​พอล ภัทรพล ลั่น พิธา ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ กกต.ต่างหากที่ขาด

​​พอล ภัทรพล ลั่น พิธา ไม่ได้ขาดคุณสมบัติ กกต.ต่างหากที่ขาด เตือนระวังโดนฟ้อง

หลังจากที่เมื่อวานนี้ 12 ก.ค. กกต. มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ( 3 )ประกอบมาตรา 101 ( 6 ) หรือไม่ เนื่องจากมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัทไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น รวมทั้งมีคำขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ล่าสุด พอล ภัทรพล ได้ออกมาอัดคลิป ฟาด กกต. ถึงเรื่องดังกล่าว โดย พอล เผยว่า

ไม่น่าเชื่อว่า กกต. จะทำ New LOW ได้มากกว่านี้อีกนะครับ จะเล่นงานคุณ พิธา มาตรา 151 ก็คือรู้อยู่แล้วว่าตัวเองขาดคุณสมบัติ แต่ก็ยังสมัครใช่ไหมครับ

ต้องออกตัวก่อนว่า ไม่ได้ทำเพื่อคุณ พิธา นะครับ ทำเพื่อความถูกต้องครับ สมมุต ถ้าเพื่อไทยชนะ ตอนนี้ผมก็คงจะพูดถึง คุณอุ๊งอิ๊ง หรือ คุณเศรษฐา ถ้าทั้งสองคนเจอแบบคุณพิธาเหมือนกัน ก็จะทำคลิปนี้อยู่ดี พูดเหมือนเดิมครับ

ต้องบอกว่าสิ่งที่ กกต. ทำน่าเกลียดมาก คุณคือหน่วยงานอิสระ แต่เอาตรง ๆ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่หน่วยงานอิสระ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้มันไม่น่าเกลียดอย่างนี้ได้ไหม เรื่องขาดคุณสมบัติไร้สาระมากนะครับ

1. ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่า คุณพิธา ขาดคุณสมบัติ คุณปล่อยให้เขาเป็น ส.ส. ได้อย่างไรมา 4 ปีกว่า ทำไมเพิ่งจะมาขาดคุณสมบัติเอาตอนนี้

2. คุณรู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้วครับ ไม่ใช่เพิ่งมารู้เมื่อวาน เรื่องหุ้นไอทีวี ดังมา 2 เดือนแล้ว คำถามคือช่วงที่ผ่านมาคุณไปทำอะไรอยู่

3. จนตอนนี้ กกต. ยังไม่เคยขอคลิปวิดีโอเต็มจากไอทีวีเลย ส่วนไอทีวีก็ไม่เคยเอาคลิปเต็ม ออกมาเปิดเผยครับ เพราะมันง่ายมากเลยครับ เอาคลิปมาเปิดก็จะรู้ว่าใครโกหกไม่โกหก ใครผิด ใครถูก

4. กกต. ทำงานกลับหัวกลับหางหรือเปล่า การทำแบบนี้คือวัวหายล้อมคอกมากๆ ทุกคนคิดตามนะครับ จริงๆ กกต. ควรต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อนหรือไม่ ว่าคนไหนสมัคร ส.ส.ได้หรือไม่ได้ คนไหนขาดคุณสมบัติ บอกตั้งแต่แรกเลย พรรคนั้นจะได้วางแผนใหม่ การที่คุณให้ลงสมัครไปก่อน แล้วค่อยมาตรวจสอบทีหลัง มันเสียเงิน เสียเวลา เสียแรงมากมายนะครับ ทุกพรรคต้องหาเสียงใช่ไหมครับ เขาต้องทำโฆษณาต่างๆ จนไม่เลือกตั้ง สุดท้ายมาบอกว่าคนนี้ คนนี้ขาดคุณสมบัติ ลองคิดถึงความเสียหาดูครับ เงินที่แต่ละพรรคใช้เงินไปเท่าไหร่ แรงที่เขาต้องใส่เท่าไหร่ ประชาชนที่ต้องขับรถออกจากบ้าน ไปเลือกตั้ง บางคนมาจากต่างจังหวัด บางคนป่วยอยู่โรงพยาบาล ยังต้องขอคุณหมอออกไปเลือกตั้ง และอย่าอ้างว่าผู้สมัครเยอะดูไม่ทัน คุณไม่จำเป็นต้องดูหมด คุณดูแค่แคนดิเดตของแต่ละพรรคก็พอ เพราะแต่ละพรรคมีเต็มที่ก็แค่ 3 คน คุณเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากถูกไหมครับ เพราะว่าหนึ่งในนั้นมีโอกาสที่จะเป้นนายกรัฐมนตรี หน้าที่คุณคือตรวจสอบก่อนเลยว่า ใครขาดคุณสมบัติ หรือใครไม่ขาด ใครสมัครได้ หรือไม่ได้ ถ้าสกรีนก่อนก็จะไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น นี่ท่านดูงานต่างประเทศมาแล้วจริงๆใช่ไหมครับ ทั้ง 6 ท่านไปดูงานที่ต่างประเทศมาแล้วนะครับ ใช้เงินถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน คิดไม่ได้จริง ๆ เหรอครับว่ามันควรจะสกรีนก่อน

เพราะฉะนั้นนะครับเงิน 6 พันล้านบาท เป็นเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินพวกท่าน 6 คนออกเองซะที่ไหนล่ะ ยังไม่รวมว่าคุณพิธาเขาลื่น ปปช. ไปนานแล้วนะครับ

ทุกคนคิดตามนะครับ ใจเขา ใจเรา ตอนที่คุณธนาธร โดนเล่นเรื่องสื่อจนโดนยุบพรรค คุณพิธาอยู่ในเหตุการณ์ไหม คำตอบคืออยู่ และก็รู้ว่าโดนเรื่องสื่อ คำถามคือ เห็นหัวหน้าพรรค โดนเล่นเรื่องถือหุ้นสื่อ จนต้องโดนยุบพรรค และตัวเองก็ถือหุ้นสื่อในนามมรดก เป็นคุณจะโง่เก็บไว้ไหมครับ เป็นคนทั่งไปยังคิดได้เลย แปลว่าเหตุผลที่เขาเก็บไว้คือ รู้ว่ามันไม่ผิดไงครับ เพราะว่า ไอทีวีหยุดเป็นสื่อตั้งแต่ปี 2550 ยังไม่รวมว่าเขาถือในนามผู้จัดการมรดก ผู้จัดการมรดก ไม่ใช่เจ้าของมรดกครับ

ต่อให้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญจริง มันก็มีแนวทางพิพากษาไว้แล้ว มีอยู่ 3 พรรค 3 กรณีที่รอด และบังเอิญว่าทั้ง 3 พรรคเป็นฝ่ายรัฐบาลเก่า

เคสแรกถือหุ้นเอไอเอส 400 หุ้น ศาลถือว่าถือหุ้นแค่นี้มันน้อยมาก ไม่มีอำนาจไปสั่งอะไรได้หรอก ซึ่งก็เหมือนกับคุณพิธาเลย ที่ถือหุ้นแค่ 0.0035% มันน้อยแค่ไหน ถ้าคุณลงทุนกับเพื่อน 1 ล้าน เท่ากับ 35 บาท คอมมอนเซ้นส์เลยครับ คุณพิธาไม่ได้เป็นกรรมการบริหารจะมีอำนาจไปสั่งใครได้ครับ คนมีอำนาจสั่งการได้ต้องถือหุ้นรายใหญ่เท่านั้นครับ

ต่อมาอีก 2 เคส ถือหุ้นสื่อทั้งคู่ และสองบริษัทนี้จดด้วยว่าเป็นสื่อ แต่ศาลท่านดูลึกกว่านั้น ว่ารายได้หลักไม่ได้มาจากการจากการทำสื่อ อันนึงมาจากการจัดการอีเวนต์ อันนึงมาจากสัมมนา ศาลเลยตัดสินว่าไม่ผิด เพราะรายได้หลักไม่ได้มาจากสื่อ ไอทีวีก็เช่นเดียวกัน (ขาดทุนด้วยนะครับ)

ท่านกกต. ครับ ปี 62 ท่านก็พลาดมาทีนึงแล้วนะ ส.ส.เชียงใหม่ ท่านก็ให้ไปส้มเขา ทั้งๆที่มีใบเหลืองกับใบแดง สุดท้ายส.ส.คนนั้นฟ้องแล้วชนะคดีด้วยนะครับ กกต.ต้องจ่ายเงินหลายล้าน แต่คราวนี้ท่านเล่นใหญ่กว่าเดิม ระวังท่านจะโดนมากกว่าเดิมครับ

ขอเพิ่มเติมอีกนิด ไอทีวีหยุดออกอากาศมาตั้งแต่ปี 50 ผ่านมา 16 ปีให้หลัง มีความพยายามจะฟื้นคืนชีพสื่อ ท่านไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมช่างบังเอิญจัง หรือจริงๆ ท่านรู้แต่เพิกเฉย

สรุปนะครับ สิ่งที่คุณไม่ได้ทำ คุณไม่ได้ถามไอทีวีว่าตกลงคลิปกับเอกสารอันไหนถูก ให้ยึดอันไหน สองคือคุณมีเวลาตั้งหลายเดือนแต่มาทำเอาวันนี้ บังเอิ๊ญบังเอิญก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน สามไม่มีความเอะใจเลยเหรอว่าไอทีวี หยุดการเป็นสื่อมาแล้ว 16 ปี มันบังเอิญเหลือเกินที่อยู่ๆ จะกลับคืนมาเป็นสื่อตอนก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง

คุณพิธาไม่ได้ขาดคุณสมบัติครับ คุณต่างหากที่ขาดครับ และระวังมาตรา 157 นะครับ ละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปีครับ

ซึ่งคลิปดังกล่าวของ พอล มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย

คลิปอีจันแนะนำ
แม่ปุ้ย เปิดใจ รับทราบมีนางงาม MUT หายไป 5 จังหวัด