่งมาร่วมแถลงเพราะไม่อยากให้เกิดการ debate ไปมา และจะไม่ขอเชิญคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นมาด้วย ( หมายถึง ผจก.คนปัจจุบัน )
ภาพจากอีจัน
ประเด็นเรื่องการแก้ไขเนื้อหาในสัญญา ทาง TNP เผยไม่เคยคิดเปลี่ยนมาก่อนเลย แต่วันหนึ่งมีการนั่งคุยกันในทีมผู้บริหารและ ฟ้าใส ว่า ฟ้าใส เป็นนางงามที่มีศักยภาพ หากจบประกวดแล้ว ( จะได้มงฯ MU หรือเปล่าก็ไม่รู้) กลับมาแล้วอยากทำอะไร ฟ้าใส ตอบว่าอยากทำ Academy สอนนางงาม ซึ่งทาง TPN เห็นด้วย จึงจะตั้ง Academy ขึ้นมาให้ แล้วให้ ฟ้าใส เป็น MD บริหาร Academy จึงเป็นที่มาของการคิดเปลี่ยนแปลงเนื้อหาสัญญาเป็นจ้างงานกันระยะยาว “ ตลอดชีวิต ” โดยจะต่อทุกๆ 3 ปี จากเดิมที่ระบุว่าผู้ชนะ MUT จะต้องเซ็นสัญญากับ TPN เป็นระยะเวลา 2 ปี (ผู้ชนะ 1 ปี + ศิลปิน 1 ปี) ในส่วนของประเด็น เรื่องการแบ่งส่วนแบ่ง 50:50 กองคิดว่าหากมีงานที่ต่างประเทศ จะขอแบ่ง 50% โดยจะช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งการเดินทาง การติดต่อ Agency ทาง TPN ได้โต้กลับ ประเด็นที่ ฟ้าใส ได้ให้สัมภาษณ์ว่าทางกองฯไม่ได้มีการเชิญมาเซ็นสัญญา พร้อมรองทั้ง 4 ท่าน ดังนี้ วันที่ ( 17 ก.ค. 62 ) ฟ้าใส ไปออกงานคนเดียว แล้วมาพบรองทั้ง 4 ช่วงบ่าย เพื่อถ่าย Sticker Line ของกอง ผู้จัดการกองจึงเสนอ คุณปุ้ย ว่าให้ทุกคนลงนามสัญญาไปเลยเพราะรองทั้ง 4 ซึ่งมาถ่าย Sticker พร้อมกันจึงได้เซ็นสัญญาทุกคน แต่ฟ้าใสไปถ่ายงานอีกงานมาทีหลัง จึงไม่ได้เซ็น ซึ่งกองบอกว่าไม่มีเหตุผลที่กองและเพื่อนนางงามทั้ง 4 จะต้องปกปิดเรื่องเซ็นสัญญา
ภาพจากอีจัน
วันก่อนเดินทางไป MU ( 21 พ.ย. 62 ) มีการ Fitting จนถึง 4 ทุ่ม แล้ว คุณปุ้ย ไปส่ง ฟ้าใส พร้อมมอบซองสัญญาให้อีกครั้ง แต่ ฟ้าใส บอกว่า คุณปุ้ย จองห้องที่แอตแลนตาหลายวันค่อยอ่านและเซ็นที่นั่นก็ได้ แต่พอไปถึงแอตแลนตา คุณปุ้ย บอกว่า ฟ้าใส ลืมเอาสัญญามา ทางกองจึงให้ทีม Social Media ที่จะตามไปแอตแลนตาวันที่ 27 พ.ย. เอาสัญญาไปให้อีกครั้ง และพอสัญญาไปถึง คุณปุ้ย ก็ได้มอบให้ แม่ของฟ้าใส กับมือ ซึ่งทั้ง 2 ฉบับ เนื้อหาเหมือนกัน โดยคุณแม่ได้แก้ไขเนื้อหาส่งคืน TPN และทาง TPN ก็แก้ไขส่งให้คุณแม่อีกครั้ง แต่สุดท้าย ฟ้าใสก็ไม่ได้เซ็นโดยคุณแม่แจ้งว่าไม่ต้องห่วง ฟ้าใส จะเซ็นแน่ที่ไทย พอกลับมาที่ไทย วันที่ 15 ม.ค. กองกับ ฟ้าใส ได้นัดเจอกัน กองก็เอาสัญญาที่แก้ตาม คุณแม่ของฟ้าใส ทุกอย่างให้ ฟ้าใส และญาติผู้ใหญ่ 2 ท่านที่มาด้วย กลับไปอ่าน โดย ฟ้าใส ขอไปอ่าน 3 วัน
ภาพจากอีจัน
วันที่ 21 ก.พ. ทั้งกองและฟ้าใส ได้เจอกัน โดยฟ้าใสได้นำสัญญาฉบับที่ฟ้าใสทำมาเอง โดยมีสาระสำคัญที่พี่ปุ้ยไม่โอเค ดังนี้ 1. เงินรางวัล 1,500,000 บาท จ่ายงวดที่ 2 งวด งวดที่ 1 คือจ่ายในวันที่ลงนามในสัญญา (21 ก.พ.) และงวดที่ 2 ภายใน 14 วัน 2. ในกรณีที่ผู้ให้สัญญาปฏิบัติงานสาธารณะกุศลครบ 12 ครั้งแล้ว ผู้ให้สัญญาสามารถปฏิเสธหรือเรียกรับเงินค่าตอบแทนในกทม. ครั้งละ 15,000 บาท ต่างจังหวัด 30,000 บาท โดยครั้งละไม่เกิน 3 ชั่วโมง ซึ่งทำให้พี่ปุ้ยไม่โอเค จึงถามไปว่าฟ้าใสหมดใจหรือเปล่า 3. ผู้ให้สัญญาสามารถรับงานอื่นๆ นอกเหนือจากงานบันเทิงได้เอง 4. การเข้าร่วม Workshop ต่างๆ ในฐานะศิลปิน อยู่ที่ความสมัครใจของผู้ให้สัญญา 5. ต้องไม่ดูหมิ่น หรือทำให้ผู้ให้สัญญาเสื่อมเสียชื่อเสียง จนมีผลกระทบต่ออาชีพของผู้ให้สัญญา 6. หากเก็บเงินลูกค้าได้ช้า TPN ต้องจ่ายให้ฟ้าใสก่อน แต่หากได้เร็วต้องจ่ายให้เลย 7. หากมีการยกเลิกสัญญาก่อน ทางกองต้องให้รางวัลที่เคยตกลงไว้ และจ่ายเงินทั้งหมดที่เป็นงานในอนาคตให้ผู้ให้สัญญาด้วย ซึ่งสุดท้ายทาง TPN ก็ไม่ยอมลงนามเพราะมองว่าเจตนาของฟ้าใสตอนนี้คือไม่มีความสุขในการร่วมงานกับกองประกวดแล้ว จึงได้คุยเรื่องบันทึกข้อตกลงสุดท้ายระหว่างกัน ว่าฟ้าใสไม่ประสงค์จะขอลงนามสัญญากับ TPN อีกต่อไป แต่ฟ้าใสขอทำหน้าที่อำลาตำแหน่ง บริษัทและผู้ให้สัญญาตกลงว่าจะให้รางวัล 500,000 บาท และสายสะพาย แต่ยกเลิกรางวัลอื่นๆ ที่ได้ตกลงไว้ทั้งหมด ทั้งนี้ อนุญาตให้ฟ้าใสไปทำมงกุฎใหม่ได้
ภาพจากอีจัน
ท้ายที่สุดพี่ณะมีความคิดว่าหากฟ้าใสคิดว่าตัวเองมีความเหมาะสมและมีความชอบธรรมในการเป็นเจ้าของมงกุฎ ก็ให้ฟ้าใสติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับมงกุฎได้เลย TPN มอบมงกุฎให้ฟ้าใส แต่ไม่ใช่การคืน เพราะฟ้าใสไม่เคยได้มงกุฎไปตั้งแต่แรก
ภาพจากอีจัน
และนี้ก็เป็นข้อมูลทั้งหมดที่ได้สรุปมาจากการแถลงข่าวของทางกองประกวด ส่วนทางฝั่งจะออกมาโต้แย้งอย่างไร และเรื่องนี้จะจบลงด้วยดีไหม ต้องรอติดตามกันนะคะ