นับว่าตั้งแต่ที่นักร้องร็อกเกอร์ชื่อดัง อย่าง เสก โลโซ ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำ และได้มีการแต่งเพลงที่มาจากหัวใจให้พี่ๆน้องๆ ชีวิตหลังกำแพง ได้ฟังกันนั้น ล่าสุด เสก โลโซ ได้ออกมาเปิดใจ ผ่านคลิปในเพจเฟซบุ๊กของ ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ กับสิ่งที่ได้เข้ามาเรียนรู้อยู่ในนี้ โดย เสกโลโซ ได้เล่าว่า
“ ก่อนที่ผมจะได้เข้ามา เตรียมตัวมานานเลยทีเดียว 7 ปีกว่า เพราะว่าศาลชั้นต้นตัดสินมา ก็เหมือนคนติดคุกมาเลย หัวใจคิดแบบนั้น แล้วก็มีน้องๆที่เคยผ่านเรือนจำมาเล่าให้ฟังว่า ข้างในก็ค่อนข้างลำบาก แต่พอได้เข้ามาอยู่ก็รู้สึกว่า ผมได้มาเจอความรักความเข้าใจและความช่วยเหลือแบ่งปันกัน ก็รู้สึกว่าปรับตัวได้เร็ว และก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่น้องๆเพื่อนๆเล่ากันมาครับ ”
การปรับตัว เป็นไปในทิศทางใด เมื่อก้าวเข้าสู่เรือนจำ
“ ผมเองก็ได้รับหน้าที่ให้สอนน้องๆเล่นดนตรี และก็แต่งเพลงให้กำลังใจให้น้องๆที่เป็นนักโทษ และก็อัดรายการทีวีบ้าง ก็รู้สึกว่าตัวเองก็มีงาน มีหน้าที่รับผิดชอบก็รู้สึกว่าโอเคครับ ”
เมื่อต้องมารับบทบาท ผู้ก้าวพลาดแบบนี้ รู้สึกอย่างไร
“ ตอนแรกที่ผมเข้ามาก็เรียกว่านอนไม่ค่อยหลับ วันแรกนอนไม่ค่อยหลับเลย พอผ่านไปได้ 3-4 วัน ผมก็เริ่มแต่งเพลงเพลงแรก ก็คือ ฉันคือกำลังใจ ให้ได้ชมได้ฟังกันครับ ”
ด้วยความที่เป็นศิลปินชื่อดัง เพื่อนๆพี่ๆน้องๆข้างในนี้ ให้การต้อนรับอย่างไรบ้าง
“ ผมเองก็มีความคิดว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนะครับ ผมเองก็ตั้งใจที่จะทำประโยชน์ให้กับองค์กรนั้นๆ อยู่ข้างนอกก็ร้องเพลงให้แฟนคลับได้ฟังกัน พอเข้ามาในนี้ ผมก็เริ่มเขียนเพลงที่เกี่ยวกับกำลังใจ และก็เขียนเพลงเกี่ยวกับผู้ต้องขังอยู่ในนี้ ก็อย่างที่เล่าไป ก็คือเป็นอาจารย์สอนน้องๆฝั่งการศึกษา ก็รู้สึกว่า เรามีหน้าที่ที่ค่อนข้างดีทีเดียว ที่อยู่ในเรือนจำแห่งนี้ ”
ทุกคนที่ก้าวพลาด จะสามารถกลับคืนสู่สังคมได้จริงหรือไม่
“ การผิดพลาดมีกันทุกคนครับ แต่ผมเชื่อว่านักโทษหรือว่าผู้ที่ผ่านเรือนจำมา ก็สามารถที่จะออกไปใช้ชีวิตในสังคมด้านนอกได้ ผมก็เรียกว่าให้กำลังคนหลายคนทีเดียวที่อยู่ที่นี่ บางคนติดยาเสพติด บางคนขายยาเสพติด ออกไปก็ขอให้ตั้งใจที่จะเลิกละยาเสพติดให้ได้ ก็เรียกว่า สังคมเปิดโอกาสให้ครับ ”
กำลังใจที่ดีที่สุด สำหรับคนหลังกำแพงคืออะไร
“ ผมขอเป็นกำลังใจให้น้องๆเพื่อนๆพี่ๆนักโทษทุกคนที่อยู่นี่ และก็ที่ชมอยู่นะครับ ขอให้ทุกคนมีความตั้งใจที่จะเป็นคนดี และก็ปฎิบัติตัวอย่างถูกระเบียบเรียบร้อยในเรือนจำ เชื่อฟังผู้คุมที่ดูแลเราอยู่ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าน่าจะเพียงพอที่จะอยู่ในที่นี่ได้อย่างดีงาม ”
ฝากอะไรถึงสังคมเพื่อขอโอกาสให้กับพี่น้องผู้ต้องขังและผู้พ้นโทษ
“ ผมก็ต้องขอโอกาสจากสังคมภายนอกนะครับว่า คนที่เป็นนักโทษหรือผ่านเรือนจำมา ไม่ได้เป็นคนที่ไม่ดีไปเสียทุกคน ก็อยากให้สังคมและก็บริษัท ห้างร้านต่างๆที่จะรับเข้าไปทำงาน เปิดใจให้กว้างและก็เปิดโอกาสให้พวกเขาด้วยนะครับ ”
ฝากอะไรถึงผู้คุมและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
“ ขอให้พี่ๆผู้คุมทุกท่านนะครับ ที่ดูแลพวกเรานักโทษทุกคนนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้และก็การปฎิบัติหน้าที่ด้วยความรักของทุกท่าน เป็นสิ่งที่พวกเราได้รับอย่างมีความเมตตากับพวกเราอย่างมากนะครับ ขอให้ทุกท่านสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีความสุข ขอบคุณมากครับ ”
