หมอปลาย พรายกระซิบ เปิดประสบการณ์วัยเด็ก เห็นผีจนคิดว่าเป็นบ้า

หมอปลาย พรายกระซิบ เปิดประสบการณ์วัยเด็ก เห็นผีจนคิดว่าเป็นบ้า คุณพ่อคุณแม่กอดคอร้องไห้

เป็นคนที่เห็นวิญาณมาตลอด แถมยังเห็นมาตั้งแต่อายุ 17 งานนี้ หมอปลาย พรายกระซิบ ขอเปิดใจเล่าเรื่องราววัยเด็กว่า เห็นผีจริงๆเป็นอย่างไร จัดการตัวเองอย่างไร แว่วมาว่า เคยกอดกับคุณพ่อ คุณแม่ร้องไห้ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นบ้าอีกด้วย โดย หมอปลาย เล่าว่า

“เห็นผีตั้งแต่เด็ก ไปไหนมันก็เห็น แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาคือผี จนกระทั่งคุณแม่ถามว่า ลูกไหว้ใคร ภาพที่จำได้คือเห็นผู้ชายนั่งอยู่ตรงเสา ตาลอยๆ เสื้อขาดๆ เราก็สวัสดีเขา แต่เริ่มรู้ชีดๆว่าเห็นผีคืออายุ 16-17 เริ่มแบ่งได้ชัดเจนว่า คนนี้ตาผิดปกติ คนนี้ตาเหมือนคนคนนี้ดูหน้าแปลกๆ เขารู้ว่าเราเห็น เขาก็พยายามตามเรา เขาใช้พลังตัดสัญญาณโทรศัพท์เรา เรากำลังโทรหาคุณแม่ แต่ก็โทรไม่ติด พี่ รปภ. ก็ถามหนูว่า หนูเห็นผีเหรอ อยู่ดีๆก็ถาม เราก็บอกว่า ใช่ค่ะ หนูกลัว เขาก็บอกให้จุดธูปไหว้พระที่โรงเรียน เลยเป็นการเริ่มต้นของทุกอย่างในวันนั้น ช่วงนั้นมันเป็นช่วง เห็นเทพ เห็นผี เห็นทุกอย่าง คุณแม่เขาก็นึกว่าลูกผิดปกติหรือเปล่า แต่เขาก็เห็นเราไข้ขึ้น ก็เลยมารับที่โรงเรียน”

“ถามว่าแยกผี กับ เทพ ได้ยังไง ผีจะไม่มีตาขาว ตาดำเหมือนคน จะมีขาวก็ขาวไปเลย ดำก็ดำไปเลย บางคนก็ชุดดำ เล็บยาวมาก เป็นผู้หญิง ผู้ชายก็จะชุดขาดๆ ถ้าเทพตอนนั้นหนูจะเห็นเป็นขาวๆ มีทองๆนิดนึง แบบนั้นคือเจ้าที่ อีกแบบหนึ่งคือมาแบบครบเครื่อง จะมีพาหนะ และขยับได้ เห็นเลยว่าหน้าแขก มีสีทองแบบแสบตาอย่างนั้นค่ะ เลยเริ่มแยกแยะได้”

“ก่อนที่จะมีหนู คุณแม่ขอเยอะมาก คุณแม่ทำงานแถวสีลม ก็จะขอทางวัดแขก ขอเจ้าแม่กวนอิมด้วย ก็เลยมาครบ วันนึงมีเหมือนองค์ลง ประมาณว่าวันนั้นวันเข้าพรรษา ไปทำบุญกลับมา อยู่ๆหายใจไม่ออก เหมือนมีคนมาบีบหน้าอก หนูเลยบอกป๊า หายใจไม่ออกอ่ะ ป๊าก็บอกว่า เวอร์ หนูก็ปรี๊ดขึ้นมา ถามว่า ไม่เชื่อหรอ? หนูก็หลับตาปี๋ ร้องไห้ เห็นเป็นชุดขาวอยู่ข้างนอกบ้าน ป๊าก็เดินมาข้างหลัง เอาสร้อยมาใส่ แล้วหนูก็พูดว่า กูไม่ใช่ผีนะไม่ต้องเอาพระมาใส่ แต่หนูหลับตานะ แล้วแม่ก็โทรหาหมอดู ก็เลยจุดธูป หลังจากนั้นชีวิตก็เริ่มเปลี่ยน”

“สิ่งที่แม่กับป๊ารับมือคือ ร้องไห้ เราร้องไห้กัน 2-3 ปีหนักๆเลย สงสัยว่าลูกเป็นใคร เกิดอะไรขึ้น ลูกเห็นอะไร ลูกบ้าหรือเปล่า ก็เครียดกัน บางทีแม่เขาไปส่งหนูที่โรงเรียน กลับมาก็กอดป๊าร้องไห้กันสองคน หนูก็ไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นมันไม่รู้เลยว่ามันแย่ขนาดนั้น เราเห็นอะไรมันวู๊บวับๆตลอดเวลา เราต้องสู้กับสิ่งที่เราเห็น เราเลยไม่ได้สนใจป๊ากับแม่ ณ ตอนนั้นไปไหนด้วยกันคุณแม่ผวาตลอด ตอนนั้นมันเห็นเหมือนมันจะบ้า แต่ไปหาจิตแพทย์นะ เขาก็ถามเรื่องการใช้ชีวิต มันปกติหมด คุณหมอบอกว่า ก็ต้องยอมรับอ่ะ”

“เจอตอนแรกๆ ก็จะทัก ก็จะวิ่งหนี บางทีพูดเขาก็ตาม เขาตามขึ้นรถ เขาทำให้รถชนได้ เริ่มไม่คุย ลองไม่เห็นเขา เขาเริ่มไม่สนใจเรา เราก็ไม่รู้ไม่ชี้ เขาก็เลยไม่ยุ่งกับเราเท่าไหร่ จริงๆเขาอยากได้บุญแหละ แต่ว่าเรายังเด็ก เราไม่รู้ มีครั้งนึง ไปทะเล เขามาบอกว่าเขาอยากให้ใส่บาตรให้หน่อย เราพยายามตามล่า หาพระเพื่อใส่บาตร สุดท้ายอุปสรรคต่างๆทำให้ไม่สามารถใส่ได้ เขาตามกลับมาบ้าน เราเลยจุดธูปว่า ถ้าอยากให้ใส่จริงๆ เดี๋ยวจะออกไปอีกครั้งนึง ทำให้ได้ใส่บาตร สุดท้ายก็ได้ใส่จริงๆ”

“พูดแล้วก็เหมือนคนบ้า ตอนนั้น พูดก็แปลก ฝันก็แปลก เวลาคุยกับคุณแม่มันจะเหมือนกึ่งความฝัน กึ่งความเป็นจริง แต่จริงๆเราไม่ได้หลับ คุณพ่อ กับคุณแม่ก็รู้สึกว่า ลูกไม่ใช่ตัวเอง ลูกเหมือนไม่ใช่ลูก เขาก็เลยเสียใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ลูกคนเดิมหายไปไหน เรื่องการเรียนก็มีปัญหา เคยเรียนดี ท่านเข้าร่างบ่อย เกรดก็ตกฮวบเลย แต่จบปริญญาตรีนะ ท่านทิ้ง ม.ปลาย แต่ปริญญาตรีเก็บได้ทุกหน่วยกิจนะ โดดเรียน หนีเรียนเต็มที่ แต่ทุกอย่างก็ผ่านหมด”

เป็นจุดเริ่มต้น ของการเห็นผี เห็นเทพต่างๆของหมอปลาย ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ง่ายเลยที่เด็กคนหนึ่งจะต้องมาเจอเรื่องราวแบบนี้ และครอบครัวเอง กว่าจะผ่านมาได้ ใช้เวลานานเช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคนนั่นเองค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ
เรื่องเล่าชวนขนหัวลุก จากประสบการณ์ตรง #หมอปลายพราบกระซิบ เจอผีที่ต่างประเทศ