พิ้งกี้ ขอเคลียร์คุณแม่ไม่ได้เล่นการพนัน พร้อมเปิดใจหลังได้รับอิสระภาพ

พิ้งกี้ สาวิกา ขอเคลียร์คุณแม่ไม่ได้เล่นการพนัน พร้อมเปิดใจหลังได้รับอิสระภาพ ลั่นขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

เป็นการออกงาน ออกสื่อครั้งแรกของ พิ้งกี้ สาวิกา หลังจากที่ได้รับการประกันตัวชั่วคราว และได้รับการอณุญาตให้ถอดกำไล EM โดย พิ้งกี้ มาร่วมงานบวงสรวงภาพยตร์เรื่อง กุมาร โดย พิ้งกี้มีสีหน้าที่สดใส และ โบกมือทักทายสื่อตลอด และเมื่อถึงเวลาให้สัมภาษณ์สื่อ เธอก็ได้เปิดใจว่า

วันนี้เป็นยังไงบ้าง ?

พิ้งกี้ : ไม่ตื่นเต้นมากค่ะ เรียกได้ว่าปรับตัวมาสักระยะนึงแล้วค่ะ ก็ชินอยู่

บรรยากาศยังเหมือนเดิมไหม ?

พิ้งกี้ : เหมือนเดิมค่ะ ทุกคนพี่ๆสื่อ ยังเหมือนเดิม น่ารักค่ะ

ไฟในการทำงานกลับมาแล้วใช่ไหม ?

คุณหน่อย : จริงๆ น้องเป็นคนมีไฟมาก ตอนก้าวเท้าเข้าบ้านอยากทำงานแล้ว เป็นคนที่อยากทำงานตลอดเวลา เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นค่ะ

สภาพจิตใจตอนนี้เต็มร้อยไหม ?

พิ้งกี้ : ตอนนี้เหรอคะ เขาเรียกว่าไปปฏิบัติธรรมมา มุมมองของพี่หน่อยคิดว่าเราไปปฏิบัติธรรม กี้ไม่ได้คิดว่าปฏิบัติธรรมเพราะตัวกี้เองก็คือตัวกี้เองแหละ เรียกว่าเป็นวัฏสงสารไปเรียนรู้ชีวิต แล้วก็ได้ไปพบเจออะไรบางอย่างในประสบการณ์สุดโต่งค่ะ คิดว่าแบบนั้น

สิ่งที่เราไปเจอ เราได้เรียนรู้อะไรจากตรงนั้นบ้าง ?

พิ้งกี้ : เดี๋ยวเล่ายาวเลย มีโอกาสจะเล่าให้ฟังค่ะ

หลังจากนี้วางแผนในการใช้ชีวิตหรือการทำงานยังไงบ้าง ?

พิ้งกี้ : จริงๆ วันนี้ถือว่าเป็นการรวม เราไม่ได้ออกสื่อเลยนานมากแล้วนะคะ ตั้งแต่เราถ่ายละครยังไม่ได้มีการมานัดเจอสื่อแล้วได้มาพูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็นานมากแล้ว ถือว่าวันนี้ก็พูดทีเดียวเลยแล้วกัน พูดให้หมด

มีความกังวลใจอะไรไหมกลับมาทำงาน ?

พิ้งกี้ : ไม่ค่ะ ไม่ได้กดดัน เพราะว่าเราก็คือคนทำงานแหละ แล้วก็ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น กี้เชื่อว่าความจริงมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องบอกว่าเราคือคนที่เป็นอย่างนี้ค่ะ ทำงานมาตลอด จะพูดว่าเราไม่ใช่คนที่เบียดเบียนใครเพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตเราใช่ปะ แต่ว่ามันอยู่มุมมองของการตั้งรับว่าเราจะตั้งรับและมองมัน แล้วก็หาเหลี่ยมของมันว่าเราจะมองมันยังไงให้เป็น ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าชีวิตเราก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง

เราตั้งรับกันมันได้ขนาดไหน ?

พิ้งกี้ : ตั้งรับยังไง เหมือนทุกคนแหละเจอปัญหาแล้วเราก็ไม่คิดว่าชะตามันจะตกแต่งสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นให้กับเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจริงๆ แล้ว พี่ปิ๊กก็คือคนที่เป็นทนายให้เรา เพราะว่าจริงๆ แล้วตามกฎหมายแล้วพี่ปิ๊กจะพูดได้มากที่สุดค่ะ

ช่วงที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง ?

คุณหน่อย : เข้าป่า แต่ไม่ได้ไปไกลค่ะ ไปนครนายก จริงๆ เขาฝึกสมาธิอยู่กับตัวเองในแต่ละวันที่เขาอยู่ เราเจอเขาบ้างตั้งแต่เขากลับบ้านมา จริงๆ เขาแทบไม่ได้คุยกับใครเลย คนที่เขาคุยด้วยทุกวันคือทนายค่ะ กับเรา เขายังแทบไม่คุยเลย เราจะคุยกับเขาได้ก็คือผ่านน้องจี้ คุยเรื่องบท มีเจอกันบ้าง ก็ไปหาเขา ถามว่าทำอะไร เขาก็บอกว่านั่งสมาธิ ละหมาดของทางศาสนาเขาด้วย

พิ้งกี้ : อย่างที่ทุกคนทราบ เวลาเราเจอปัญหาหนักๆ เราต้องศรัทธาตัวเองก่อน และรักตัวเองให้มากที่สุด มันเป็นความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราก็สู้ตามกระบวนการกฎหมายตามที่มันเป็น กฎหมายว่ายังไงเราก็สู้ตามนั้น ก็ฝากชีวิตไว้ที่พี่ปิ๊ก เพราะพี่ปิ๊ก ช่วยคอยดูแลทั้งหมด เพราะพี่ปิ๊กเป็นทนายที่ให้ความช่วยเหลือได้ดีมาก

ยังกังวลใจในกระบวนการที่ต้องดำเนินต่อไปยังไง ?

พิ้งกี้ : พาร์ตการถูกกล่าวหา เราก็ถูกกล่าวหา แล้วเราก็สู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเราได้ถูกกล่าวหาเราก็ต้องสู้ แล้วเราก็รอความจริงกับสิ่งที่เป็นความยุติธรรม เราเชื่อว่ามันจะรอเราอยู่ปลายอุโมงค์ เราคิดว่ามันรออยู่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องแพนิกไม่ต้องตกใจ วันหนึ่งเดี๋ยวมันจะพิสูจน์เอง

มั่นใจในเรื่องคดีเต็มร้อย ?

พิ้งกี้ : มั่นใจค่ะ เราเชื่อในความเป็นตัวเองของตัวเอง แล้วศรัทธาในตัวเอง

พิ้งกี้ฝากชีวิตไว้ที่พี่ที่ทนาย ?

ทนายปิ๊ก : มันเป็นเรื่องของคดีอาญา มันเป็นเรื่องของเสรีภาพอยู่แล้ว ฝากชีวิตก็หมายความว่าเป็นเรื่องของเสรีภาพ เป็นเรื่องของกระบวนการทางศาล ศาลได้มีการนัดสืบพยาน ที่เหลือรอขั้นตอนกระบวนการพิสูจน์ในทางศาล คดีจะเริ่มพิจารณาปลายเดือนสิงหาคม ปี66 ศาลชั้นต้น แล้วจะจบเดือนกุมภาพันธ์ ปี 67 หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 เดือน คงจะมีคำพิพากษาออกมา ส่วนจะมีอุทธรณ์ ฎีกาหรือเปล่า ก็คงต้องดูกันอีกที ในระหว่างนี้พิ้งกี้ก็สามารถทำงานได้ปกติ

ถามถึงคุณแม่ พิ้งกี้ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?

ทนายปิ๊ก : ในส่วนของคุณแม่ ทางเราก็รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลเพื่อที่จะเสนอต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยชั่วคราว คุณแม่ก็ไม่ได้เครียดอะไรครับ ก็เหมือนคนทั่วไปถ้าไปอยู่ในสภาวะแบบนั้นมันไม่ใช่สภาวะปกติก็คงมีบ้าง แต่ในเรื่องความเครียดก็คงไม่เท่าไหร่

พิ้งกี้ : กำลังใจคุณแม่ดีมากค่ะ ส่งพลังไปให้แม่ เพราะตัวเราต้องเดินหน้าทำงานต่อ คุณแม่ก็เซนสิทีฟโมเมนต์ของคนแก่ ส่วนเราเป็นนักสู้มากกว่า ก็จะสู้ต่อไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะกับทุกกำลังใจ คนรอบข้างก็จะบอกเรา ต้องบอกว่าพอเรามาตรงนี้ เราเสพอะไรเยอะมากไม่ได้ มันไม่สามารถตามโซเชียลได้เลย เขาไปถึงไหนกันแล้ว ก็อาจจะดีเลย์นิดนึง ถ้าเกิดพูดช้าก็จะบอกว่าเราช้ากว่าเดิม

มันหนักขนาดไหนกับสิ่งที่เราเผชิญ ?

พิ้งกี้ : กี้ว่าคนที่เขาประสบความรู้สึกคล้ายๆ เราที่เขาไม่ได้ออกมาเล่าให้ฟังก็น่าจะเยอะ น่าจะมีหลายร้อยเรื่องที่มีชีวิตแบบนี้แล้วเอามาพูดไม่ได้เล่าไม่ได้ อยากให้มองว่าชีวิตเราก็คือนักสู้คนหนึ่ง อยากให้ดูละครตอนจบว่ามันจะเป็นยังไง

ให้กำลังใจตัวเองยังไงที่ผ่านมา ?

พิ้งกี้ : ก็ช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยไป ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ มุมมองของเราเท่านั้นแหละที่จะช่วยเราให้เราตั้งรับกับเรื่องต่างๆ

มีคนให้กำลังใจก็ย่อมมีคนวิจารณ์ เรารับมือตรงนี้ยังไง ?

พิ้งกี้ : ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นธรรมชาติ ธรรมดา ไปห้ามให้เขาผายลมไม่ได้อะ มันเหมือนเราห้ามไม่ให้คนเรอไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เขาระบายออกมา เราก็เคารพในมุมมองของแต่ละคน มันเป็นธรรมชาติค่ะ

จะกลับมารับงานในวงการเต็มที่แล้วใช่ไหม มีงานติดต่อมาเยอะหรือยัง ?

พิ้งกี้ : จริงๆ คนนี้เขาไม่ใช่ผู้จัดการนะ แต่เขาจะคุยกับน้องที่ดูแลมากกว่าเราอีก เพราะฉะนั้นเขาจะรู้

คุณหน่อย : จริงๆ ก็มีเยอะค่ะ แต่ต้องปรึกษาคุณปิ๊กก่อนว่างานไหนเรารับได้มากน้อยขนาดไหน จริงๆ น้องยังอยู่ในความดูแลอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 15 งานแล้วค่ะ

พิ้งกี้ : หมายถึงงานเดินสายไปตามแต่ละจังหวัดค่ะ ไปไหว้ญาติ ไหว้ผู้ใหญ่ ส่วนงานที่เป็นผลงานเลยตอนนี้มีภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นเรื่องหลักค่ะ แล้วกี้บอกกับพี่หน่อย บอกกับมาดามว่า ตอนนี้ในหัวเรา เราอยากมาช่วยเบื้องหลังเขา และเรารู้สึกว่าเรื่อง กุมาร อาจจะเป็นหนังที่อาจจะได้ไปอยู่เบื้องหลังด้วย และได้อยู่เบื้องหน้าด้วยค่ะ

ก่อนหน้านี้ธุรกิจก็กำลังสนุกสนาน จะมีโอกาสกลับมาทำอีกไหม ?

พิ้งกี้ : ไลฟ์สดเหรอ ก็ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปค่ะ ลูกค้าหรือแม้กระทั่งพรีเซนเตอร์ที่เขารัก เขาก็ยังเอ็นดูเราอยู่ ก็ขอบคุณมากๆ นะคะ ยังเหนียวแน่นและยังเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ค่ะ ก็ขอบคุณมากๆ เลย

ตัวคดียังไม่สิ้นสุด มีผลต่อการรับงานยังไงบ้าง ?

ทนายปิ๊ก : จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีข้อจำกัดในการรับงานอะไร แต่อย่างที่พิ้งกี้บอก เราก็คุยกันเป็นระยะ อาจจะเพื่อความมั่นใจ ความสบายใจ ก็ปรึกษามา แต่ถามว่าเป็นอุปสรรคไหม แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร เพราะศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือตัดสิน ถ้าตามหลักกฎหมายสากลคือยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ส่วนในเรื่องที่จะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็เป็นเรื่องกระบวนการในศาล เป็นเรื่องหลักฐานกันต่อไปครับ

ในคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก ?

ทนายปิ๊ก : จริงๆ คงมีผู้เสียหาย และส่วนของคุณ พิ้งกี้ เองก็เป็นผู้ต้องหาและเป็นจำเลยที่ถูกฟ้อง แต่ทีนี้ก็อยากจะให้รอดูข้อเท็จจริง คือตรงนี้ถ้าเราจะพูดไปก่อนมันก็คงจะไม่เหมาะ หรือคงจะไปสะเทือนในเรื่องของการพิจารณาคดีของศาล ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง หรือพิจารณาดูนิดนึงว่ามีความเกี่ยวข้องแค่ไหน ยังไง

ถามถึงเรื่องบ้านที่ก่อนหน้านี้มีการประกาศขายไปแล้ว ตอนนี้เราอยู่ยังไง ?

พิ้งกี้ : ขายไปนานมากแล้วค่ะ หลายข่าวเลยเนอะ (ยิ้ม) อะ ขอเคลียร์เลย คุณแม่ เรื่องการพนัน คุณแม่ไม่ได้เล่น ไม่มีการเล่นการพนันใดๆ บ้านก็คือขายไปนานมากแล้ว และบ้านนั้นก็คือบ้านที่เราซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ ขายไปนานมาก จำระยะเวลาของไทม์ไลน์ไม่ได้ อยู่กับปัจจุบันค่ะ

ทนายปิ๊ก : ล่าสุด 2-3 วันมานี้มีข่าวเรื่องของการถอดกำไล EM ก็อย่างที่บอกว่าบางทีข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน ก็ขอความกรุณาศาล เพราะเราติดเรื่องของการจะมาถ่ายทำภาพยนตร์ แต่ว่าข้อมูลทางสื่อบางท่านอาจจะได้ไปคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วนเดี๋ยวพอเสร็จแล้วก็กลับไป

พิ้งกี้ : ปกติค่ะปกติ

คือถอดเฉพาะเวลาที่ถ่ายงาน ?

พิ้งกี้ : แล้วเดี๋ยวกลับไปใหม่ค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ

คำว่าชั่วคราวมีระยะเวลาเท่าไหร่ ?

ทนายปิ๊ก : จริงๆ แล้วก็คือขอศาลไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นภาระกิจครับ เพราะว่าโดยลักษณะตามกฎหรือตามอะไรต่างๆ มันไม่สามารถให้ปรากฏตัวกำไลได้

เท่ากับว่าถ้าปิดกล้องก็ต้องกลับไป ?

คุณหน่อย : ใช่ๆ จนกว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์ กุมาร เสร็จค่ะ

ใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำเท่าไหร่ ?

คุณหน่อย : น่าจะประมาณเกือบ 6 เดือนได้ค่ะ

ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่พิ้งกี้ใช่ไหม คนอื่นก็มีสิทธิ์ ?

ทนายปิ๊ก : ตรงนี้อยู่ที่เหตุผลความจำเป็นของแต่ละกรณีและสุดท้ายก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล

เรียกว่าเป็นการสัมภาษณ์เปิดใจของ พิ้งกี้ สาวิกา แบบเต็มอิ่ม ให้แฟนๆได้หายคิดถึง หลังจากนี้เจ้าตัวน่าจะมีผลงานออกมาให้แฟนๆได้ติดตามกันเรื่อยๆแน่นอนจ้า

คลิปอีจันแนะนำ
เบลล่า โสดต้อนรับ วาเลนไทน์ ถูกยกให้เป็นใบหน้ายอดนิยม