
จบลงแล้วสำหรับงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ของวงการดนตรี อย่างงาน Grammy Awards 2023 หรือ Grammy Awards ครั้งที่ 65 งานประกาศรางวัลเพื่อมอบให้กับศิลปิน และอัลบั้มที่ดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา โดยปีนี้จัดขึ้นที่ Crypto.com Arena ลอสแอนเจลิส เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.พ. 66 (ตามวัน และเวลาประเทศไทย)
โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มสาขารางวัลใหม่อีก 5 สาขา ไม่ว่าจะเป็น สาขานักแต่งเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี (Songwriter of the Year (Non-Classical)), สาขาอัลบั้มเพลงอัลเทอร์เนทีฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Best Alternative Music Performance), สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมแห่งปี สำหรับเกมและสื่ออินเตอร์แอ็กทีฟ (Best Score Soundtrack For Video Games and Other Interactive Media), อัลบั้มเพลงกวียอดเยี่ยมแห่งปี (Best Spoken Word Poetry Album) และรางวัล Special Merit Award: Best Song For Social Change รางวัลพิเศษสำหรับผู้สร้างสรรค์งานเพลงที่พูดถึงประเด็นทางสังคมโดยเฉพาะ รวมทั้งหมดกว่า 91 รางวัล ทำให้หลายคนจับตามองอย่างหนัก ว่าศิลปินคนไหนจะสามารถคว้ารางวัลเหล่านี้ไปได้
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในปีนี้ก็คงหนีไม่พ้นตัวแม่อย่าง Beyonce ( บียอนเซ่ ) โดยเธอสามารถคว้ารางวัลไปได้ถึง 4 รางวัล ไม่ว่าจะเป็นรางวัลอัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม (Best dance/electronic album) จากอัลบั้ม Renaissance, รางวัลเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม (Best R&B song) จากเพลง Cuff It, รางวัลบันทึกเสียงเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Best dance/electronic recording) จากเพลง Break My Soul และรางวัลการแสดงเพลงอาร์แอนด์บีแบบดั้งเดิมยอดเยี่ยมจากเพลง Plastic Off the Sofa ด้วยเหตุนี้เองทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นศิลปินที่ชนะ รางวัลแกรมมี่ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสามารถทำสถิติทั้งหมด 32 รางวัล
และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หลายคนไม่คาดคิด เมื่อแรปเปอร์ และนักแสดงสาวชาวอเมริกันอย่าง Lizzo ( ลิซโซ ) สามารถคว้า รางวัลแกรมมี่อวอร์ด สาขาใหญ่อย่าง สาขาบันทึกเสียงแห่งปี (Record Of The Year) ไปครอบครอง ด้วยเพลง About Damn Time จากอัลบั้ม Special ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธออีกด้วย โดย ลิซโซ ได้กล่าบนเวทีว่า “ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมน ฉันไม่เพียงเชื่อว่าคนเราทำดีได้ แต่เรามนุษย์ทุกคนล้วนมีความดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว”
ทั้งนี้เธอยังได้กล่าวถึง บียอนเซ่ ด้วยความปลื้มใจว่า “ บียอนเซ่ สมัยฉันอยู่เกรด 5 ฉันเคยโดนเรียนเพื่อไปดูคุณแสดง น้องสาวฉันชวนฉันโดนเรียน เป็นวีรกรรมที่ฉันเคยทำในตอนนั้น ว่าแต่…ตอนนี้คุณยืนอยู่ตรงไหน ตอนนี้ฉันนำตาคลอแล้ว คุณเปลี่ยนชีวิตฉัน คุณร้องเมดเลย์เพลงกอสเปลเหล่านั้น และสิ่งที่คุณทำ ทำให้ฉันรู้สึก ฉันอยากให้ผู้คนรู้สึกแบบนี้ด้วยกับเพลงของฉัน ขอบคุณมากๆ คุณคือศิลปินในดวงใจของพวกเรา ฉันรักคุณ ขอพระเจ้าอวยพรทุกคน ฉันชนะราง วัลแกรมมี่ ! “ จนกลายเป็นไวรัลที่ประทับใจคนไปทั่วโลก
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งหนุ่มที่สามารถคว้ารางวัลใหญ่อย่าง อัลบั้มแห่งปี และรางวัล อัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม ไปครองถึง 2 รางวัล ซึ่งนั้นก็คือนักร้องหนุ่ม Harry Styles ( แฮร์รี่ สไตล์ส ) ด้วยผลงานจากอัลบั้ม Harry’s House นั้นเอง
สรุปผลรางวัล Grammy Awards 2023 มีดังนี้
- Album of the year ได้แก่ Harry Styles จากอัลบั้ม Harry’s House
- Best new artist ได้แก่ Samara Joy
- Record of the year ได้แก่ Lizzo จากเพลง About Damn Time
- Song of the year ได้แก่ Bonnie Raitt จากเพลง Just Like That
- Best pop solo performance ได้แก่ Adele จากเพลง Easy on Me
- Best dance/electronic album ได้แก่ Beyonce จากอัลบั้ม Renaissance
- Best rap album ได้แก่ Kendrick Lamar จากอัลบั้ม Mr. Morale & the Big Steppers
- Best musica urbana album ได้แก่ Bad Bunny จากอัลบั้ม Un Verano Sin Ti
- Best pop duo/group performance ได้แก่ Sam Smith and Kim Petras จากเพลง Unholy
- Best country album ได้แก่ Willie Nelson จากอัลบั้ม A Beautiful Time
- Best R&B song ได้แก่ Beyonce จากเพลง Cuff It
- Best pop vocal album ได้แก่ Harry Styles จากอัลบั้ม Harry’s House
- Best dance/electronic recording ได้แก่ Beyonce จากเพลง Break My Soul
- Best global music performance ได้แก่ Wouter Kellerman, Zakes Bantwini & Nomcebo Zikode จากเพลง Bayethe
- Best country solo performance ได้แก่ Willie Nelson จากเพลง Live Forever
- Best R&B performance ได้แก่ Muni Long จากเพลง Hrs & Hrs
- Best rap performance ได้แก่ Kendrick Lamar จากเพลง The Heart Part 5
- Best metal performance ได้แก่ Ozzy Osbourne Featuring Tony Iommi จากเพลง Degradation Rules
- Best rock performance ได้แก่ Brandi Carlile จากเพลง Broken Horses
- Best rock album ได้แก่ Ozzy Osbourne จากอัลบั้ม Patient Number 9
- Best alternative music album ได้แก่ Wet Leg จากอัลบั้ม Wet Leg
- Best traditional R&B performance ได้แก่ Beyonce จากเพลง Plastic Off the Sofa
- Best progressive R&B album ได้แก่ Steve Lacy จากอัลบั้ม Gemini Rights
- Best R&B album ได้แก่ Robert Glasper จากอัลบั้ม Black Radio III
- Best rap song ได้แก่ Kendrick Lamar จากเพลง The Heart Part 5
- Best comedy album ได้แก่ Dave Chappelle จากอัลบั้ม The Closer
- Best folk album ได้แก่ Madison Cunningham จากอัลบั้ม Revealer
- Best country song ได้แก่ Cody Johnson จากเพลง Til You Can’t
อีจันบันเทิง ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับศิลปินทุกๆ ท่านด้วยนะคะ